สหราชอาณาจักรถูกระบุเป็นชาติที่ไร้ความสุขมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จากผลสำรวจที่จัดทำโดย Sapien Labs มูลนิธิทางประสาทวิทยาศาสตร์ซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ โดยผลสำรวจพบว่า สุขภาพจิตของชาวสหราชอาณาจักรดำดิ่งนับตั้งแต่วิกฤตโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และยัง “ไม่พบเห็นสัญญาณการฟื้นตัว”
รายงานประจำปี "สถานะทางจิตของโลก" (Mental State of the World) ของ Sapien Labs ซึ่งปีนี้จัดทำเป็นปีที่ 4 ได้ทำการประเมินสุขภาวะทางจิตของผู้เข้าร่วมทางอินเทอร์เน็ต 419,175 คน จาก 71 ประเทศ และผลลัพธ์ถูกนำออกเผยแพร่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าโลกที่พูดภาษาอังกฤษมีภาพที่หม่นหมองมาก โดยจาก 71 ประเทศซึ่งเข้าร่วมการสำรวจ พวกชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ล้วนติดอันดับอยู่ใน 1 ใน 4 ส่วนสุดท้ายของบัญชี โดยเฉพาะผู้พำนักอาศัยในสหราชอาณาจักรที่มีความสุขมากกว่าพวกที่อยู่ในอุซเบกิสถาน ซึ่งอยู่ในอันดับสุดท้ายเท่านั้น
ผลสำรวจจัดให้สหราชอาณาจักร ตามหลัง เยเมน 8 อันดับ และตามหลังยูเครน 12 อันดับ ในแง่ของสุขภาพจิตโดยรวมของประชาชน โดยชาวสหราชอาณาจักรราว 36% บอกกับ Sapien Labs ว่าพวกเขาถ้าไม่ "เป็นทุกข์ ก็กำลังต้องต่อสู้ดิ้นรน" ลดลงเพียงแค่ 0.7% จากปีที่แล้ว ครั้งที่พวกเขารั้งที่สุดท้ายในการจัดอันดับ
เพื่อวินิจฉัยสุขภาพจิตโดยรวมของแต่ละชาติ มูลนิธิแห่งนี้ได้ถามคำถามแต่ละคน 47 คำถาม เกี่ยวกับ "อารมณ์ความรู้สึกและอนาคตที่คาดหวัง" ของพวกเขา “ตัวตนทางสังคม” “แรงขับดันและแรงจูงใจ” และ “การปรับตัวและความยืดหยุ่น” ตลอดจนคำถามประเภทอื่นๆ ถึงแม้ Sapien Labs ชี้ว่าคำตอบต่อคำถามเหล่านี้อยู่ในลักษณะความเห็นส่วนตัวของแต่ละคน แต่รายงานการวิจัยชิ้นอื่นๆ ต่างให้ผลสรุปออกมาคล้ายๆ กัน
เป็นต้นว่า ท่ามกลางมาตรฐานการดำรงชีพที่ตกต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเวลานี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักรค้นพบเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ชาวสหราชอาณาจักรบอกว่าในช่วงขวบปีสิ้นสุดเดือนมีนาคมปี 2023 พวกเขามีความสุขและความพึงพอใจส่วนบุคคลลดลง ขณะที่รายงานการศึกษาซึ่งเผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ชื่อดัง The Lancet เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าประชาชน 1.8 ล้านคนในสหราชอาณาจักร ปัจจุบันกำลังรอการเข้ารับการรักษาด้านสุขภาพจิต
Sapien Labs ระบุว่าระดับสุขภาวะตลอดจนทั่วทั้งโลกพูดภาษาอังกฤษ ดำดิ่งลงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และภาวะตกต่ำนี้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่พบเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น รายงานพบว่าสุขภาวะทางจิตใจได้ลดต่ำลงในบรรดาประเทศที่มีรับประทานอาหารผ่านการแปรรูปกันโดยทั่วไป เด็กๆ มีสมาร์ทโฟนตั้งแต่อายุยังน้อย และความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวเหินห่างขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปรากฏว่าพวกประเทศที่พูดภาษาอังกฤษที่มั่งคั่งร่ำรวย มีคะแนนน้อยที่สุดในมาตรวัดทั้ง 3 นี้
ในการสำรวจครั้งนี้ สาธารณรัฐโดมินิกันติดอันดับสูงสุดในบัญชีในฐานะประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ส่วนอันดับ 2 เป็นของศรีลังกา และแทนซาเนีย ตามมาเป็นอันดับ 3 โดยพวกประเทศติดอันดับท็อปเท็น ล้วนมาจากแอฟริกา เอเชีย หรือไม่ก็ละตินอเมริกา
"แบบแผนเช่นนี้บ่งชี้ว่าการมีความมั่งคั่งและการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างมากมาย ไม่จำเป็นต้องนำมาซึ่งสุขภาวะทางจิตใจ" Sapien Labs ระบุ
(ที่มา : อาร์ที)