xs
xsm
sm
md
lg

แฉลึก! ทรัมป์เบรกเพนตากอน ฉุนถูกข้ามหัว ปมแถลงกลับลำส่งอาวุธเพิ่มให้ยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มองดู จณะรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีต เฮกเซธ พูด ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีของทรัม์ ที่ทำเนียบขาว วันอังคาร (9 ก.ค.)
แหล่งข่าวแย้มทรัมป์ตัดสินใจส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่ม เนื่องจากไม่พอใจที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ข้ามหัวทำเนียบขาวประกาศระงับการส่งอาวุธบางอย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยพลการ


สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศระงับการจัดส่งขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศบางประเภท กระสุนปืนใหญ่นำวิถี และอาวุธอื่นๆ ให้แก่ยูเครน เนื่องจากกังวลกับสต็อกอาวุธที่ร่อยหรอลง

ทว่า เมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับประกาศว่า อเมริกาจะส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่ม

แหล่งข่าววงในสองคนแย้มว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนบางคนมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับการระงับการส่งอาวุธให้เคียฟ ซึ่งมีเอลบริดจ์ โคลบี้ หัวหน้าฝ่ายนโยบายของกระทรวงฯ เป็นผู้ประสานงาน ก่อนที่เพนตากอนจะประกาศเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แหล่งข่าวหนึ่งในสองเสริมว่า ทรัมป์ไม่รู้เรื่องดังกล่าวมาก่อน ขณะที่ทำเนียบขาวไม่ยอมตอบคำถามว่า ทรัมป์แปลกใจหรือไม่กับการสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือของเพนตากอน

ด้านคิงส์ลีย์ วิลสัน โฆษกเพนตากอน ยืนยันว่า พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม ไม่ได้ตัดสินใจโดยไม่ปรึกษาทรัมป์ และแจงว่า รัฐมนตรีกลาโหมมีหน้าที่จัดทำข้อเสนอแนะทางการทหารต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งก็คือประธานาธิบดี และที่ผ่านมา เฮกเซธได้เสนอกรอบงานเพื่อให้ทรัมป์ประเมินการจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารและสต็อกอาวุธที่มีอยู่

วิลสันเสริมว่า เพนตากอนจะยังคงเสนอทางเลือกที่เหมาะสมเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการยุติสงครามในยูเครนและนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของทรัมป์

นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ เพนตากอนยังแถลงว่า จะกลับมาจัดส่งอาวุธให้ยูเครนต่อไปตามคำสั่งของทรัมป์ เพื่อให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถป้องกันตนเองได้ ขณะที่วอชิงตันพยายามผลักดันสันติภาพระยะยาว และยุติการสู้รบที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า เพนตากอนจะส่งอาวุธชนิดใดให้เคียฟ แม้ทรัมป์ระบุว่า อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือเคียฟสำหรับอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศเป็นหลักก็ตาม

ทั้งนี้ คำสั่งของเพนตากอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งผลต่อการจัดส่งขีปนาวุธแพตทริออต เฮลล์ไฟร์ และกระสุนปืนใหญ่วิถีโค้ง ฯลฯ ซึ่งไม่ได้สร้างความประหลาดใจต่อยูเครนและชาติพันธมิตรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ ของคณะบริหารของทรัมป์

การระงับการจัดส่งอาวุธสำคัญครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ยูเครนต้องเผชิญการโจมตีทางอากาศที่ซับซ้อนและถี่ขึ้นจากรัสเซีย โดยเมื่อคืนวันจันทร์ ทรัมป์ยอมรับว่า ยูเครนที่กำลังถูกโจมตีหนักมากจำเป็นต้องมีศักยภาพในการป้องกันตนเอง

ต่อมาในวันอังคาร (8) เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นผู้อนุมัติการระงับการส่งอาวุธให้เคียฟ ทรัมป์หงุดหงิดขึ้นมาทันทีและสวนกลับไปว่า “ไม่รู้”

“ไม่แฮปปี้”กับปูติน

ทรัมป์ยังกล่าวเป็นทำนองว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย กำลังทำให้สงครามยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ ประมุขทำเนียบขาวผู้นี้เคยประกาศตั้งแต่ตอนหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ถึงตอนนี้ยังคงหาทางออกไม่ได้ ขณะที่การเจรจาหยุดยิงระหว่างเคียฟกับมอสโกหยุดชะงัก

หลายวันมานี้ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ไม่พอใจปูตินมากขึ้นทุกที และในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร ทรัมป์บ่นว่า ปูตินดูเป็นคนน่าคบ แต่เอาเข้าจริงสิ่งที่พูดมาทั้งหมดกลับมีแต่คำโกหกไร้ความหมาย

ทรัมป์ยังขู่ว่า กำลังพิจารณาร่างกฎหมายเพิ่มมาตรการแซงก์ชันรัสเซียอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เขาเคยขู่แซงก์ชันอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียเพื่อบีบให้ปูตินยอมเจรจาสันติภาพ แต่ไม่ได้ลงมือทำจริงจังสักครั้ง

กระนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกของรีพับลิกัน เผยว่า ทรัมป์ไฟเขียวให้ผลักดันร่างกฎหมายใหม่ที่ครอบคลุมการเรียกเก็บภาษี 500% สำหรับสินค้าของประเทศที่ยังคงซื้อน้ำมัน ก๊าซ ยูเรเนียม และสินค้าอื่นๆ จากรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจีนและอินเดีย สองมหาอำนาจเศรษฐกิจเอเชียที่สั่งซื้อน้ำมันจากมอสโก

(ที่มา: เอพี/รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น