อิสราเอลจะทำให้อิหร่านชดใช้ราคาแพง จากการตอบโต้เหตุถูกเตหะรานยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตี ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จากคำเตือนของ เบนนี แกนต์ซ สมาชิกคณะรัฐมนตรียามสงครามของอิสราเอล ในวันอาทิตย์ (14 เม.ย.)
"เราจะสร้างพันธมิตรระดับภูมิภาคและบีบให้อิหร่านต้องชดใช้ราคาแพงในรูปแบบและช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเรา" แกนต์ซ กล่าวในถ้อยแถลง ก่อนหน้ารัฐบาลสงครามของอิสราเอลมีกำหนดประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการตอบโต้ของอิสราเอลที่มีต่อการโจมตีของอิหร่าน
อิสราเอลอยู่ในภาวะเฝ้าระวังขั้นสูงในวันอาทิตย์ (14 เม.ย.) หลังอิหร่านเปิดฉากโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โหมกระพือเสียงประณามอย่างพร้อมเพรียงจากนานาชาติ และจุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในวงกว้าง
อิหร่านเปิดฉากโจมตีโดยตรงเป็นครั้งแรกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ใส่ดินแดนของอิสราเอลในช่วงค่ำวันเสาร์ (13 เม.ย.) แก้แค้นเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานสถานกงสุลของเตหะรานประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่พวกเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ในสถานการณ์ลุกลามบานปลายครั้งใหญ่ในสงครามแอบแฝงที่ยืดเยื้อมานานระหว่างคู่อริในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม การโจมตีด้วยโดรนหลายร้อยลำและขีปนาวุธหลายร้อยลูก ซึ่งส่วนใหญ่ยิงออกมาจากภายในอิหร่าน ก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อยในอิสราเอล เนื่องจากเกือบทั้งหมดถูกสอยร่วงภายใต้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และจอร์แดน
กองทัพอิสราเอลระบุในวันอาทิตย์ (14 เม.ย.) อิสราเอล สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและชาติคู่หูอื่นๆ ร่วมแรงร่วมมือกันในฐานะ "พันธมิตร" เป็นครั้งแรก ในการต้านทานการโจมตีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของอิหร่าน
"การร่วมมือกันของเราขจัดการโจมตีของอิหร่าน นี่เป็นครั้งแรกที่พันธมิตรหนึ่งเช่นนี้ ร่วมมือกันรับมือกับภัยคุกคามจากอิหร่านและบรรดาตัวแทนของอิหร่านในตะวันออกกลาง" โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุในถ้อยแถลง "อิหร่านเปิดฉากโจมตีคุกคามกว่า 350 รอบ ทั้งขีปนาวุธแบบทิ้งตัว ขีปนาวุธร่อน จรวดและโดรนพลีชีพใส่อิสราเอล และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคก็อาจเจอภัยคุกตามในแบบเดียวกัน"
ด้าน อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล เปิดเผยว่าเขาได้บอกกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสไปว่า "อิหร่านจะต้องชดใช้ราคาแพง"
"ผมบอกกับพวกเขาว่านี่คือเวลาที่คุณจะก่อความอ่อนแอแก่รัฐบาลอิหร่าน ประณามกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามในฐานะองค์กรก่อการร้าย และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรฉีกโครงการขีปนาวุธของอิหร่านเป็นชิ้นๆ"
จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับรายการมีทเดอะเพรสของเอ็นบีซี ว่าการสกัดการโจมตีด้วยฝูงชนถือเป็นความสำเร็จด้านการทหารที่น่าทึ่งของอิสราเอลและพันธมิตร และแสดงให้เห็นว่าอิสราเอลไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวบนเวทีโลก "เวลานี้ ไม่ว่าอิสราเอลจะตอบโต้หรือไม่อย่างไร มันจะขึ้นอยู่กับพวกเขา เราตระหนักดีและเคารพในสิ่งนั้น แต่ท่านประธานาธิบดีพูดชัดเจนว่า เราไม่ต้องการเสาะหาสงครามกับอิหร่าน"
(ที่มา : ชาแนลนิวส์เอเชีย/เอเอฟพี)