แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันพุธ (17 ม.ค.) เตือนว่าเศรษฐกิจโลกต้องการเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน หลังจีนส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าที่ประธาธิบดีคนใหม่ของไทเป ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ปักกิ่งเคลื่อนไหวทหารครั้งใหญ่แถวเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน
ระหว่างพูดกับเวทีสัมมนา เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บลิงเคนเรียกผลการเลือกตั้งไต้หวันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ไล่ ชิงเต๋อ ผู้สมัครจากพรรครัฐบาลปัจจุบันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ว่าเป็น "การประกาศกร้าวอันทรงพลังของประชาธิปไตย"
บลิงเคน ชี้ถึงกระแสสินค้ามหาศาลที่ล่องผ่านช่องแคบไต้หวัน โดยระบุว่า "ถ้าเกิดความปั่นป่วนมันจะส่งผลกระทบทั่วทั้งโลก และมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกิดขึ้นหลังจากเพิ่งผ่านพ้นโควิด"
เขาเน้นย้ำบทบาทของไต้หวันในฐานะผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ล้ำสมัยรายสำคัญ "ไต้หวันมีบทบาทสำคัญยิ่งในโลกใบนี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมากมายหลายชาติจึงมีส่วนได้ส่วนเสียในการพิทักษ์สันติภาพและธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพ"
จีนอ้างว่าเกาะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้กำลังดึงเกาะแห่งนี้ที่ปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย กลับเข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุม
ปักกิ่ง ประณาม ไล่ ซึ่งในอดีตเคยเน้นย้ำเกี่ยวกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไต้หวัน และส่งเสียงคัดค้านต่อกรณีที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมส่งคณะผู้แทนอย่างไม่เป็นทางการเดินทางไปไทเป ตามหลังศึกเลือกตั้งไต้หวัน
แม้สหรัฐฯ ไม่ได้ให้การรับรองทางการทูตไต้หวันอย่างเป็นทางการ แต่วอชิงตันเป็นพันธมิตรสำคัญและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่แก่ไทเป
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยอย่างลับๆ แม้ปักกิ่งใช้สุ้มเสียงหนักหน่วง แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของปักกิ่งต่อศึกเลือกตั้งไต้หวัน ไม่ได้บานปลายใหญ่โตในระดับที่เกินคาดหมาย หลังจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนดูจะเบาบางลงในช่วงขวบปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามในอีกด้านหนึ่งนั้น กระทรวงกลาโหมของไต้หวันรายงานว่า พวกเขาตรวจพบเครื่องบินกองทัพอากาศจีน 18 ลำ กำลังปฏิบัติการอยู่รอบไต้หวัน และทำการลาดตระเวนพร้อมรบร่วมกับกองเรือรบจีนในวันพุธ (17 ม.ค.) ถือเป็นความเคลื่อนไหวทางทหารครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ผ่านพ้นศึกเลือกตั้งไต้หวัน
ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จีนมักส่งฝูงบินรบและเรือรบเข้าสู่น่านฟ้าและน่านน้ำรอบไต้เกาะไต้หวันเป็นประจำ ในขณะที่พวกเขาหาทางเน้นย้ำคำกล่างอ้างด้านอธิปไตยเหนือเกาะแห่งนี้ ที่รัฐบาลไทเปปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่าในเหตุการณ์ล่าสุด ในบรรดาเครื่องบิน 18 ลำ มีอยู่ 11 ลำที่บินข้ามเส้นกลางของช่องแคบไต้หวัน หรือพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง โดยมันเป็นการสอดประสานกับกองเรือรบจีน ที่ทำการลาดตระเวนความพร้อมในการรบร่วม
เส้นกลางของช่องแคบ ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นแนวกันชนอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 2 ฝ่าย แต่เวลานี้ฝูงบินจีนบินข้ามเข้ามาแบบเป็นประจำ ในขณะที่ปักกิ่งบอกว่าพวกเขาไม่เคยยอมรับการมีอยู่ของเส้นกลางดังกล่าว
ไต้หวันได้ส่งกองกำลังของตนเองเข้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกองทัพจีน จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมไต้หวัน
"ความมั่นคงและความรุ่งเรืองของภูมิภาคช่องแคบไต้หวัน มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพัฒนาการและเสถียรภาพโลก และมันเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกฝ่ายในภูมิภาคที่ต้องแบ่งปันกัน" ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ "กองทัพจะเดินหน้าเสริมศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง ให้สอดคล้องกับภัยคุกคามของศัตรูและความจำเป็นต้องการป้องกันตนเอง และตอบสนองต่อภัยคุกคามต่างๆ ในภูมิภาค"
ยังไม่มีความเห็นตอบโต้มาจากกระทรวงกลาโหมจีน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (17ม.ค.) สำนักงานกิจการไต้หวันของจีน บอกว่าจุดยืนของปักกิ่งที่ว่าจะไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังดึงไต้หวันเข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุม มีเป้าหมายไปที่การแทรกแซงของต่างชาติและพวกแบ่งแยกดินแดนกลุ่มเล็กๆ แต่บอกว่าไต้หวันก็จำเป็นต้องขจัดความมีอคติกับจีนด้วยเช่นกัน
(ที่มา : เอเอฟพี)