อิสราเอลยังคงถล่มตอนใต้ของกาซาอย่างหนักเมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) แม้ประกาศลดดีกรีความดุเดือดของสงครามลง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุเสี่ยงต่อการบานปลายออกไปทุกขณะ ล่าสุด อิหร่านส่งขีปนาวุธถล่มศูนย์บัญชาการสอดแนมของอิสราเอลในอิรัก รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ขณะกบฏฮูตียังสามารถเข้าโจมตีเรือสินค้าอเมริกันในอ่าวเอเดน
สำนักงานประชาสัมพันธ์ของกลุ่มฮามาสแถลงว่า ตลอดคืนวันจันทร์ (15 ม.ค.) อิสราเอลระดมโจมตีในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 คน ขณะที่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมืองข่านยูนิส เมืองใหญ่สุดทางด้านใต้ของกาซาถูกโจมตีหนักหน่วง
ข่านยูนิสเป็นเป้าหมายหลักนับจากที่กองทัพอิสราเอลประกาศเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมาว่า ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของฮามาสทางตอนเหนือของกาซาเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังมุ่งหน้าจัดการกับตอนใต้ของกาซา
โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ปฏิบัติการทางทหารในตอนใต้ของกาซาจะลดระดับความเข้มข้นลงและจะยุติในเร็วๆ นี้ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ต่อไป แต่เขาไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจน
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของกาซาระบุตัวเลขอัปเดตจนถึงวันอังคารว่า มีผู้ที่ถูกสังหารจากสงครามของอิสราเอลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 24,285 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ในวันจันทร์เช่นกัน อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ แถลงย้ำข้อเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในกาซาโดยทันที เพื่อให้แน่ใจว่า สามารถจัดส่งความช่วยเหลือไปให้ประชาชนที่ต้องการอย่างเพียงพอ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการปล่อยตัวประกัน และหยุดยั้งไฟสงครามที่อาจลุกลาม เนื่องจากหากความขัดแย้งในกาซายืดเยื้อนานออกไป ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดการคำนวณผิดพลาดและสถานการณ์รุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อิสราเอลซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ย้ำว่า การสู้รบในกาซาจะดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน
ขณะเดียวกัน ชาวอิสราเอลยังคงกดดันรัฐบาลอย่างหนักให้เร่งช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกฮามาสจับไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่นักรบกลุ่มนี้บุกข้ามแดนเข้าไปสังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกัน 250 คนกลับกาซา อันเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซาที่ยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้
วันจันทร์ กลุ่มฮามาสยังเผยแพร่วิดีโอที่มีภาพของตัวประกันหญิงผู้หนึ่งซึ่งถูกข่มขู่ให้แถลงว่า ตัวประกันชายสองคนที่ถูกคุมขังด้วยกันกับเธอได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งในคำแถลงที่เผยแพร่พร้อมวิดีโอนี้ กองกำลังอาวุธอิซเซดีน อัล-กัสซัม ของฮามาสระบุเพิ่มเติมว่า ตัวประกันทั้งคู่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล
ทว่า แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า เป็นการโกหก แต่ยอมรับว่า กองกำลังอิสราเอลโจมตีเป้าหมายใกล้สถานที่ที่ตัวประกันเหล่านั้นถูกขังอยู่ และกำลังเร่งสอบสวนเรื่องนี้
นอกจากนั้น นับจากสงครามในกาซาปะทุขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม ได้เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหล่าพันธมิตรของฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านมาตลอด รวมทั้งทำท่ารุนแรงมากขึ้นๆ
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนอ้างว่า ยิงขีปนาวุธโจมตีเรือสินค้าของอเมริกาในอ่าวเอเดน ถึงแม้ปลายสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ และอังกฤษร่วมกันถล่มเป้าหมายในเยเมนเพื่อตอบโต้การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงของกบฏกลุ่มนี้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเผยว่า เมื่อคืนวันจันทร์ ได้ใช้ขีปนาวุธโจมตีศูนย์บัญชาการสอดแนมของอิสราเอลในเคอร์ดิสถาน ที่เป็นพื้นที่ปกครองตนเองของชาวเคิร์ดในอิรัก เพื่อตอบโต้ที่ยิวสังหารผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ตลอดจนกลุ่มต่อต้านอิสราเอลที่อิหร่านหนุนหลังอยู่ในประเทศตะวันออกกลางแห่งต่างๆ ซึ่งรวมตัวกันเป็น “กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน”
นอกจากนั้น กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามยังยิงขีปนาวุธถล่มกลุ่มก่อการร้ายที่ต่อต้านอิหร่านในเมืองเออร์บิล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเคอร์ดิสถาน ตลอดจนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียที่ประกาศความรับผิดชอบในเหตุระเบิดสองครั้งในอิหร่านเมื่อต้นเดือนที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ระหว่างพิธีรำลึกถึงกัสเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของอิหร่านที่ถูกอเมริกาส่งโดรนลอบสังหารในอิรักเมื่อปี 2020
ด้านอิรักประณามการโจมตีของอิหร่านและประกาศจะดำเนินการทางกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงการร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งยังเรียกตัวแทนของอิหร่านในแบกแดดเข้าพบ และเรียกเอกอัครราชทูตของตนกลับจากเตหะราน
ทางอิหร่านอ้างว่า การโจมตีเหล่านั้นเป็นปฏิบัติการแบบมีการกำหนดเป้าหมาย และต้องการเพียงสั่งสอนพวกที่ละเมิดความมั่นคงของตนเท่านั้น
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
