xs
xsm
sm
md
lg

ฉาว!นักการทูตจีนดึงดันยืนบังนักข่าวออสซี่ที่เป็น‘โจทก์เก่า’ นายกฯแดนจิงโจ้สับ “รับไม่ได้-หยาบคาย-ไม่สร้างสรรค์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียผู้หนึ่ง (หญิงในสูทสีขาว) กันเจ้าหน้าที่จีน 2 คนให้ออกห่างจาก เฉิง เล่ย นักข่าวหญิงชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีน (ขวา) ขณะเธอเข้าไปทำข่าวในพิธีลงนามข้อตกลงระหว่างนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน กับนายกรัฐมนตรี แอนโธนี อัลเบนีส ของออสเตรเลีย  ที่รัฐสภาออเสตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา วันจันทร์ (17 มิ.ย.)
ผู้นำออสเตรเลียเผย ได้บอกกับนายกรัฐมนตรีจีนโดยตรงว่า เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่จีนพยายามยืนบังนักข่าวออสซี่ผู้เคยถูกคุมขังในปักกิ่ง เป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้ หยาบคาย และไม่สร้างสรรค์”


การเยือนของนายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ระหว่างวันที่ 15-18 มิ.ย. ถือเป็นการเยือนออสเตรเลียครั้งแรกในรอบ 7 ปีของนายกรัฐมนตรีจีน และสะท้อนเสถียรภาพในความสัมพันธ์ระหว่างชาติพันธมิตรของอเมริกาแห่งนี้กับประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ทว่า การเยือนที่วางแผนมาอย่างระมัดระวังกลับเสียรังวัดช่วงสั้นๆ ระหว่างพิธีลงนามในรัฐสภาออสเตรเลียเมื่อวันจันทร์ (17 มิ.ย.) สืบเนื่องจากนักการทูตจีน 2 คนพยายามยืนบังไม่ให้กล้องจับภาพ เฉิง เล่ย ผู้สื่อข่าวออสเตรเลียที่เป็นหนึ่งในสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าว แม้เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียพยายามเข้าไปขอให้นักการทูตจีนขยับออกมา แต่นักการทูตจีนก็ทำเฉย ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงทางการเมืองในออสเตรเลีย

เฉิง เพิ่งได้กลับออสเตรเลียเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังถูกจำคุกในจีน 3 ปีจากข้อหาสอดแนมที่ฝ่ายตะวันตกมองว่ามีเงื่อนงำ นอกจากนั้นเธอยังตีแผ่สภาพในเรือนจำจีนที่น่าสิ้นหวังของตนเองอย่างไม่สะทกสะท้าน

ต่อมาเมื่อวันอังคาร (18 ) นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลเบนีส ของออสเตรเลีย วิจารณ์พฤติกรรมที่น่ากระอักกระอ่วนของนักการทูตจีนทั้งสองคนว่า เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ หยาบคาย และไม่สร้างสรรค์ และเสริมว่า ตนได้พูดเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีจีนโดยตรง เนื่องจากเสรีภาพของสื่อเป็นสิ่งสำคัญมากในออสเตรเลีย

ด้าน เฉิง กล่าวว่า นักการทูตจีนพยายามอย่างมากเพื่อยืนบังกล้อง เนื่องจากไม่ต้องการให้เธอพูดหรือทำอะไรที่พวกเขาคิดว่า อาจทำให้จีนดูไม่ดี แต่กลายเป็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวต่างหากที่ทำให้ภาพจีนออกมาติดลบ

การเยือนของหลี่สะท้อนความพยายามในการฟื้นสัมพันธภาพระหว่างปักกิ่งกับแคนเบอร์ราหลังจากมีข้อพิพาททางการค้ากันมานานแรมปี

หลี่กล่าวก่อนเดินทางออกจากออสเตรเลียเมื่อบ่ายวันอังคารว่า ทั้งจีนและออสเตรเลียต่างรู้ดีว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกันเผชิญความยากลำบากและความผันผวนบางอย่าง แต่จากความพยายามร่วมกัน ความสัมพันธ์สองชาติจึงกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง

ที่ปักกิ่ง เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ของเฉิง เล่ย และการแสดงความคิดเห็นของอัลเบนีสในวันอังคาร หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ตอบว่า ตนไม่รับรู้สถานการณ์เฉพาะเจาะจงดังกล่าว แต่เท่าที่รู้คือ การประชุมประจำปีครั้งที่ 9 ระหว่างนายกรัฐมนตรีจีนและออสเตรเลีย รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุผลลัพธ์ที่ดี

นายกรัฐมนตรีจีนปิดฉากการเยือนด้วยการทัวร์โรงงานแปรรูปลิเธียมในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย สะท้อนความต้องการของจีนที่มีต่อแร่ธาตุสำคัญของออสเตรเลีย

ออสเตรเลียสกัดลิเธียมได้ถึง 52% ของทั่วโลก และลิเธียมส่วนใหญ่ส่งออกในรูปแร่ให้แก่จีนเพื่อนำไปแปรรูปและใช้ในแบตเตอรี่

ลิเธียมถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าโลกที่จีนเป็นผู้นำอยู่

การเกี่ยวข้องของจีนในอุตสาหกรรมแร่ธาตุสำคัญของออสเตรเลียยังเป็นประเด็นอ่อนไหว เนื่องจากจีนเป็นผู้นำห่วงโซ่อุปทานโลก

ขณะเดียวกัน แม้ภาพที่ออกมาค่อนข้างดี แต่ทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับว่า ยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันหลายอย่าง ตอกย้ำการปะทะทางการทูตในแถบแปซิฟิก

อัลเบนีสกล่าวว่า ออสเตรเลียและจีนไม่ได้เห็นพ้องกันตลอดเวลา และประเด็นที่คิดต่างจะไม่หายไปอย่างง่ายดาย หากทั้งสองประเทศนิ่งเงียบ

เดือนที่แล้วแคนเบอร์รากล่าวหาปักกิ่งมีพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ หลังจากเครื่องบินรบลำหนึ่งของจีนยิงพลุแฟร์ขวางเส้นทางบินของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของกองทัพเรือออสเตรเลียเหนือทะเลเหลือง

นอกจากนั้นเมื่อปลายปีที่แล้ว เรือพิฆาตจีนยังโจมตีนักดำน้ำของกองทัพเรือออสเตรเลียด้วยคลื่นโซนาร์ซึ่งเป็นอันตราย

(ที่มา: เอเอฟพี, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น