โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ในวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) ประกาศ "จะเล่นงานศัตรูอย่างหนัก" แก้แค้นเหตุยิงจรวดจากเลบานอนสังหารเด็กและวัยรุ่น 12 ราย ในที่ราบสูงโกลัน ที่อิสราเอลผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แม้มีเสียงวิงวอนอดทนอดกลั้นจากสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ที่กังวลว่ามันจะโหมกระพือสงครามในกาซาให้ลุกลามบานปลาย
ส่วนอิหร่านส่งเสียงเตือนอิสราเอลว่าการเสี่ยงเดิมพันทหารใหม่ใดๆ ในเลบานอน อาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ประณามเหตุยิงจรวดใส่สนามฟุตบอล ณ ที่ราบสูงโกลัน และเรียกร้องทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นขั้นสูงสุด
กองทัพอิสราเอลเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น "การโจมตีเล่นงานพลเรือนอิสราเอลครั้งนองเลือดที่สุด" นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นตัวเริ่มต้นสงครามในกาซา และจุดชนวนการยิงตอบโต้ข้ามชายแดนแทบทุกวันข้ามชายแดนอิสราเอล-เลบานอน
อิสราเอลกล่าวโทษขบวนการเคลื่อนไหวฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนสำหรับการยิงจรวดฟารัก-1 ของอิหร่าน แต่พวกติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะรานกลุ่มนี้ ซึ่งปกติแล้วมักเล็งเป้าโจมตีฐานที่มั่นทางทหารของอิสราเอลเป็นประจำ บอกว่าพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขายอมรับว่า ในวันเสาร์ (27 ก.ค.) ได้ยิงจรวดดังกล่าว 1 ลูก เข้าใส่เป้าหมายทางทหารของอิสราเอลในที่ราบสูงโกลัน
จรวดถูกยิงใส่บริเวณเขตมัจดาล ชามส์ ซึ่งพลเมืองเป็นกลุ่มศาสนาชาติพันธุ์ดรูซพูดภาษาอาหรับ กระตุ้นให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลต้องรุดเดินทางกลับจากสหรัฐฯ ก่อนกำหนด และพอมาถึง เขาได้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงในทันที และที่ประชุมได้ให้อำนาจรัฐบาลของเนทันยาฮู สำหรับตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางและกรอบเวลาในการแก้แค้น
เนทันยาฮูกล่าวว่า "ฮิซบอลเลาะห์ต้องชดใช้ราคาแพง" สำหรับการโจมตี "ราคาที่แสนแพงอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน" ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล เสริมว่า "ฮิซบอลเลาะห์ได้ข้ามเส้นตายทุกอย่างที่มีแล้ว"
ท่ามกลางความคาดหมายว่าอิสราเอลจะโจมตีแก้แค้น ทางฮิซบอลเลาะห์ได้อพยพออกจากฐานที่มั่นหลายแห่งที่อยู่ใกล้ชายแดนและทางตะวันออกของเลบานอน
กองทัพอิสราเอลระบุในเวลาต่อมาในวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) ว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮิซบอลเลาะห์ "ทั้งที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนเลบานอนและทางใต้ของเลบานอน"
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงรายหนึ่งของเลบานอนเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า "โดรนลำหนึ่งของอิสราเอลยิงจรวด 2 ลูกเข้าใส่หมู่บ้านทาไรยา ทางตะวันออกของเลบานอน ทำลายโรงเก็บเครื่องบินแห่งหนึ่งและบ้านอีกหลัง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตใดๆ"
ฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า พวกเขายิงข้ามชายแดน เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบอิสลามิสต์ปาเลสไตน์ "ฮามาส" ที่สู้รบกับกองทัพอิสราเอลในกาซามาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ครั้งที่ฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล แบบไม่ทันตั้งตัว สังหารผู้คนไป 1,197 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน พร้อมจับตัวประกันไปประมาณ 251 คน ในนั้น 111 รายยังคงถูกคุมตัวในกาซา ในนั้นรวมถึง 39 รายที่เชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
นับตั้งแต่นั้น กองทัพอิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารในกาซาเป็นการแก้แค้น สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 39,324 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน
ในข่านยูนิส ทางใต้ของกาซา เมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) สำนักงานป้องกันพลเรือน รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ราย ในเหตุโจมตีของอิสราเอล ที่โดนเต็นท์หลายหลัง ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐาน ในเขตมนุษยธรรม ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลได้ออกคำสั่้งอพยพครอบคลุมหลายช่วงตึกในเขตอัล-บูเรอิจ และอัล-ชูฮาดา ทางภาคกลางของกาซา พร้อมเตือนว่าจะเปิดปฏิบัติการบีบบังคับที่นั่น
เหตุยิงจรวดใส่เขตมัจดาล ชามส์ ได้พุ่งโดนสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง สังหารเด็กและวัยรุ่นอายุระหว่าง 10 ถึง 16 ปี อย่างน้อย 12 ราย ขณะที่ตำรวจอิสราเอลบอกว่าเด็กชายวัย 11 ขวบอีกคนยังคงสูญหาย ทั้งนี้มีรายงานชาวบ้านหลายพันคนออกมารวมตัวบนท้องถนนของเมือง ในพิธีศพของเหยื่อหลายคนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
ราอิด คาห์วาจี หัวหน้าสถาบันวิเคราะห์การทหารตะวันออกใกล้และอ่าวอาหรับ ระบุว่าตำแหน่งที่ฮิซบอลเลาะห์อ้างว่าพวกเขาเล็งโจมตีนั้นอยู่ห่างจากเมืองราว 2.4 กิโลเมตร ดังนั้นมันจึงอยู่ในพิสัยความคลาดเคลื่อน หากจรวดขาดความแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม เขาตั้งข้อสังเกตว่า ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่จะมีสาเหตุจากการยิงผิดพลาดของระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลเช่นกัน ดังนั้นจึงควรมีการสืบสวนอย่างเป็นอิสระ
กระนั้นทำเนียบขาวเชื่อว่าจรวดที่ยิงออกมานั้นเป็นฝีมือของพวกฮิซบอลเลาะห์เลบานอน โดยระบุ "มันเป็นจรวดของพวกเขาและยิงออกมาจากพื้นที่หนึ่งที่พวกเขาควบคุมอยู่" แต่เรียกร้องให้อดทนอดกลั้น
เจนีน เฮนนิส-พลาเซิร์ต ผู้ประสานงานพิเศษของสหประชาชาติในด้านเลบานอน และอารอลโด ลาซาโร ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน ระบุในถ้อยแถลงร่วมกันว่าการยิงตอบโต้กันดุเดือดยิงขึ้น "อาจจุดชนวนลุกลามในวงกว้าง ที่อาจโหมกระพือไปทั่วภูมิภาค และก่อหายนะที่ยากจะจินตนาการ"
เหตุยิงจรวดใส่มัจดาล ชามส์ มีขึ้นหลังจากอิสราเอลโจมตีสังหารนักรบฮิซบอลเลาะห์ 4 รายทางใต้ของเลบานอน กระตุ้นให้ทางกลุ่มประกาศแก้แค้นระดมยิงจรวดเข้าใส่ที่ราบสูงโกลันและทางเหนือของอิสราเอล
นาสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหราน ส่งเสียงเตือนว่า "พฤติกรรมที่โง่เขลาใดๆ ของรัฐบาลไซออนิสต์ อาจนำมาซึ่งขอบเขตความไร้เสถียรภาพในวงกว้าง ความไม่มั่นคง และสงครามในภูมิภาค"
(ที่มา : เอเอฟพี)
