หุ้นไทยปิดร่วง -1.14 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยพักตัว เพื่อรอดูท่าทีปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและการเลือกตั้งไต้หวัน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะผลประกอบการหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ได้ออกมาตามคาด ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,407 จุด และแนวต้าน 1,418 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ปรับตัวลดลง -1.41 จุด หรือ -0.10% โดยปิดตลาดที่ 1,413.52 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,472.82 ล้านบาท ขณะทีภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวผันผวนสลับทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,418.33 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,410.21 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 219 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 192 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 237 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,827.92 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,495.44 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +323.77 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +8.7 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,973.32 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,781.85 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
3.BH มูลค่าการซื้อขาย 1,694.03 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,281.93 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,154.77 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BHปิดที่235.00บาท เพิ่มขึ้น 7.00บาท หรือ 3.07%
2.GPSC ปิดที่49.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 4.26%
3.MTC ปิดที่46.50บาท เพิ่มขึ้น 1.75บาท หรือ 3.91%
4.GULF ปิดที่45.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 2.27%
5.TOP ปิดที่ 53.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.43 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่293.00บาท ลดลง 5.00บาท หรือ 1.68%
2.BBL ปิดที่150.00บาท ลดลง 4.50บาท หรือ 2.91%
3.KBANK ปิดที่129.50บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 2.26%
4.SAPPE ปิดที่ 86.75บาท ลดลง 2.50บาท หรือ 2.80%
5.PTTEP ปิดที่148.00บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.33%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,923.11 จุด ลดลง -1.45 จุด หรือ -0.08% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 866.99 จุด ลดลง -0.95 จุด หรือ -0.11% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 418.18 จุด เพิ่มขึ้น 1.18 จุด หรือ 0.28%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักตัว เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐและผลการเลือกตั้งไต้หวันในวันเสาร์นี้ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมเป็นลักษณะแกว่งออกด้านข้างคล้ายกับตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งการเลือกตั้งในไต้หวันจะส่งผลต่อความกังวลความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเองก็ได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินที่ถูกโบรกเกอร์ใหญ่ต่างชาติลดระดับความน่าเชื่อถือลง ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ
อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้าจากการปรับขึ้นค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย.67 ขยับจาก 3.99 บาท/หน่วยมาเป็น 4.18 บาท/หน่วย และกลุ่มไฟแนนซ์คาดหวังดอกเบี้ยลดลง หลังจากรัฐบาลพยายามพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงก่อนหน้านี้
"แนวโน้มในพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งออกด้านข้างระหว่างรอติดตามปัจจัยต่างประเทศ และปัจจัยในประเทศ ทั้งความชัดเจนของมาตรการ Digital Wallet และการแก้ไขปัญหาภาระหนี้ทั้งภาคครัวเรือนและภาคองค์กรที่ยังอยู่ในระดับสูง ให้กรอบแนวรับ 1,407 จุด และแนวต้าน 1,418 จุด" นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย