หลายคนอาจจะบอกว่า พล็อตเรื่องแบบตัวละครไม่ได้รับความยุติธรรมเพราะกฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้หรือถึงเอาผิดก็เพียงน้อยนิดไม่สมกับความสูญเสีย จึงลุกขึ้นมาสวมหน้ากากนักฆ่าหรือตั้ง “ศาลเตี้ย” ในการจัดการกับคนชั่ว เพื่อสร้างความยุติธรรมนอกกฎหมาย พล็อตแบบนี้ดูซ้ำซากเพราะถูกเล่ามาแล้วในหนังหรือซีรีส์ไม่น้อยเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น The Devil Judge , The Killing Vote และ Taxi Driver เป็นต้น
อย่างไรก็ดี กล่าวสำหรับ A Killer Paradox แล้ว ถึงแม้จะมาพร้อมกับแก่นเรื่องดังกล่าว แต่ทว่าก็ยังสามารถหาทางของตัวเองแบบรอดจากความจำเจได้ แถมมีการทยอยเปิดตัวละครที่ซ่อนความลับความหลังบางอย่างซึ่งเมื่อเฉลยแล้ว ก็สร้างความเซอร์ไพรส์หงายหลังตึงได้เหมือนกัน
ซีรีส์ออกสตาร์ทด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มนักศึกษาซึ่งรับจ๊อบทำงานพาร์ทไทม์ในร้านสะดวกซื้อ ในแต่ละวัน เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองช่างไม่มีอะไรน่าตื่นเอาซะเลย ทุกสิ่งรอบตัวดูน่าเบื่อหน่ายไปซะหมด เขาอยากออกไปดูโลกกว้าง ไปเปิดหูเปิดตา ถึงขั้นลงทุนซื้อภาพสถานที่ท่องเที่ยวในแคนาดาซึ่งเขาได้ดูจากคลิปของนักรีวิวคนหนึ่งถึงความสวยงามของที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะที่ชีวิตกำลังประเคนความนาเบื่อให้กับเขา วันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเขาเผลอพลั้งมือฆ่าลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งในเวลาต่อมา พบว่า ลูกค้ารายนั้นคือฆาตกรต่อเนื่องที่หลบซ่อนตัวรอดจากเงื้อมมือเจ้าหน้าที่มานานหลายปี ยุ่งเลยทีนี้ จากชีวิตที่ไม่มีอะไรตื่นเต้น ก็ตื่นตาตื่นใจจนไม่รู้จะรับมือยังไงกันไปเลย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเข้ามาของเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนสืบสวนสอบสวน อย่าง “จางนันกัม” ซึ่งพยายามติดตามคดีและไล่ล่าตัวฆาตกรนี้อย่างไม่ลดละ
ตามสูตรผลงานแนวสืบสวนสอบสวน ที่มักจะซ่อนเงื่อนสร้างปมปริศนาให้แกะรอยหาสาเหตุต้นตอหรือฆาตกรตัวจริง A Killer Paradox ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่ใช่น้อย และที่สำคัญคือการไม่เก็บงำอำพรางว่าใครคือฆาตกร และจะเน้นเซอร์ไพรส์ด้วยคำเฉลยที่มีอะไรอยู่เบื้องลึกเบื้องหลังหรือที่มาที่ไปรวมทั้งแรงจูงใจแรงกระตุ้นในการก่อเหตุ
ในระยะใกล้ ๆ สิ่งที่เราเห็นเด่นชัดและตัวละครก็พูดออกมาค่อนข้างชัดเจน คือการแสวงหาความยุติธรรมให้กับตัวเองและคนอื่น ๆ โดยตั้งตนเป็น “ศาลเตี้ย” นั่นก็เพราะว่า ในความคิดของพวกเขาเหล่านี้ เมื่อกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเอาผิดคนชั่ว หรือแม้จะเอาผิดได้ แต่ก็น้อยเกินกว่าจะยอมรับได้ ความรู้สึกที่ไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างสาสมกับความสูญเสีย หรือความชั่วช้าของเหล่าคนเลว ทำให้พวกเขาต้องลุกขึ้นมากระทำการอย่างที่เห็น
ในระยะที่ไกลออกไปหน่อย ตัวซีรีส์ได้อธิบายถึงสาเหตุต้นตอซึ่งเป็นแรงผลักให้เกิดกระทำดังกล่าว ซึ่งล้วนมีที่มาจากการเป็นผู้ถูกกระทำมาก่อน ความรุนแรงจากการถูกกระทำ ไม่ว่าจะในวัยเยาว์หรือในวัยที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่งผลให้เกิดเป็นปมทางใจและสั่นคลอนความมั่นคงทางอารมณ์และจิตใจให้สั่นไหวได้ ถ้าต้องเจอการถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกลายเป็นความรู้สึกเก็บกด สุดท้ายก็มีโอกาสที่จะระเบิด และขยายผลลุกลามไปสู่การกระทำที่คาดไม่ถึงอย่างที่ซีรีส์ถ่ายทอดออกมา
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า A Killer Paradox เป็นอีกหนึ่งซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่มาพร้อมกับมุมมองเชิงจิตวิทยา มันสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในใจของตัวละคร เช่นเดียวกับคำว่า Paradox ในชื่อเรื่อง และพยายามสำรวจตรวจส่องเข้าไปในปมทางใจของตัวละครที่นำไปสู่การก่อเหตุฆาตกรรม ทั้งนี้ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็ดูเหมือนจะมีปมในใจคล้าย ๆ กัน
A Killer Paradox เป็นซีรีส์ที่ทำมาจากเว็บตูนและสตรีมทางเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งสนุกใช้ได้อีกเรื่องหนึ่ง แม้ไม่ถึงกับว้าวมาก แต่การพลิกไปพลิกมา และทยอยเปิดตัวละครสำคัญที่มาพร้อมกับคำเฉลยที่สำคัญ ก็ทำให้เราเดินไปกับซีรีส์ได้ตลอดความยาว 8 ตอนจบ แถมตอนเฉลยช่วงท้ายที่เปิดเผยความจริงให้ประจักษ์ชัด ยังอาจกล่าวได้ว่า “ดาร์ก” แบบอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน