xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีเหนือทุบทิ้ง “ซุ้มโค้งแห่งความหวัง” สัญลักษณ์รวมชาติกับเกาหลีใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เปียงยางได้ทุบทำลายอนุสาวรีย์ซุ้มโค้งแห่งการรวมตัวกับเกาหลีใต้ไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน กล่าวว่า การกลับมารวมตัวร่วมกับโซลอย่างสันติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ นักวิเคราะห์วิตกหวั่นผู้นำเปียงยางอาจเล็งต้องการเตรียมพร้อมเพื่อการเข้าสู่สงคราม


รอยเตอร์รายงานวันพุธ(24 ม.ค)ว่า ในสัญลักษณ์ล่าสุดของการเพิ่มความตรึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี พบว่าซุ้มโค้งแห่งการรวมตัว (the Arch of Reunification)ที่สร้างในปี 2000 หลังจากการซัมมิต 2 ชาติเกาหลีครั้งประวัติศาสตร์ได้ปรากฎว่าหายไปจากภาพถ่ายดาวเทียม อ้างอิงจากสื่อ NK News ที่เปิดเผยว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอนุสาวรีย์ซุ้มโค้งที่เป็นรูปหญิงเกาหลี 2 คนกำลังอัญเชิญทรงกลมที่เป็นภาพแผนที่ของคาบสมุทรเกาหลี

ซึ่ง สกอตต์ สไนเดอร์ (Scott Snyder) นักวิจัยอาวุโสประจำเกาหลีศึกษาและผู้อำนวยการโครงการนโยบายสหรัฐฯ-เกาหลีประจำสถาบัน Council on Foreign Relations แสดงความเห็นในการรายงานของ NBC News วานนี้(23)ว่า “มีความตั้งใจมากขึ้นในการเผชิญหน้าต่อเกาหลีใต้เพราะมีความรู้สึกที่ต้องการถูกปกป้อง”

ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่เกาหลีใต้นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ ยุน ซอกยอล ชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2022 นำโซลใช้มาตรการไม้แข็งต่อเกาหลีเหนือมากกว่าอดีตผู้นำคนก่อนหน้า

รอยเตอร์รายงานว่า คิมนั้นได้กล่าวถึงอนุสาวรีย์ซุ้มโค้งแห่งการรวมตัวที่สร้างด้วยคอนกรีตนี้ว่าเป็นสิ่งทำให้เป็นที่ระคายต่อสายตาในการแถลงสุนทรพจน์ต่อสมัชชาประชาชนสูงสุด(Supreme People’s Assembly)ซึ่งเป็นเสมือนสภาตรายางของเกาหลีเหนือ

เขายังเสริมต่อว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญของเกาหลีเหนือสมควรต้องได้รับการแก้ไขเพื่อสะท้อนต่อสถานะใหม่ของเกาหลีใต้ในฐานะศัตรูหลักของเปียงยาง ที่จะส่งผลต่อการยุตินโยบายทางการหลายสิบปีที่ย้ำต่อการรวมตัวกันระหว่าง 2 ชาติเกาหลี

อนุสาวรีย์แห่งการรวมตัวตั้งอยู่บนถนนไฮเวย์การรวมตัว(Reunification Highway)ที่เชื่อมกรุงเปียงยางไปสู่พรมแดนที่มีการควบคุมอย่างหนาแน่นด้วยกองกำลังระหว่าง 2 ชาติเกาหลี

รอยเตอร์รายงานว่า ถึงแม้ว่าซุ้มโค้งแห่งการรวมตัวจะเป็นแค่เชิงสัญลักษณ์แต่ทว่าการรื้อถอรออกไปยิ่งเป็นการเพิ่มความวิตกว่าเกาหลีเหนือจะใช้วิธียั่วยุมากขึ้นในความสัมพันธ์กับฝ่ายใต้และพันธมิตรก่อนหน้าสหรัฐฯกำลังจะมีการเลือกตั้งเพื่อเลือกประธานาธิบดีครั้งใหม่

สมัชชาประชาชนสูงสุดสัปดาห์ที่แล้วได้สั่งยุบหน่วยงานรัฐที่ดูแลกิจการเกาหลีใต้

โฆษกทำเนียบขาว จอห์น เคอร์บีย์ ยอมรับว่า สหรัฐฯจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการเปลี่ยนแปลงเมื่อถูกถามว่าสุ้มเสียงที่แสดงการยั่วยุจากเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้รวมไปถึงที่ประกาศว่า เตรียมพร้อมสำหรับสงครามนิวเคลียร์

แต่กระนั้นยังยืนยันว่า ฝ่ายสหรัฐฯมั่นใจต่อมาตรการป้องกันทางความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีที่กำลังดำเนินอยู่นั้นพอเพียงต่อความเสี่ยงแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น