อาคิโกะ โทโยดะ ประธานโตโยต้า มอเตอร์ เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่จะกินส่วนแบ่งตลาดได้อย่างมากสุดแค่ 30% เพราะเป็นพันล้านคนบนโลกยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ที่เหลือจะถูกแบ่งให้รถยนต์ไฮบริด เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และยานยนต์เผาไหม้เชื้อเพลิง
เมื่อปีที่แล้ว โคจิ ซาโตะ ซีอีโอระบุว่าโตโยต้าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ได้ 1.5 ล้านคนต่อปีภายในปี 2026 และ 3.5 ล้านคันภายในปี 2030
โทโยดะกล่าวระหว่างร่วมเวทีสัมมนาทางธุรกิจแห่งหนึ่ง ระบุว่า ทุกวันนี้ยังมีคนอีกมากมายนับพันล้านที่ไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ การจำกัดทางเลือกและความสามารถในการเดินทางของคนเหล่านี้ด้วยการผลิตรถยนต์ราคาแพงจึงไม่ใช่คำตอบ "ลูกค้าควรเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ใช่ผู้ควบคุมกฎระเบียบหรือผู้กำหนดนโยบาย"
ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกแห่งนี้ ตีโต้กลับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อความล้าหลังในแง่การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า โดยบอกว่าระบบขับเคลื่อนไฮบริดยุคบุกเบิกของพวกเขา เทคโนโลยีไฮโดรเจน และแนวทางโดยรวม ท้ายที่สุดแล้วจะพิสูจน์ว่ามันเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ ลูกค้า และสิ่งแวดล้อม
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือน โตโยต้าแถลงความคิดริเริ่มที่จะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปใหม่ "แน่นอนว่าเครื่องยนต์จะยังคงอยู่" โทโยดะกล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ของบริษัท
รายงานข่าวของบลูมเบิร์ก คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะคิดเป็นสัดส่วน 75% ของยอดขายรถใหม่ และ 44% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่แล่นบนท้องถนนภายในปี 2040
กระนั้น โทโยดะ พูดอย่างเด็ดเดี่ยวมานานหลายปี เน้นเกี่ยวกับนโยบายมอบทางเลือกในการขับเคลื่อนที่หลากหลายแก่ลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนใดก็ได้ที่พวกเขาต้องการ และเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างที่หลายฝ่ายคิดกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันนั้น บีวายดี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แซงหน้าโฟล์คสวาเกน อย่างเป็นทางการ ในฐานะแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในจีนเมื่อปีที่แล้ว อันเป็นหลักฐานชัดเจนว่าการเทเดิมพันหมดหน้าตักไปที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังให้ผลตอบแทนและช่วยให้พวกเขาแซงหน้าบริษัทชื่อดังเก่าแก่ของโลกบางแห่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีและวิจัยยานยนต์จีน (CATRC) เผยให้เห็นว่า บีวายดีมียอดจดทะเบียนประกันภัยรถยนต์ใหม่ในจีน 2.4 ล้านรายการเมื่อปีที่แล้ว ทำให้บริษัทสามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดจากทั่วประเทศได้ 11% ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี
ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้ำหน้าของบีวายดีในด้านการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดและไฮเทค ซึ่งกำลังได้รับการยอมรับจากนานาชาติอย่างรวดเร็ว จนทำให้บริษัทต่างๆ เช่น สเตลแลนทิส เอ็นวี (Stellantis NV) และโฟล์คสวาเกน เริ่มหันมาพึ่งพาบริษัทรถยนต์จีนในกลยุทธ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง
บีวายดี แซง โฟล์คสวาเกน ขึ้นแท่นแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในจีน เมื่อเทียบรายไตรมาสเมื่อปีที่แล้ว แต่ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ยอดขายตลอดทั้งปีของบีวายดีแซงหน้าโฟล์คสวาเกนแล้วเช่นเดียวกัน
โฟล์คสวาเกนเคยเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในจีน อย่างน้อยนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งเป็นปีแรกที่ศูนย์เทคโนโลยีและวิจัยยานยนต์จีน (CATRC) เริ่มเปิดเผยข้อมูล
ในบรรดาแบรนด์รถยนต์ 5 อันดับแรกอื่นๆ โตโยต้า และฮอนด้า ต่างพบเห็นส่วนแบ่งตลาดและมูลค่าการขายของพวกเขาลดต่ำลง ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีนอย่างบริษัทฉงชิ่ง ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด (Chongqing Changan Automobile) ได้รับผลประโยชน์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดของบริษัทจะทรงตัวก็ตาม
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)