ทำอะไรได้! ศาลโลกวินิจฉัยอิสราเอลยึดครองผิด กม. ต้องคืนดินแดนปาเลสไตน์

ศาลสูงสุดของสหประชาชาติ วินิจฉัยอย่างกว้างๆ เมื่อวันศุกร์ (19 ก.ค.) ว่าการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์มาอย่างยาวนานหลายทศวรษของอิสราเอล เป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจำเป็นต้องยุติเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ความเห็นทางกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเฮก ถูกอิสราเอลประณามในทันทีว่าเป็น "คำตัดสินแห่งการโกหกโป้ปด" แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับเสียงขานรับด้วยความยินดีจากประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ที่เรียกมันว่าเป็นการวินิจฉัยครั้งประวัติศาสตร์

ถ้อยแถลงของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่เรียกว่า "ความเห็นทางกฎหมาย" ไม่มีพันธะผูกผัน แต่มันมีขึ้นท่ามกลางความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตและการทำลายล้าง ในสงครามของอิสราเอลกับพวกฮามาส ในฉนวนกาซา ซึ่งมีต้นตอจากการที่พวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

นอกจากนี้ มันมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มแรงกดดันทางการทูตแก่อิสราเอล ในขณะที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอิสราเอลในวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) ลงมติคัดค้านความเป็นรัฐปาเลสไตน์ เรียกมันเป็น "ภัยคุกคามความอยู่รอด"

ในเมืองเฮก นาวาฟ ซาลาม ประธานผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กล่าวว่า "ศาลพบว่า การยังคงปรากฏตัวของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย อิสราเอลอยู่ภายใต้พันธสัญญายุติการปรากฏตัวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศระบุต่อว่า "ภายใต้พันธสัญญาหนึ่ง ต้องยุติความเคลื่อนไหวจัดตั้งถิ่นฐานใหม่ๆ ในทันทีและอพยพบรรดาผู้ตั้งถิ่นฐานทั้งหมดออกจากดินแดนยึดครอง" ศาลระบุ "นโยบายต่างๆ และแนวทางกฎหมายทั้งหลายของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงการคงไว้ซึ่งกำแพงระหว่าง 2 ดินแดน เทียบเท่ากับเป็นการผนวกพื้นที่ส่วนใหญ่ของดินแดนที่ถูกยึดครอง"

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประณามความเห็นของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศว่าเป็น "คำวินิจฉันแห่งการโกหกโป้ปด" พร้อมบอกว่า "ประชาชนชาวยิวไม่ได้รุกรานยึดครองดินแดนของตนเอง ไม่ใช่ในเยรูซาเลม เมืองหลวงชั่วนิรันดร์ของเรา ไม่ใช่ในดินแดนบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมา เมืองจูเดียและซามาเรีย (ดินแดนยึดครองเวสต์แบงก์)"

ในช่วงปลายปี 2022 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ร้องขอความเห็นทางกฎหมายจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับผลลัพธ์ทางกฎหมายอันเนื่องมาจากนโยบายและแนวทางปฏิบัติต่างๆ ของอิสราเอล ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ในนั้นรวมถึงเยรูซาเลมตะวันออก

ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเคยจัดประชุมนาน 1 สัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรับฟังข้อเสนอให้พิจรณาจากประเทศต่างๆ ตามหลังมีคำร้องดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศส่วนใหญ่ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

ระหว่างการพิจารณา บรรดาผู้ให้ปากคำส่วนใหญ่เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการยึดครองที่ยืดเยื้อมานาน 57 ปี พวกเขาเตือนว่าการยึดครองที่ยืดเยื้อเสียงเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลางและไกลกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ บอกว่าอิสราเอลไม่ควรมีพันธทางกฎหมายในการถอนตัว ในขณะที่ประเด็นความจำเป็นด้านความมั่นคงที่แท้จริงของอิสราเอล ยังไม่ได้รับการใส่ใจอย่างจริงจัง

อนึ่ง อิสราเอลไม่ได้เข้าร่วมในการพิจารณาปากเปล่าในครั้งนี้

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ อ้างถึงนโยบายต่างๆ ของอิสราเอลว่าเป็นสิ่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งได้แก่ การขยายการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออก การแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ การผนวกดินแดน และการใช้นโยบายกีดกันชาวปาเลสไตน์ ซึ่งต่างก็เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

(ที่มา : เอเอฟพี)