โดนมั่ง!! ไบเดนประกาศยอมรับคำตัดสิน-และจะไม่อภัยโทษ หลัง‘ฮันเตอร์’บุตรชายถูกลูกขุนชี้ขาดผิดจริงคดีซื้อปืน

คณะลูกขุนของศาลชั้นต้นในรัฐเดลาแวร์ ตัดสินชี้ขาดในวันอังคาร (11 มิ.ย.) ว่า ฮันเตอร์ ไบเดน มีความผิด 3 กระทงจากการให้ข้อมูลเท็จในการซื้ออาวุธปืน กลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ลูกของประธานาธิบดีสหรัฐฯผู้ยังอยู่ในตำแหน่ง ถูกพิพากษาว่ากระทำความผิดทางอาญา ด้านประธานาธิบดีไบเดนแถลง ยอมรับคำตัดสินและจะไม่อภัยโทษให้ลูกชาย

ฮันเตอร์ วัย 54 ปี บุตรชายคนรอง และเป็นบุตรคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถูกคณะลูกขุนตัดสินว่า กระทำผิดจริงทั้งสามกระทงที่ถูกฟ้องร้อง สืบเนื่องจากการให้ข้อมูลเท็จในแบบฟอร์มการขอซื้ออาวุธปืนเมื่อปี 2018 ว่าตนเองไม่ได้ใช้ยาเสพติดอยู่

ทนายความของฮันเตอร์ที่มีประวัติเสพติดเหล้าและโคเคนนานหลายปี พยายามแก้ต่างว่า ลูกความของตนไม่ได้ใช้ยาเสพติดตอนที่ซื้อปืน และไม่มีเจตนาโกหกเพราะไม่คิดว่า ตัวเองเป็นผู้เสพยาตอนที่กรอกแบบฟอร์มซื้อปืน ทว่าคณะลูกขุนไม่รับฟัง

คำตัดสินนี้ออกมาขณะที่ไบเดนกำลังหาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ได้ครองทำเนียบขาวอีกสมัย โดยที่ในวันอังคาร ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ ได้เปลี่ยนตารางการเดินทาง โดยบินไปที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ซึ่งถือเป็นภูมิลำเนาของครอบครัวและเป็นสถานที่ตั้งของศาลซึ่งพิจารณาคดีของฮันเตอร์

ฮันเตอร์ ไบเดน กำลังรออยู่ที่ลานบิน ขณะที่ “มารีน วัน” เฮลิคอปเตอร์ประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯร่อนลงจอดที่ฐานทัพกองอาสารักษาดินแดนทางอากาศแห่งรัฐเดลาวาร์ และได้รับการสวมกอดให้กำลังใจจากบิดาวัย 81 ปีของเขา ก่อนที่ขบวนรถของพวกเขาจะออกจากฐานทัพแห่งนั้น

ประธานาธิบดีไบเดนได้แสดง “ความรักและความสนับสนุน” บุตรชายของเขา ในคำแถลงฉบับหนึ่งซึ่งออกเผยแพร่ทันทีหลังจากคณะลูกขุนมีคำตัดสิน

“ผมเป็นประธานาธิบดี แต่ผมก็เป็นพ่อคนหนึ่งด้วยเช่นกัน” ไบเดนกล่าว

“ครอบครัวจำนวนมากมายเหลือเกินซึ่งมีผู้เป็นที่รักต้องต่อสู้กับการติดยา ย่อมเข้าใจเป็นอย่างดีถึงความรู้สึกภาคภูมิใจที่กำลังเห็นบุคคลซึ่งคุณรักก้าวออกมาจากอีกฟากหนึ่ง และแสดงให้เห็นว่ามีความเข้มแข็งและมีความหยุ่นตัวเพียงใดในการฟื้นตัว”

“ผมจะยอมรับผลลัพธ์ของคดีนี้ และจะยังคงให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ฮันเตอร์พิจารณาเรื่องการยื่นอุทธรณ์”

นอกจากนั้นทำเนียบขาวยังแถลงในเวลาต่อมาว่า ไบเดนจะไม่ใช้อำนาจประธานาธิบดีเพื่ออภัยโทษให้แก่บุตรชาย

ในการพิจารณาตัดสินคดีนี้ คณะลูกขุนที่ประกอบด้วยสมาชิก 12 คน ใช้เวลาหารือกันรวมแล้วราว 3 ชั่วโมงในระยะเวลา 2 วัน ก่อนที่จะได้ข้อสรุป โดยที่ความผิดเหล่านี้ อาจทำให้ฮันเตอร์โทษจำคุกสูงสุดถึง 25 ปี แต่บรรดานักกฎหมายต่างเชื่อว่าเขาไม่น่าจะถูกระวางโทษถึงขนาดนั้น เนื่องจากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก และไม่ได้มีการแสดงพฤติการณ์รุนแรงใดๆ อีกทั้งมีแนวโน้มว่า อาจไม่ถูกจำคุกด้วย

แมรีเยลเลน โนไรกา ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นของคดีนี้ยอกว่า ยังไม่ได้กำหนดนัดหมายวันตัดสินระวางโทษ ขณะที่พวกผู้ชำนาญการชี้ว่า ปกติแล้วเรื่องนี้จะต้องดำเนินการภายในเวลา 120 วัน จึงเท่ากับว่า จะมีการประกาศคำพิพากษาระวางโทษอย่างช้าที่สุดราว 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 5 พ.ย.

ทางด้าน เดวิด ไวส์ ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษ ซึ่งได้รับแต่งตั้งตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นผู้ยื่นฟ้องคดีนี้ แถลงภายหลังการตัดสินของคณะลูกขุนว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และสำทับว่า คดีนี้ไม่ใช่เป็นเพียงประเด็นการเสพยาเท่านั้น

“คดีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกทำผิดกฎหมายของจำเลย ขณะที่ตกอยู่ในความเจ็บปวดของการติดยา การที่เขาเลือกโกหกในการกรอกแบบฟอร์มของรัฐบาลเมื่อตอนที่เขาซื้ออาวุธปืน และการที่เขาเลือกที่จะครอบครองปืนดังกล่าว” ไวส์ บอก

คดีของฮันเตอร์ในความผิดอาวุธปืนนี้ รวมทั้งอีกคดีหนึ่งซึ่งเขาถูกฟ้องร้องว่าหลบเลี่ยงภาษีในแคลิฟอร์เนีย โดยที่คดีหลังนี้มีกำหนดไต่สวนกันในวันที่ 5 กันยายน เห็นกันว่ากำลังสร้างความลำบากยุ่งยากให้แก่ความพยายามของพรรคเดโมแคต ในการทำให้การเลือกตั้งคราวนี้โฟกัสอยู่ที่การถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาของทรัมป์

ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทรัมป์กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในการก่ออาชญากรรมรวม 34 กระทง ซึ่งพัวพันกับการปลอมแปลงบันทึกธุรกิจและการแอบจ่ายเงินปิดปากเพื่อปิดบังเรื่องอื้อฉาวคาวโลกีย์ของตนเอง ในช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016

ทั้งนี้ทรัมป์อ้างโดยไม่เคยแสดงหลักฐานว่า ไบเดนอยู่เบื้องหลังการที่ตนถูกดำเนินคดีอาญาหลายคดีเหล่านี้ เพื่อขัดขวางไม่ให้ตนได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง

ในวันอังคาร ทีมรณรงค์หาเสียงทรัมป์ยังใช้มุกเดิมโดยกล่าวหาว่า การดำเนินคดีฮันเตอร์ เป็นแค่การหันเหความสนใจออกไปจากอาชญากรรมที่แท้จริงของครอบครัวไบเดน

ฮันเตอร์ตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายขวาในพรรครีพับลิกันมายาวนาน ขณะที่พันธมิตรของทรัมป์เคยเรียกฮันเตอร์ไปสอบสวนในรัฐสภาในข้อกล่าวหาทุจริตและใช้อิทธิพลเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ของตนเอง แต่ยังไม่สามารถตั้งข้อหาใดๆ เช่นเดียวกับการพยายามนำประเด็นการทำธุรกิจของฮันเตอร์ในจีนและยูเครนมาสร้างความชอบธรรมเพื่อเปิดการสอบสวนถอดถอนไบเดน

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)