อิหร่านจัดพิธีศพอิสมาอิล ฮานิเยห์ อย่างสมเกียรติในวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้แก้แค้น โดยที่นิวยอร์กไทมส์สื่อดังของอเมริการายงานว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน สั่งการให้เตหะรานโจมตีอิสราเอลโดยตรง ด้านรัฐยิวยังเงียบเรื่องการสังหารผู้นำทางการเมืองของฮามาส โดยเนทันยาฮูประกาศเพียงว่าอิสราเอลได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้แก่เหล่าบริเวณของอิหร่าน ซึ่งรวมถึงฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ และเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ รวมทั้งจะตอบโต้ขั้นเด็ดขาดหากถูกโจมตี
ผู้คนเป็นหมื่นๆ ร่วมพิธีศพฮานิเยห์ที่จัดขึ้นในกรุงเตหะราน โดยคอเมเนอีเป็นผู้นำการสวดมนตร์ และมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิหร่านร่วมพิธี เช่น ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน และ พล.อ.ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันพุธ (31 ก.ค.) กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแถลงว่า ฮานิเยห์เสียชีวิตพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกคนจากการโจมตีในช่วงก่อนรุ่งสางของวันเดียวกัน ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่กับฮานิเยห์ในขณะเกิดเหตุเผยว่า ผู้นำทางการเมืองของฮามาสผู้นี้เสียชีวิตจากขีปนาวุธที่ล็อกเป้าโจมตีเขาโดยตรงในที่พักรับรองแขกของรัฐบาลอิหร่านในกรุงเตหะราน โดยที่ฮานิเยห์พักอยู่ที่นั่นเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของเปเชซเคียนเมื่อวันอังคาร (30)
คาลิล อัล-เฮยา ผู้นำฝ่ายกิจการต่างประเทศของฮามาส ประกาศระหว่างพิธีศพในวันพฤหัสฯ ว่า แนวทางของฮานิเยห์จะคงอยู่ต่อไป และฮามาสจะตามล่าถอนรากถอนโคนอิสราเอลให้หมดไปจากดินแดนปาเลสไตน์
ทางด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อิหร่านหลายคนที่บอกว่า คอเมเนอีสั่งให้อิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรงเพื่อล้างแค้นให้ฮานิเยห์
การสังหารฮานิเยห์เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอิสราเอลโจมตีใส่บริเวณตอนใต้ของกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน และปลิดชีพ ฟาอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กลายเป็นกระตุ้นความกังวลที่ว่า ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีหวังลุกลามออกไป ขณะที่สงครามในกาซาเวลานี้ยังไม่มีสัญญาณยุติลง
ทางด้านนานาชาติออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและโฟกัสที่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งฮานิเยห์กล่าวหาเรื่อยมาว่า อิสราเอลคือผู้ที่พยายามขัดขวาง
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า การโจมตีในเตหะรานและเบรุต เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นสถานการณ์ซึ่งลุกลามอย่างน่ากลัวอันตราย
ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นจัดประชุมฉุกเฉินเมื่อวันพุธตามการเรียกร้องของอิหร่านเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์จากการลอบสังหารฮานิเยห์
เวลาเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดนและอิหร่านกล่าวหาอิสราเอลทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น และย้ำความจำเป็นในการผ่านคลายสถานการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามทั่วตะวันออกกลาง
สำหรับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำเมื่อวันพฤหัสฯ ให้ยุติการสู้รบ โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดทำให้สถานการณ์ลุกลาม และสำทับว่า สันติภาพต้องเริ่มต้นด้วยการหยุดยิง
ขณะเดียวกัน จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว แสดงความเห็นว่า การสังหารผู้บัญชาการฮิซบอลเลาะห์และผู้นำทางการเมืองของฮามาส ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางผ่อนคลายลง แต่ก็ยืนยันว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานการณ์จะลุกลามในเร็วๆ นี้
กระนั้น อเมริกาแนะนำพลเมืองงดเดินทางไปยังเลบานอน ขณะที่สายการบินอเมริกัน 2 แห่งคือ ยูไนเต็ด และเดลตาระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอลแล้ว
ในส่วนของ ชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล-ทานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นตัวกลางเจรจาให้มีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ตั้งข้อสังเกตว่า การไกล่เกลี่ยจะดำเนินไปได้อย่างไรในเมื่อฝ่ายหนึ่งลอบสังหารผู้นำของคู่เจรจา
แต่ถึงแม้เตหะรานและฮามาสกล่าวหาว่า การสังหารฮานิเยห์เป็นฝีมืออิสราเอล ทว่ารัฐบาลอิสราเอลยังคงงดแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ โดยระหว่างการปราศรัยถ่ายทอดทางทีวีเมื่อค่ำวันพุธ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเพียงว่า อิสราเอลได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้แก่เหล่าบริเวณของอิหร่าน ซึ่งรวมถึงฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ และเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ รวมทั้งจะตอบโต้ขั้นเด็ดขาดหากถูกโจมตี
เวลาเดียวกัน กองทัพอิสราเอลออกมาประกาศรับผิดชอบเพียงว่า ได้สังหาร ชุคร์ ที่มีบทบาทสำคัญในการยิงจรวดโจมตีเขตที่ราบสูงโกลันที่อิสราเอลเข้าผนวก ทำให้เด็กเสียชีวิต 12 คนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งแถลงว่า โมฮัมเหม็ด เดอีฟ ผู้บัญชาการฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของฮามาส เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเมืองข่านยูนิสของกาซาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.
(ทีมา : เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอพี)