มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บเกือบ 100 คน หลังทอร์นาโดขนาดใหญ่ลูกหนึ่งซัดถล่มอาละวาดไปทั่วเมืองแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของจีน ตามรายงานของซินหัว สื่อมวลชนแห่งรัฐในวันเสาร์ (6 ก.ค.)
ในวิดีโออันน่าตกตะลึงที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นทอร์นาโดกำลังอาละวาดฉีกหลังคาอาคารบ้านเรือนเป็นชิ้นๆ ขุดรากถอนคอนต้นไม้ และเศษซากต่างๆ ปลิวว่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า
สำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินเขตตงหมิง เปิดเผยว่า "สภาพอากาศการยกตัวของมวลอากาศเนื่องจากความร้อน (convective) รุนแรง ก่อให้เกิดทอร์นาโด" พร้อมระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการและเปิดปฏิบัติการตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว ระบุว่าบ้านเรือน 2,820 หลัง ในเมืองไช่หยวน มณฑลซานตง ได้รับความเสียหายจากทอร์นาโดลูกดังกล่าว ขณะที่ทางสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน เปิดเผยว่า หน่วยฉุกเฉินอยู่ระหว่างดำเนินการเก็บกวาดพื้นที่ประสบภัยตามหลังภัยพิบัติ
ทอร์นาโดในจีนเกิดขึ้นไม่บ่อยเท่าในสหรัฐฯ โดยจีนมีค่าเฉลี่ยพบเจอทอร์นาโดไม่ถึง 100 ลูกในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม กว่า 50 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 1961 ในประเทศแห่งนี้มีประชาชนเสียชีวิตจากทอร์นาโดทั้งหลายแหล่ไปแล้วอย่างน้อย 1,772 ราย อ้างอิงข้อมูลของพวกนักวิจัย
ในเดือนเมษายน ทอร์นาโดลูกหนึ่งซัดถล่มเมืองกวางโจว ทางใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 33 คน
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน เผยแพร่รายงานประจำปีในด้านสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (โลกร้อน) ภายในประเทศ ซึ่งรายงานพบว่า จีนเผชิญกับปีที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 1901 และสภาพอากาศรุนแรงและเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศมีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น
ทอร์นาโดลูกนี้เกิดขึ้นในขณะที่มณฑลอื่นๆของจีนก็กำลังเผชิญสภาพอากาศรุนแรงเช่นกัน ทั้งภัยแล้งรุนแรงและอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทางภาคเหนือ แต่ทางภาคใต้ต้องเผชิญกับฝนตกหนัก และน้ำท่วม
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)