สหรัฐฯ อาจใช้ "มาตรการหนักหน่วง" แบนรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีน และกำหนดข้อจำกัดต่างๆ ที่มีกับยานยนต์เหล่านั้น จากการเปิดเผยของ จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในวันพุธ (8 พ.ค.) ในการบ่งชี้ครั้งแรกว่ามาตรการแบนอยู่ภายใต้การเจรจา ตามหลังการสืบสวนในประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ
กระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาทบทวนความคิดเห็นต่างๆ ของสาธารณะที่รวบรวมมาจนถึงวันที่ 30 เมษายน ต่อประเด็นที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ในการตรวจสอบว่าการนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตโดยจีนก่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ ไรมอนโดให้สัมภาษณ์รอยเตอร์
"เราจำเป็นต้องพินิจพิเคราะห์ทุกข้อมูล จากนั้นก็หาคำตอบว่ามาตรการใดที่เราจำเป็นต้องดำเนินการ" ไรมอนโด กล่าวโดยปราศจากให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับกรอบเวลา "เราจะใช้มาตรการอันหนักหน่วง ซึ่งพูดได้ว่าจะไม่มีรถที่เกี่ยวข้องกับจีนในสหรัฐฯ หรืออาจหาทางบรรเทาผลกระทบต่างๆ ในนั้นรวมถึงมาตรการปกป้อง ป้องกันช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหรือกำหนดข้อจำกัดอื่นๆ ที่จำเป็น"
ทำเนียบขาวเคยระบุเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้เปิดการสืบสวนในเรื่องดังกล่าว เพราะว่ายานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีน รวบรวมข้อมูลที่อ่อนไหวจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะเดียวกัน กล้องบันทึกภาพและระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ของมันก็มักถูกใช้บันทึกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ
พวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าวในเดือนกุมภาพันธ์ ยังเร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่าจะใช้มาตรการใดจัดการกับรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีน
ไรมอนโด กล่าวกับคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ที่รับฟังความกังวลของเธอเกี่ยวกับรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีน ว่า "ยานยนต์เหล่านั้นอาจรวบรวมข้อมูลของชาวอเมริกันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารเป็นใคร สิ่งที่คนเหล่านั้นพูดขณะอยู่ในรถยนต์ พวกเขาเดินทางไปไหน ไปจนถึงลักษณะการขับขี่" เธอกล่าว พร้อมระบุสหรัฐฯ "จำเป็นต้องปฏิบัติกับรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีนหรือประเด็นเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วยความจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่"
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำหลายรอบว่าจะดำเนินการเพื่อป้องกันการไหลบ่าเข้ามาของรถยนต์นำเข้าจากจีน แม้ปัจจุบันสหรัฐฯ นำเข้ารถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก (Light duty vehicle) ที่ผลิตโดยจีนค่อนข้างเล็กน้อย
ในการแสดงความคิดเห็นไปถึงกระทรวงพาณิชย์ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายเน้นย้ำว่าอาจเป็นเรื่องลำบากที่จะยกเครื่องระบบเทคโนโลยีของพวกเขา เพื่อบรรเทาความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
Alliance for Automotive Innovation กลุ่มการค้าที่เป็นตัวแทนของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส โตโยต้า โฟลค์สวาเกน และผู้ผลิตรถยนต์ค่ายหลักอื่นๆ ระบุในเอกสารที่ยื่นถึงกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 30 เมษายน ว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์มุ่งมั่นที่จะพัฒนากรอบการทำงานสำหรับเทคโนยีการสื่อสาร ระบบโทรคมนาคมและระบบบริการ ในรถยนต์ที่มีการเชื่อมต่อให้มีความเหมาะสมลดความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ที่ออกแบบโดยจีน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเตือนว่าระบบของยานยนต์ ประกอบด้วยส่วนประกอบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ผ่านงานวิศวรกรรมก่อนการผลิตอย่างครอบคลุม ผ่านการทดสอบและกระบวนการตรวจสอบต่างๆ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วมันจึงไม่อาจเปลี่ยนระบบกันได้ง่ายๆ หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนจากซัปพลายเออร์เจ้าอื่น
เชอร์รอด บราวน์ คณะกรรมาธิการด้านธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (8 พ.ค.) เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ "แบนยานยนต์ของจีนทั้งหมดที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ ที่ออกแบบ พัฒนา ผลิตหรือมีซัปพลายเออร์จากจีน"
อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลของไบเดน อยู่ระหว่างการพิจารณากำหนดมาตรการรีดภาษีรอบใหม่กับรถยนต์ที่ผลิตโดยจีน ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่กำลังเผชิญแรงกดดันให้กำหนดข้อจำกัดกับรถไฟฟ้าของจีนที่นำเข้ามาจากเม็กซิโก
(ที่มา : รอยเตอร์)
