ปูตินประกาศชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งผลอย่างเป็นทางการระบุได้คะแนนโหวตท่วมท้น 87.28% ท่ามกลางเสียงประณามจากฝ่ายตะวันตกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ทว่าจีนและอินเดียต่างส่งสารแสดงความยินดี ขณะเดียวกันผู้นำหมีขาวเตือนความขัดแย้งโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโตอาจหมายความว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 รวมทั้งเรียกร้องมาครงเลิกปลุกปั่นและหันมาหาทางใช้สันติวิธีแก้ไขการสู้รบขัดแย้งในยูเครน
ภายหลังการลงคะแนนที่ดำเนินมา 3 วัน ในวันจันทร์ (18 มี.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้งรัสเซียประกาศว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้คะแนนเลือกตั้งสูงสุดชนิดทำสถิติใหม่คือเกือบ 76 ล้านเสียง หรือเท่ากับ 87.28% ของเสียงโหวตทั้งหมด และรับรองให้เขาเป็นผู้ชนะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 5 ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นผู้นำรัสเซียที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์รอบระยะเวลากว่า 200 ปี
ขณะที่เมื่อตอนเช้าวันเดียวกัน ในงานแถลงข่าว ณ ที่ทำการใหญ่ทีมรณรงค์หาเสียงของเขาในกรุงมอสโก ปูตินได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจ พร้อมประกาศว่า ความพยายามในการข่มขู่หรือปิดกั้นรัสเซียจะไม่มีวันประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้เขายังกล่าวขอบคุณทหารรัสเซียที่สู้รบอยู่ในยูเครน
ทั้งนี้ การเลือกตั้งของรัสเซียที่กินเวลา 3 วันคราวนี้ ยูเครนพยายามก่อกวนด้วยการก่อเหตุโจมตีทั้งในดินแดนรัสเซียและดินแดนยูเครนที่มอสโกควบคุมอยู่ ขณะเดียวกัน ก็มีเหตุการณ์ผู้ประท้วงทำลายข้าวของในหน่วยเลือกตั้งบางแห่ง
ทำเนียบเครมลินแสดงความคาดหวังให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นบทพิสูจน์ว่าคนรัสเซียยังคงสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบในยูเครน โดยที่มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นในดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองและประกาศผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตนด้วย
แต่สำหรับฝ่ายตะวันตกแล้ว ต่างพากันประณามสาปส่งการเลือกตั้งในรัสเซียคราวนี้ตั้งแต่จะเริ่มต้นขึ้นเสียอีก โดยเน้นย้ำเรื่องที่คู่แข่งคนสำคัญทั้งหมดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้ของปูติน ต่างเสียชีวิต ถูกจองจำ หรือไม่ก็ถูกเนรเทศ นอกจากนั้นปูตินยังสั่งปราบปราบผู้ที่แสดงการต่อต้านรัฐบาลรัสเซียหรือการทำสงครามในยูเครนอย่างเปิดเผย
โฆษกของทำเนียบขาวออกมาแถลงตั้งแต่วันอาทิตย์ (17) ว่า การเลือกตั้งของรัสเซีย “เห็นได้ชัดเจนว่าไม่มีทั้งความอิสระเสรีและความยุติธรรม”
ขณะที่พวกรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มอียู เป็นต้นว่า เยอรมนี, ฝรั่งเศส, และสหราชอาณาจักร ต่างแสดงความเห็นขณะเดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์เพื่อประชุมกันในวันจันทร์ (18) โดยปฏิเสธไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในแดนหมีขาวที่พวกเขาบอกว่าเป็นเพียงการหลอกลวงกัน ทั้งผิดกฎหมายและไม่เป็นประชาธิปไตย
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ก็วิจารณ์ว่าการเลือกตั้งของรัสเซียไม่มีความชอบธรรม และโจมตีปูตินเป็น “เผด็จการที่มัวเมาอำนาจ”
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศนอกค่ายตะวันตก เป็นต้นว่า จีน อินเดีย เวเนซุเอลา นิการากัว คิวบา โบลิเวีย เกาหลีเหนือ และพม่า ต่างแสดงความยินดีกับชัยชนะในการเลือกตั้งของปูติน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ต่างกล่าวคล้ายๆ กันในสารแสดงความยินดีด้วยว่า คาดหวังที่จะรักษาและส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนกันที่มีอยู่กับรัสเซีย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (17) ปูตินกล่าวเตือนว่า ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างรัสเซียกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่นำโดยอเมริกา อาจหมายความว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 อยู่ห่างออกไปอีกเพียงก้าวเดียว ก่อนสำทับว่า ไม่มีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
ปูตินกล่าวเรื่องนี้หลังจากถูกผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทีของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ตัดความเป็นไปได้ในการส่งกองกำลังนาโตไปยูเครนในอนาคต ขณะที่พันธมิตรตะวันตกหลายชาติไม่เห็นด้วย แต่บางประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปตะวันออกสนับสนุน
ผู้นำรัสเซียสำทับว่า จริงๆ แล้วตอนนี้มีทหารนาโตอยู่ในสนามรบยูเครนแล้ว โดยมีทั้งพวกที่พูดภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเนื่องจากทหารเหล่านั้นจำนวนมากตายในสนามรบ
ปูตินยังบอกอีกว่า เขาหวังว่า มาครงจะยุติการปลุกปั่นให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเปลี่ยนมารับบทบาทในการหาทางยุติสงครามอย่างสันติ พร้อมย้ำว่า รัสเซียเต็มใจเจรจาสันติภาพ หากยูเครนต้องการความสัมพันธ์ที่สงบสุขและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันในระยะยาว ไม่ใช่เพราะกระสุนหมด
ประธานาธิบดีรัสเซียยังตอบโต้เสียงวิจารณ์ของตะวันตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยชี้ว่า การเลือกตั้งของอเมริกาเองก็ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย นอกจากนั้นยังมีการใช้อำนาจรัฐจัดการกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง
(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)