เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอเมริกันคนดังซีอีโอประจำ Berkshire Hathaway สร้างความตกตะลึงไปทั่วแก่บรรดานักลงทุนด้วยการประกาศการลาออกจากตำแหน่งซีอีโอในขณะที่มีอายุได้ 94 ปีสำหรับอาณาจักรธุรกิจที่ได้กุมบังเหียนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1965 ก่อนที่จะยืนไม้ส่งต่อไปให้กับรองประธานกรรมการ เกร็ก อาเบล
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันเสาร์(3 พ.ค)ว่า มหาเศรษฐีนักลงทุนอเมริกันรวยเป็นอันดับที่ 5 ของโลกและนักการกุศลวัย 94 ปี วอร์เรน บัฟเฟตต์ ล่าสุดในการประชุมผู้ถือหุ้นวันเสาร์(3) สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีด้วยข่าวการตัดสินใจยื่นไม้ต่อให้ เกร็ก อาเบล ( Greg Abel) รองประธานอาณาจักรธุรกิจมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ Berkshire Hathaway และตัวเขาจะลงออกจากตำแหน่งประธานในสิ้นปี 2025
ในการประชุมผู้ถือหุ้นบัฟเฟตต์ได้เสนอชื่ออาเบลในฐานะผู้ที่เหมาะสมให้กับบอร์ด 11 คน ซึ่งปัจจุบันนี้มือขวาของบัฟเฟตต์กำลังดูแลด้านการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในปัจจุบัน
บรรดานักลงทุนจำนวนมากในสำนักงานใหญ่ที่เมืองโอมาฮามา รัฐเนแบรสกา ได้ยืนขึ้นปรบมือเพื่อเป็นเกียรติแก่วอร์เรน บัฟเฟตต์ที่บริหาร Berkshire Hathawayมานานถึง 60 ปี
“ผมคิดว่าเวลาได้มาถึงที่เกร็กสมควรขึ้นเป็นซีอีโอของบริษัทในตอนสิ้นปี”
และตอกย้ำความตั้งใจว่า “ผมไม่มีความตั้งใจแม้แต่น้อยของการขายแม้แต่หุ้นเดียวของ Berkshire Hathaway (แต่)ผมจะบริจาคไปทั้งหมดในท้ายที่สุด”
“การตัดสินใจที่จะเก็บทุกหุ้นไว้ถือเป็นการตัดสินใจอย่างเป็นการทำกำไรเชิงเศรษฐศาสตร์เป็นเพราะผมคิดว่ามุมมองของ Berkshire จะดีกว่าภายใต้การบริหารของเกร็กมากกว่าของผม”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า บัฟเฟตต์ได้ประกาศข่าวการลงจากตำแหน่งซีอีโอ Berkshire Hathaway ในเซสชั่นช่วงถามตอบ 5 ช.ม และอีกทั้งไม่ได้ตอบคำถามใดๆต่อแผนการเกษียณอายุของเขา
บัฟเฟตต์เป็นผู้นำอาณากจักร Berkshire ที่มีฐานในเมืองโอมาฮามาตั้งแต่ปี 1965 และได้รับการยกย่องมากมายในการเปลี่ยนผ่านจากบริษัททางด้านสิ่งทอที่งุ่มง่ามไปสู่อาณาจักรธุรกิจมูลค่าร่วม 1.03 ล้านล้านดอลลาร์โดยที่มีธุรกิจหลายสิบแห่งในเครือตั้งแต่ ประกันภัย บริษัททางรถไฟ และพลังงาน รวมไปถึงด้านอื่นๆ
ไฟแนนซ์ ยาฮูที่รายงานจาก The Motley Fool ในวันที่ 14 เม.ย ที่ผ่านมาถึง ความเป็นอัจฉริยะของบัฟเฟตต์เป็นต้นว่า การมองการไกลของเขาที่เมื่อในปี 2008 ได้ซื้อหุ้นรถยนต์ไฟฟ้าจีน BYD ไว้ 10% หรือราว 230 ล้านดอลลาร์แต่กลับได้รับผลตอบแทนคืนถึง 2,000 %
โดยถึงแม้บัฟเฟตต์จะขายพอร์ตลงทุนแรกสุดไปแต่ทว่ายังเก็บไว้คิดเป็น 4.4% ของหุ้นบริษัท BYD ที่ปัจจุบันที่กำลังรายงานคิดเป็นมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นชาวเดโมแครตที่ก่อนหน้าเคยประกาศจะบริจาค 99.5% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่เหลือไปยังมูลนิธิการกุศลที่บุตรสาวและบุตรชาย 2 คนบริหารเมื่อเขาเสียชีวิต
อ้างอิงจากการจัดลำดับนิตยสารฟ็อร์บส์ พบว่าเขามีความมั่งคั่งที่ 165.3 พันล้านดอลลาร์
และเมื่อช่วงต้นของวันเสาร์(3) วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้ออกมาเตือนถึงหายนะเลวร้ายระดับโลกจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โดนัลด์ ทรัมป์
เขาได้เปิดเผยกับบรรดานักลงทุนที่ต่างรวมตัวในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีว่า “อย่างไม่ต้องสงสัยว่าการค้าสามารถเป็นการแสดงการปฎิปักษ์
บัฟเฟตต์กล่าวนโยบายการค้าของทรัมป์ได้สร้างความเสี่ยงต่อการไร้เสถียรภาพระดับโลกด้วยการสร้างความโกรธแค้นจากทั่วโลก