ไทยกำลังพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงถูกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงโทษทางภาษีปรับเพิ่มเพดานภาษีสินค้าส่งออกไปยังอเมริกา เป็น 36% ด้วยการเสนอให้สินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของอเมริกาเข้าถึงตลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับการยกระดับการซื้อพลังงานและเครื่องบินของโบอิ้ง ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
รายงานข่าวของบลูมเบิร์กระบุว่าข้อเสนอล่าสุดของกรุงเทพฯ มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีและลดตัวเลขเกินดุลการค้าที่ไทยมีกับสหรัฐฯราว 46,000 ล้านดอลลาร์ ลง 70% ภายใน 5 ปี และสู่ระดับสมดุลภายใน 7 หรือ 8 ปี จากคำกล่าวของนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กในวันอาทิตย์(6ก.ค.) ถือเป็นกรอบเวลาเร็วกว่าที่เคยรับปากไว้ว่าจะกำจัดช่องว่างดังกล่าวภายใน 1 ทศวรรษ ภายใต้ข้อเสนอเดิมก่อนหน้านี้ที่ยื่นโดยฝ่ายไทย
บลูมเบิร์กระบุต่อว่านายพิชัยคาดหมายว่าจะมีการยื่นข้อเสนอฉบับแก้ไขก่อนวันที่ 9 กรกฏาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของคำสั่งพักรีดภาษี 90 วันที่แถลงโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และถ้ามันได้รับการตอบรับ ทางไทยก็สามารถยกเว้นภาษีนำเข้าหรืออุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีในทันที สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันก็จะค่อยๆคลายข้อจำกัดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนสำหรับกลุ่มสินค้าอีกล็อต
ข้อเสนอที่ได้รับการปรับแก้นี้ มีขึ้นหลังจากนายพิชัย ได้พบปะกับ เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และ ไมเคิล ฟอลเคนเดอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในการเจรจาปลดรีดภาษีในระดับรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดี(3ก.ค.) ขณะที่นายพิชัย กล่าวอ้างกับบลูมเบิร์กว่า ด้วยที่สินค้าจำนวนมากของสหรัฐฯที่จะได้รับไฟเขียวให้เข้าถึงตลาดไทยมากขึ้น ไม่ค่อยมีในท้องถิ่น ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรหรือผู้ผลิตท้องถิ่น
"สิ่งที่เรานำเสนอกับพวกเขาก็คือ ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน" นายพิชัยกล่าว "สหรัฐฯสามารถค้าขายกับเรามากขึ้น และเราสามารถใช้โอกาสนี้ชำระล้างกระบวนการต่างๆของเราและลดกฎระเบียบที่ยุ่งยากซับซ้อนทางราชการ"
รายงานของบลูมเบิร์กระบุว่า ไทย เป็นหนึ่งในหลายประเทศ ที่กำลังเร่งปิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงเพดานภาษีที่สูงลิ่ว ความล้มเหลวในการลดเพดานภาษีใดๆกับตลาดการส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศ อาจก่อผลลัพธ์การหดตัวอย่างรุนแรงในการส่งออกสินค้า และอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางจีดีพีของไทย สูงสุดราวๆ 1%
เวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านของไทย บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย ทรัมป์ แถลงว่าจะรีดภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนาม 20% และ 40% สำหรับสินค้าที่พิจารณาแล้วว่าเป็นการส่งต่อหรือสวมสิทธิ์
นายพิชัย ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กต่อว่า ไทย กำลังผลักดันให้ได้ข้อตกลงกรณีดีที่สุด อัตราภาษี 10% พร้อมระบุว่าเพดานภาษีในขอบเขต 10% ถึง 20% เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ "สิ่งเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นคือ เราได้ข้อตกลงแน่ที่สุดในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคของเรา"
นอกจากนี้แล้ว นายพิชัยเผยด้วยว่า ไทย ยังได้ปรับเปลี่ยนแผนเชิงรุกมากยิ่งขึ้นในการสั่งซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซธรรมชาติเหลวและเครื่องบินของโบอิ้ง ซึ่งคาดหมายว่าจะช่วยลดภาวะไม่สมดุลทางการค้าได้อย่างมาก
(ที่มา:บลูมเบิร์ก)