กองกำลังยูเครนใช้อาวุธที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักรอย่างกระตือรือร้น ทำการโจมตีก่อการร้ายเล่นงานภูมิภาคต่างๆ ของรัสเซีย จากเสียงโวยวายของ เซอร์เกย์ เบลยาเอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมเตือนว่าพฤติกรรมดังกล่าวกำลังนำมาซึ่งการเผชิญหน้า หลังเคยขู่ว่าที่ตั้งทางทหาร และยุทโธปกรณ์ใดๆ ของสหราชอาณาจักรอาจตกเป็นเป้าหมายแก้แค้น
ลอนดอนยังคงเป็นหนึ่งในผู้บริจาคอาวุธรายใหญ่ที่สุดของเคียฟ โดยมอบความช่วยเหลือในด้านนี้ไปแล้วกว่า 7,100 ล้านปอนด์ (ราว 8,900 ล้านดอลลาร์) นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 จากคำกล่าวอ้างของ เบลยาเอฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมยุโรปแห่งกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับทาสส์นิวส์ ที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (11 พ.ค.)
"อาวธที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร ถูกกองทัพยูเครนใช้งานอย่างกระตือรือร้นในการโจมตีก่อการร้ายใส่โครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนและประชาชนชาวดอนบาส เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่นๆ ของรัสเซีย" เขาเน้นย้ำ
ทูตรายนี้ระบุว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แถลงแพกเกจช่วยเหลือทางทหารมอบแก่ยูเครน มูลค่า 500 ล้านปอนด์ (ราว 617 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนหนึ่งในความพยายามของสหราชอาณาจักร สำหรับแสดงบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในนาโต และในบรรดาชาติยุโรป
"สหราชอาณาจักรดำเนินการในแบบเดียวกับครั้งที่พวกเขาส่งมอบขีปนาวุธร่อนสตอร์ม ชาโดว์ และรถถังชาเลนเจอร์ 2 แก่ยูเครน ด้วยการเป็นประเทศแรกๆ ที่มอบยุทโธปกรณ์ลักษณะนี้ให้แก่เคียฟ" เขากล่าวต่อ
เบลยาเอฟ เน้นว่าพวกผู้แทนทูตของรัสเซีย ส่งเสียงเตือนไปยังคณะทูตของสหราชอาณาจักรหลายต่อหลายครั้งว่าการสนับสนุนรัฐบาลยูเครนของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เป็นอันตรายและนำมาซึ่งสถานการณ์ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงก่อการบาดเจ็บล้มตายในหมู่พลเรือน
"การละทิ้งเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าของลอนดอนเป็นสิ่งจำเป็น ในนั้นรวมถึงมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ มันคือเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งทางการเมือง การค้า และเศรษฐกิจ" เขาย้ำ
ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหราชอาณาจักร เสื่อมทรามลงอีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัง เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรชี้ว่ายูเครนมีสิทธิใช้อาวุธที่สหราชอาณาจักรมอบให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย หากว่าพวกเขาตัดสินใจทำเช่นนั้น
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เรียกตัว ไนเจล คาซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำมอสโกเข้าพบเพื่อทำการประท้วง ตามหลังความเห็นของ คาเมรอน ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเผยแพร่ถ้อยแถลงหลังจากนั้นว่า "เคซีย์ ถูกเตือนว่าการตอบโต้ เหตุยูเครนใช้อาวุธของสหราชอาณาจักรเล่นงานดินแดนรัสเซีย อาจเป็นการเอาคืนที่ตั้งทางทหารและยุทโธปกรณ์ใดๆของสหราชอาณาจักร ที่อยู่ทั้งในดินแดนยูเครน หรือนอกยูเครน"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)