ยูเครนเริ่มเกณฑ์นักโทษไปสู้รบกับรัสเซีย ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมกำลังพลในแนวหน้า ในนั้นรวมถึงพวกชายฉกรรจ์ที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมและฉ้อโกง ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส
รายงานข่าวของไฟแนนเชียลไทม์สระบุว่า ยูเครนจะเริ่มเสนอเส้นทางสู่อิสรภาพแก่นักโทษที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดบางส่วน หากว่าคนเหล่านี้มีความตั้งใจเข้าร่วมกับหน่วยรบหนึ่งๆ ความเคลื่อนไหวนี้เป็นกลยุทธ์เดียวกับมอสโกที่ใช้เติมเต็มกำลังพลของตนเอง นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบโดยรัฐสภายูเครนในวันพุธ (8 พ.ค.) เป็นมาตรการล่าสุดในหลายๆ มาตรการที่มีเป้าหมายระดมชายฉกรรจ์เพิ่มเติม เข้ามาชดเชยกำลังพลที่บาดเจ็บล้มตาย และทหารที่เหนื่อยล้าจากการประจำการอยู่ในแนวหน้าเป็นเวลานาน ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังจำเป็นต้องผ่านการลงนามโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ก่อนบังคับใช้เป็นลำดับถัดไป
ความเคลื่อนไหวเกณฑ์นักโทษที่ถูกพิพากษาแล้วว่ามีความผิด คาดหมายว่าจะสามารถก่อผลลัพธ์ระดมพลทหารเกณฑ์ใหม่หลายพันนายจากประชากรนักโทษราว 20,000 คน จากความเห็นของ เดวิด อารัคฮาเมีย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระดับอาวุโส อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงแต่เศษส่วนเล็กๆ ของทหารใหม่หลายแสนนายที่ยูเครนจำเป็นต้องมีในปีนี้ เพื่อยืนหยัดรับมือกับการรุกคืบของกองกำลังรัสเซีย
ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียและกองกำลังติดอาวุธทั้งหลายที่สู้รบกับยูเครน ได้ดึงกำลังพลจากเรือนจำต่างๆ โดยไม่คำนึงว่าคนที่ถูกเกณฑ์เหล่านั้นกระทำผิดทางอาญาใด อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้มักกระทำผิดซ้ำต่างๆ ทั้งในระหว่างถูกส่งเข้าประจำการหรือหลังจากเดินทางกลับรัสเซียแล้ว ซึ่งมันก่อความเสียหายแก่ชื่อเสียงของกองทัพรัสเซียเป็นอย่างมาก
แต่ในส่วนของยูเครน แม้ได้ตัดสินใจหันหานักโทษในการเติมเต็มกำลังพลที่จำเป็นแบบเดียวกัน ทว่าเคียฟได้กำหนดเงื่อนไขเข้มงวดต่างๆ เข้าไปด้วย สำหรับนักโทษผู้มีสิทธิเข้าร่วมรบกับกองทัพ ต่างจากรัสเซียที่ใช้แนวทางปฏิบัติเกณฑ์นักโทษที่ขาดความยั้งคิดมากกว่า ตามคำกล่าวอ้างของไฟแนนเชียลไทม์ส
โอเลนา ชูเลียค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคของเซเลนสกี ระบุว่า สำหรับนักโทษที่ไม่มีสิทธิเข้าร่วม ประกอบด้วยพวกฆาตกรต่อเนื่อง พวกค้ายาเสพติด พวกที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานกระทำรุนแรงทางเพศ คอร์รัปชัน และก่ออาชญากรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ
ชายผู้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมเพียงครั้งเดียวจะมีสิทธิเข้าร่วมเป็นกำลังพลของกองทัพ แต่จะถูกเขี่ยออกโดยอัตโนมัติหากถูกพบว่ามีความผิดฐานข่มขืนด้วย ขณะเดียวกัน พวกอดีตนักการเมืองชื่อดังและเหล่าอดีตรัฐมนตรีที่เคยชดใช้โทษจำคุก ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
ชูเลียค ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่กฎหมายอาจก่อปฏิกิริยารุนแรงจากสังคม แต่มันผ่านการพิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบจากกระทรวงกลาโหมและกระทรวงยุติธรรม รวมไปถึงกองทัพ
นักโทษที่สมัครใจเข้าร่วมจำเป็นต้องผ่านการตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิต และจำเป็นต้องเหลือโทษจำคุกอย่างน้อย 3 ปี ทั้งนี้คนเหล่านี้จะถูกส่งเข้าประจำการในหน่วยรบพิเศษ ตราบใดที่สงครามยังคงเดินหน้าต่อไป หรือจนกว่าหน่วยรบของพวกเขาปลดประจำการ
หากคนเหล่านี้รับใช้กองทัพไม่ครบกำหนดหรือพยายามหนีทหาร พวกเขาจะถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ถึง 10 ปี และหากก่ออาชญากรรมอีกหนขณะประจำการ โทษที่เหลืออยู่ของเราจะถูกปรับเพิ่มสู่ระดับสูงสุดอีกรอบ
(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส)