รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ IAEA วันจันทร์ (12 ส.ค.) แถลงโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ซาโปริเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังรัสเซียยังคงอยู่ในสภาพปลอดภัยไม่พบระดับรังสี หลังภาพควันดำจากไฟไหม้หอหล่อเย็นพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าวันอาทิตย์ (11 ส.ค ) ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ชี้ทหารรัสเซียจุดไฟเผาแต่เครมลินสวนกลับโดนโดรนเคียฟโจมตี
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (13 ส.ค.) ว่า ทีมเจ้าหน้าที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ IAEA “ไม่พบ” สิ่งที่บ่งชี้ของซากโดรนและประเมินว่า ไม่น่าจะเป็นสาเหตุเบื้องต้นของการที่ไฟเริ่มต้นไหม้ที่ฐานของหอหล่อเย็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซาโปริเซีย (Zaporizhzhia) อ้างอิงจากแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทางการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ IAEA
ทั้งนี้ โรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง อีนอร์โกดาร์ (Energodar) ทางใต้ของยูเครนแต่ถูกรัสเซียบุกยึดได้ไม่กี่วันหลังจากเปิดปฏิบัติการทางทหารเข้ารุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปี 2022
“ทีมเจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างชัดเจน (ต่อสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้) บนพื้นฐานของการค้นพบและการสังเกต”
ทั้งนี้ มอสโกและเครมลินต่างไม่ได้รายงานสัญญาณของระดับกัมมันตภาพรังสีเพิ่ม
รอยเตอร์รายงานว่า IAEA กล่าวว่า ความเสียหายน่าจะเกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ที่ด้านในของหอหล่อเย็นที่ระดับท่อจ่ายน้ำสูงราว 10 เมตร
“ทีมงานได้ยืนยันว่าไม่มีสัญญาณชัดเจนของการรบกวนของซากความเสียหาย เถ้าถ่าน หรือเขม่าที่ฐานของหอหล่อเย็น” รายงานจากแถลงการณ์ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ IAEA
และในแถลงการณ์ IAEA ยังเปิดเผยต่อว่า “ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ของโรงงานไม่ได้รับผลกระทบจากการที่หอหล่อเย็นปัจจุบันไม่ได้ใช้การแล้ว”
IAEA ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญประจำที่โรงงาน “ไม่มีผลกระทบด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์รายงานออกมา”
โดยในการแถลงบนโซเชียลมีเดีย IAEA ระบุว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญเป็นประจักษ์พยานควันไฟดำขนาดใหญ่ที่ออกมาจากพื้นที่ทางเหนือของ ZNPP หลังได้ยินการระเบิดหลายครั้งในช่วงค่ำ
IAEA กล่าวว่า โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนได้แจ้งว่า “มีโดรนโจมตีเกิดขึ้นที่หนึ่งในหอหล่อเย็นวันนี้”
และในแถลงการณ์ออกมาหลังจากนั้น IAEA ได้ร้องขอให้ได้รับอนุญาตเข้าไปที่หอหล่อเย็นเพื่อตรวจสอบความเสียหายทันที
รอยเตอร์ชี้ว่า มอสโกและเคียฟต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันหลังโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย เกิดไฟไหม้ครั้งมโหฬารเป็นภาพสร้างความตกอกตกใจที่ได้เห็นควันดำพวยพุ่งออกมาจากปล่องหอหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์สร้างความหวาดกลัวว่าอาจจะคล้ายกับการระเบิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล (Chernobyl) เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ปี 1986 เมื่อครั้งที่ยูเครนยังคงอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียต
มอสโกกล่าวโทษว่า ไฟไหม้ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จากการถูกโดรนเคียฟโจมตีแต่ทว่าเคียฟชี้ว่าน่าจะเกิดมาจากการวางเพลิงหรือการละเลยขั้นร้ายแรง
CNN รายงานเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี วันอาทิตย์ (11) แถลงผ่านช่องทางเทเลแกรมว่า ทหารรัสเซียเป็นคนจุดไฟในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย พร้อมกับโพสต์คลิปควันดำพวยพุ่งออกมาอย่างน่าตกใจจากปล่องหอหล่อเย็นของโรงไฟฟ้าเห็นได้อย่างชัดเจน
ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ระดับกัมมันตภาพรังสียังอยู่ในระดับปกติ แต่เขาได้กล่าวโทษมอสโกว่า “ใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อหวังแบล็กเมลเคียฟ ทั่วทั้งยุโรปและทั้งโลก”
“พวกเรากำลังเฝ้ารอปฏิกิริยาจากทั้งโลก พวกเรากำลังเฝ้ารอปฏิกิริยาจาก IAEA” รายงานจากแถลงการณ์ของเซเลนสกี
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า วลาดิมีร์ โรกอฟ (Vladimir Rogov) เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยมอสโก ได้ออกมายืนยันผ่านช่องทางเทเลแกรมวันจันทร์ (12) ว่า ไฟไหม้ที่หอหล่อเย็นนั้นถูกดับสนิทแล้ว
และทั้งเขาและผู้ว่าการภูมิภาคซาโปริเซีย เยฟเกนี บาลิตสกี (Yevgeny Balitsky) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากมอสโกได้โทษกองกำลังยูเครนต่อเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้
ซึ่งเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน (11) กับที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีออกมายอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกว่า มีกำลังทหารยูเครนกำลังสู้รบอยู่ในดินแดนรัสเซียไม่กี่วันหลังจากมีการรบข้ามแดนเกิดขึ้นเข้าไปในภูมิภาคคูสค์ (Kursk) สร้างความอับอายให้แก่ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และสร้างความประหลาดใจให้บรรดาชาติพันธมิตรทั้งหลาย
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันอังคาร (13) ว่า ยูเครนล่าสุดสามารถยึดพื้นที่ 1,000 ตารางกิโลเมตรในภูมิภาคคูสค์ของรัสเซียได้สำเร็จ ผู้บัญชาการทหารยูเครน โอเลกซานดร์ ซีร์สกี (Oleksandr Syrskyi) แถลง
