เอเอฟพี – อิสราเอลยกย่องการอนุมัติเงินช่วยเหลือของวุฒิสภาสหรัฐฯ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงเหล่าศัตรูเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของอิสราเอลและอเมริกา พร้อมกันนี้ยังอ้างข้างๆ คูๆ ว่า ศพชาวปาเลสไตน์นับร้อยที่พบในโรงพยาบาลใหญ่สองแห่งในกาซาที่ถูกกองทัพยิวบุกโจมตี เป็นฝีมือพวกปาเลสไตน์ด้วยกัน ทหารอิสราเอลแค่ขุดขึ้นมาตรวจสอบและฝังกลับคืนลงหลุมเท่านั้น
ในวันพุธ (24 เม.ย.) อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ขอบคุณวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่อนุมัติร่างกฎหมายความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลตามที่สภาผู้แทนราษฎรส่งต่อให้พิจารณา และสำทับว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นสัญญาณชัดเจนของการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างอเมริกากับอิสราเอลที่ส่งถึงศัตรูทั้งหมด
ความเคลื่อนไหวของวุฒิสภาสหรัฐฯ เกิดขึ้นขณะที่นานาชาติกังวลมากขึ้นว่า ในไม่ช้านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จะส่งกองทัพอิสราเอลบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ที่อยู่ทางใต้สุดของกาซา และมีประชาชนราว 1.5 ล้านคนหลบภัยอยู่
อิสราเอลระบุว่า ราฟาห์เป็นที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของกลุ่มฮามาส ทว่า กลุ่มบรรเทาทุกข์เตือนว่า การบุกเมืองดังกล่าวจะนำไปสู่หายนะ
เช้าวันพุธ แหล่งข่าวในโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงในกาซารายงานว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศในราฟาห์และค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัตตอนกลางของกาซา
แญน เอกแลนด์ ผู้อำนวยการนอร์วีเจียน เรฟูจี เคาน์ซิล ชี้ว่า ดูเหมือนทุกคนเริ่มนับถอยหลังสำหรับสงครามในราฟาห์ ซึ่งถือเป็นค่ายผู้อพยพใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้
ทางด้านเนทันยาฮูประกาศเดินหน้าแผนการบุกราฟาห์ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อียิปต์ที่ได้รับรู้แผนการของอิสราเอลว่า อิสราเอลเตรียมอพยพพลเรือนจากราฟาห์ไปยังบริเวณใกล้เมืองข่านยูนิสภายใน 2-3 สัปดาห์
นอกจากนั้น ภาพถ่ายดาวเทียมจากแม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ยังเผยให้เห็นค่ายที่เพิ่งสร้างขึ้นในบริเวณดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้
วอลล์สตรีท เจอร์นัลเสริมว่า หลังจากนั้นอิสราเอลจะทะยอยส่งทหารเข้าไปในราฟาห์ โดยกำหนดเป้าหมายที่เชื่อว่า เป็นที่กบดานของบรรดาผู้นำฮามาส และคาดว่า ปฏิบัติการนี้จะใช้เวลา 6 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร (23 เม.ย.) สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า ตกใจกับรายงานการค้นพบหลุมศพขนาดใหญ่ในโรงพยาบาลใหญ่ที่สุด 2 แห่งในกาซาภายหลังการปิดล้อมและบุกค้นของทหารอิสราเอล
นับจากสงครามกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลหลายแห่งในกาซาภายใต้ข้ออ้างว่า เป็นศูนย์บัญชาการของฮามาสและที่คุมขังตัวประกันอิสราเอล
สำหรับกรณีล่าสุด หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนในกาซารายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตเกือบ 340 ศพที่ถูกทหารอิสราเอลสังหารและฝังในโรงพยาบาลนาสเซอร์ในเมืองข่านยูนิส
กองทัพอิสราเอลโต้ว่า ข้อกล่าวหาทหารอิสราเอลฝังชาวปาเลสไตน์ไม่เป็นความจริง แต่ไม่ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาว่า ทหารอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการตายของคนเหล่านั้น
แถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอลยังระบุว่า ทหารอิสราเอลที่กำลังค้นหาตัวประกันได้ทำการตรวจสอบศพเหล่านั้นที่ถูกฝังโดยพวกปาเลสไตน์ ก่อนที่จะฝังกลับลงในหลุมตามเดิม
โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น เรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์จำนวนมากในโรงพยาบาลนาสเซอร์และอัล-ชีฟาในกาซาซิตี้อย่างอิสระ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สถานพยาบาลได้รับการคุ้มครองเป็นกรณีพิเศษภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า จะหารือเรื่องดังกล่าวกับอิสราเอล ขณะที่ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า ภาพหลุมศพในโรงพยาบาลสองแห่งในกาซาน่ากังวลอย่างมาก แต่ขณะนี้ตนยังไม่มีข้อมูลที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงใดๆ