โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ในวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ว่าปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารหนึ่งใดในเมืองราฟาห์ ที่เต็มไปด้วยผู้คน ทางใต้ของฉนวนกาซา ไม่ควรเดินหน้าจนกว่าจะมีแผนหนึ่งสำหรับรับประกันว่ามีการวางกรอบความปลอดภัยแก่พลเรือนเสียก่อน
ราฟาห์ ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายแดนติดกับอียิปต์ เป็นสถานที่หลบภัยสุดท้ายของพวกชาวปาเลสไตน์ที่หลบหนีปฏิติการทิ้งบอมบ์อย่างไม่หยุดหย่อนของอิสราเอลในที่อื่นๆ ในฉนวนกาซา ในสงครามกับฮามาสที่ลากยาวมานานกว่า 4 เดือน ซึ่งมีชนวนเหตุจากการบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลของพวกฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
สหรัฐฯ สหประชาชาติ และบรรดารัฐบาลต่างชาติแสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อแผนของเนทันยาฮู ที่เตรียมรุกรานเมืองแห่งนี้ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยประชาชนราว 1.4 ล้านคน จำนวนมากพักอาศัยอยู่ในเต็นท์ ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำ และเวชภัณฑ์ยาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
"ไบเดน เน้นย้ำมุมมองของเขาที่ว่า ปฏิบัติการด้านการทหารหนึ่งใดในราฟาห์ไม่ควรเดินหน้าโดยปราศจากแผนที่มีความน่าเชื่อถือและทำได้จริง เพื่อรับประกันความปลอดภัยและสนับสนุนประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ที่พักพิงพักอาศัยอยู่ที่นั่น" ทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง อ้างอิงข้อมูลจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ในตอนเช้าวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ระหว่างไบเดน กับเนทันยาฮู
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มีการเผยแพร่ในช่วงเย็นวันเสาร์ (10 ก.พ.) เนทันยาฮู ยืนกรานว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการในราฟาห์ "พร้อมกับมอบเส้นทางผ่านที่ปลอดภัยแก่ประชากรพลเรือน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถหลบหนีออกมาได้"
ครั้งถูกถามว่าแล้วประชาชนที่หลบหนีออกมาได้ควรมุ่งหน้าไปที่ไหน เนทันยาฮู ตอบในการออกอากาศในวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ระบุว่า "คุณก็รู้ มีพื้นที่ต่างๆ ที่เราเคลียร์ทางเหนือของราฟาห์ มีพื้นที่มากมายที่นั่น แต่เรากำลังดำเนินการเกี่ยวกับแผนการโดยละเอียด"
นายกรัฐมนตรีรายนี้เน้นย้ำว่าการไม่บุกเข้าไปยังราฟาห์ แล้วเผชิญหน้ากับกองพลต่างๆ ของพวกฮามาสที่หลบซ่อนตัวอยู่ จะเท่ากับเป็นการพ่ายแพ้สงคราม
การโจมตีเล่นงานอิสราเอลของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,160 คน และจับตัวประกันไปราว 250 คน อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทั้งทางบกและอากาศอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยการเปิดฉากรุกรานฉนวนกาซา สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 28,176 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ถ้อยแถลงของทำเนียบขาวระบุว่า "ท่านประธานาธิบดีเน้นย้ำเป้าหมายร่วมกันของเรา คือเห็นฮามาสพ่ายแพ้และรับประกันความมั่นคงในระยะยาวของอิสราเอลและประชาชนอิสราเอล นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องใช้มาตรการต่างๆ อย่างเจาะจงและเร่งด่วน เพิ่มความปริมาณและความต่อเนื่องในด้านการป้อนความช่วยเหลือด้านมนุษธรรมไปยังพลเรือนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์"
การพูดคุยทางโทรศัพท์ในตอนเช้าวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ระหว่าง ไบเดน กับ เนทันยาฮู ถือเป็นการสนทนากันครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าเขามองปฏิบัติการทางทหารของกองทัพอิสราเอลในกาซา ว่ารุนแรงเกินไปแล้ว "มีผู้บริสุทธิ์มากมายที่กำลังหิวโหย มีผู้บริสุทธิ์มากมายที่ทุกข์ยากและเสียชีวิต และสงครามนี้ต้องหยุดได้แล้ว"
(ที่มา : เอเอฟพี)