กองทัพอิสราเอลยังคงถล่มเมืองราฟาห์ต่อไป ขณะเข้าปิดกั้นโรงพยาบาลเพิ่มอีก 2 แห่งในข่านยูนิส ที่เป็นเมืองใหญ่สุดทางตอนใต้ของฉนวนกาซา อ้างเป็นฐานปฏิบัติการของฮามาส นอกจากนั้นยังไม่อนุญาตให้ UNRWA จัดส่งอาหารเข้าสู่ดินแดนด้านเหนือของฉนวนกาซาอีก ทำให้ผู้อำนวยการหน่วยงานช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ของยูเอ็นแห่งนี้ ประณามยิวจงใจขัดขวางการบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยชีวิตผู้คนที่กำลังอดอยากด้วยน้ำมือคนด้วยกัน
พวกเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินปาเลสไตน์ระบุเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) ว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การถล่มทิ้งระเบิดของฝ่ายอิสราเอลได้สังหารผู้คนในเมืองราฟาห์ไปอีก 30 คน ขณะที่อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ แถลงว่า นานาชาติมีมติเอกฉันท์ชัดเจนยิ่งขึ้นในการเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิง รวมทั้งเชื่อว่า แผนการของอิสราเอลที่จะยกกำลังภาคพื้นดินบุกเมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของกาซา และเวลานี้มีชาวปาเลสไตน์หลบภัยอยู่กว่า 1 ล้านคน จะนำไปสู่ความวิบัติหายนะด้านมนุษยธรรม
เวลาเดียวกัน มีรายงานว่า กองทหารอิสราเอลได้เข้าปิดล้อมโรงพยาบาลอัล-อามาล และโรงพยาบาลนัสเซอร์ ในเมืองข่านยูนิสเอาไว้ หลังจากบุกค้นในโรงพยาบาลอัล ชีฟาในกาซาซิตี้ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของกาซา ตลอด 7 วันที่ผ่านมา
อิสราเอลอ้างว่า กลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลต่างๆ เป็นฐานปฏิบัติการ และได้เผยแพร่วิดีโอและภาพสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้ ทว่า ฮามาสและบุคลากรทางการแพทย์ต่างพากันปฏิเสธ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า มีนักรบปะปนอยู่ในผู้เสียชีวิตจากการโจมตีระลอกล่าสุดหรือไม่
ในวันจันทร์ กองทัพอิสราเอลแถลงว่า ยังคงปฏิบัติการอย่างแม่นยำในโรงพยาบาลชีฟา ควบคู่กับการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับพลเรือน ผู้ป่วย ทีมแพทย์ และอุปกรณ์การแพทย์
คำแถลงเสริมว่า กองทัพสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับกลุ่มฮามาสและกลุ่มอิสลามิก ญิฮาด ที่เป็นพันธมิตรกับฮามาส รวม 500 คน นอกจากนั้นยังพบอาวุธในโรงพยาบาลดังกล่าว
ทว่า กระทรวงสาธารณสุขกาซาระบุว่า ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์หลายร้อยคนถูกทัพรัฐยิวควบคุมตัวอยู่ในอัล ชีฟา
กองทัพอิสราเอลสำทับว่า ยังคงบุกโดยมีการกำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำในโรงพยาบาลอัล อามาล หลังจากสังหาร “ผู้ก่อการร้าย” ไปแล้ว 20 คนในย่านอัล อามาล ระหว่างการต่อสู้ระยะประชิดตัว รวมทั้งได้รับการสนับสนุนด้วยการโจมตีทางอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (24)
ทั้งนี้ มีชาวปาเลสไตน์กว่า 32,000 คนเสียชีวิต และ 74,500 คนได้รับบาดเจ็บจากการบุกกาซาของอิสราเอลนับจากวันที่ 7 ต.ค. เพื่อตอบโต้ที่นักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปสังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกัน 253 คนกลับไปคุมขังในกาซา
ในวันอาทิตย์ ฟิลิปเป ลาซซารินี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ซึ่งเป็นหน่วยงานยูเอ็นแห่งหลักที่เข้าช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ชาวปาเลสไตน์ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า ได้รับแจ้งจากรัฐบาลอิสราเอลว่า จะไม่อนุญาตให้ขบวนรถลำเลียงอาหารของ UNRWA เข้าสู่ดินแดนตอนเหนือของกาซาอีกต่อไป
จูเลียต ทูมา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของ UNRWA ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการปฏิเสธขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่ตอนเหนือของกาซา 2 ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยไม่ให้เหตุผลใดๆ และสำทับว่า UNRWA ไม่สามารถจัดส่งอาหารเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา
ลาซซารินี ประณามว่า การกระทำเช่นนี้ขงอิสราเอล เลวร้ายและจงใจขัดขวางการบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยชีวิตผู้คนที่กำลังอดอยากด้วยน้ำมือคนด้วยกัน
ต่อมาในวันจันทร์ อิสราเอลตอบโต้โจมตีว่า UNRWA ละทิ้งบทบาทของตัวเองในการอำนวยความสะดวกความช่วยเหลือเข้าสู่ตอนเหนือของกาซามาเป็นเวลานาน ตรงข้ามกับอิสราเอลที่ยังคงทำงานร่วมกับองค์กรบรรเทาทุกข์และหน่วยงานอื่นๆ ของยูเอ็นเพื่ออำนวยความสะดวกความช่วยเหลือจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการเปิดจุดข้ามแดนใหม่ๆ
อย่างไรก็ดี เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การปิดกั้นการส่งความช่วยเหลือของ UNRWA เป็นการปฏิเสธความสามารถในการอยู่รอดของประชาชนที่กำลังอดอยาก
ทั้งนี้ เดือนมกราคมที่ผ่านมา อิสราเอลกล่าวหาเจ้าหน้าที่ UNRWA 12 คน จากทั้งหมดราว 13,000 คนซึ่งกำลังปฏิบัติงานอยู่ในกาซา เกี่ยวข้องกับการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
ทางด้านยูเอ็นได้เปิดการสอบสวนภายในและการสอบสวนอิสระ แต่อิสราเอลกลับไม่ยอมส่งมอบหลักฐานใดๆ ที่สนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)