xs
xsm
sm
md
lg

PLANET #3: วังหลวงผู้ดีสมานฉันท์ขั้นสุด ปรินเซสแอนน์เลิกไฝว้ควีนคามิลลา ปรินซ์แอนดรูว์ได้รับอุปถัมภ์คดีกินเอ๊าะ แต่ ‘แฮร์รี-เมแกน’ ยังนัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ผู้ทรงเป็นพระราชธิดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงประเมินว่าพระคู่รักของเจ้าฟ้าชายชาล์ลส์ นามว่า คามิลลา เป็นคนฉวยโอกาสและทอดกายถวายแด่เจ้าฟ้าชาย (แม้จะได้รับสถานภาพแฟนซุกแฟนซ่อน และในเวลาต่อมาก็ได้เป็นแค่เมียน้อย) เพราะหวังผลประโยชน์และเพื่อไต่เต้าทางสังคม เจ้าฟ้าหญิงแอนน์จึงทรงไม่ยอมรับคุณคามิลลา ยิ่งเมื่อคุณคามิลลาได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้าฟ้าชายในปี 2005 ได้รับพระอิสริยยศดัชเชส และได้เข้าร่วมในแวดวงพระราชตระกูล เจ้าฟ้าหญิงก็ทรงยิ่งต่อต้านด้วยความเย็นชา จนกลายเป็นที่จับจ้องของสื่อมวลชนในฐานะคู่ไฝว้สายบู๊ระดับตำนาน (นานเป็นหลายสิบปีกันทีเดียว) และเป็นข่าวฮือฮาบ้างในบางครั้งบางคราว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภาพรวมมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่น้อยลงและดีขึ้นบ้างตามลำดับ สลับกับเหวี่ยงไปมา “แต่เรื่องราวอึดอัดคับข้องอุราในอดีตทั้งปวง หมดยุคสมัยอย่างชัดเจนแล้ว” เมื่อคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านมา
พระมู้ดสมานฉันท์อันสุดแสนจะเป็นปึกแผ่นของพระราชวงศ์อังกฤษ ได้ทะยานเสียดฟ้า ภายในห้วงแห่งเทศกาลชื่นมื่นคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยปรากฏโดดเด่นหลังจากที่พระราชสำนักสามารถสยบการกระหน่ำโจมตีหมิ่นพระเกียรติยศจาก 2-3 วีไอพีที่จัดทำหนังสือ Endgame ทั้งนี้นี่เป็นสมานฉันท์ขั้นสุด ระดับที่เรียกได้ว่า ปิดยุคคู่ไฝว้สายบู๊ระดับตำนาน เมื่อเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงยอมเดินเคียงข้างกับควีนคามิลลายาวไกล 370 เมตร จากพระตำหนักแซนดริงแฮมสู่โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีนนอกจากนั้น เจ้าฟ้าหญิงผู้ทรงเป็นที่เลื่องลือว่าพระโอษฐ์กับพระหทัยตรงกัน ทรงตรัสในคลิปออกสื่อ ยอมรับว่าควีนคามิลลาทรงมีคุณูปการต่อคิงชาร์ลส์อย่างแท้จริงและเนิ่นนานเกินกว่าครึ่งศตวรรษ

พร้อมกันนั้น ในด้านของดัชเชสเฟอร์กี อดีตพระชายาแห่งปรินซ์แอนดรูว์ ผู้เคยสร้างมลทินอื้อฉาวแปดเปื้อนพระราชตระกูลวินด์เซอร์ ก็ได้กลับสู่แวดวงพระราชสำนักชั้นนิวเคลียส หลังจากหลายๆ ปีมานี้ที่

อย่างไรก็ตาม ในซีกของพระตำหนักแคลิฟอร์เนีย ปรินซ์แฮร์รีกับพระชายาเมแกนยังทรงนัวอย่างยิ่งยวด และยังไม่ชัดเจนพระทัยว่า จะไปต่อ หรือพอแค่นี้

กล่าวคือ ขณะที่ทรงต้องยอมสยบ ไม่ส่งคลื่นป่วนรบกวนสมาชิกพระราชสำนัก โดยยอมรับความจริงว่า การดำเนินการทั้งปวงนั้น ไม่มีทางจะได้รับผลตามเป้าหมาย แต่ภาระที่ทรงสร้างไว้ก็มหาศาล และหนักหนามากหากจะแบกรับต่อไป กระนั้นก็ตาม ถ้าจะพอแค่นี้และหวนคืนวังเคนซิงตันไปรับสิทธิต่างๆ ในฐานะพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ (ซึ่งจะช่วยผ่อนภาระไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยวิ่งหาเงินปีละหลายล้านไปสนับสนุนพระไลฟ์สไตล์หรูหราแพงระยับ) ทั้งสองพระองค์ก็ต้องเปิดพระโอษฐ์ ขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นเงื่อนไขปวดร้าวพระทัยเหลือเกินสำหรับคนเจ้าทิฐิมานะระดับที่ว่า “ฆ่าก็ไม่ให้-หยามก็ไม่ยอม”

พลังสมานฉันท์ภายในพระราชตระกูลวินด์เซอร์ ปรากฏอย่างอบอุ่นน่ารักเป็นพิเศษในพระราชวงศ์เจเนอเรชันที่ 5 (นับจากต้นสายคือ กษัตริย์จอร์จที่ 6 พระราชบิดาของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงได้เสด็จขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ เพราะพระราชเชษฐา กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 8 ทรงสละราชสมบัติ) โดยในวันที่ 25 ธันวาคม 2023 มีสมาชิกพระราชวงศ์เจเนอเรชันที่ 5 เข้าร่วมเพียง 5 พระองค์/ท่าน จากพระครอบครัวเจ้าชายแห่งเวลส์ 3 พระองค์ และจากครอบครัวคุณซารา ทินเดลล์ 2 ท่าน คือคุณมีอา กับคุณลีนา ในการนี้ คุณมีอาเดินจูงมือกระหนุงกระหนิงกับเจ้าชายหลุยส์ ในช่วงการเคลื่อนขบวนจากพระตำหนักแซนดริงแฮมเฮาส์ สู่โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน

พระนัดดาลำดับที่ 3 ของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ นามว่า คุณมีอา เป็นพระญาติรุ่นพี่ที่แสนรักของเจ้าชายหลุยส์ ในการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสตสมภพที่ผ่านมา คุณมีอาเดินจูงพระหัตถ์เจ้าชายน้องน้อย พลางฟังมุกขำเมาท์มอยของปรินซ์หลุยส์ผู้ทรงซุกซนน่ารัก เด็กหญิงวัยใสอารมณ์ดีคนนี้ ได้ทำให้เห็นกันว่าภายในพระญาติเจนฯ 5 มีความสนิทสนมและสมัครสมานในระหว่างกันอย่างล้นพ้น
พระราชสำนักทรงสยบกระแสโจมตีจากพระตำหนักมอนเตซิโต โดยพระชายาเมแกนส่งสัญญาณขอสงบศึก

พระราชตระกูลวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักรทรงมีความสมานฉันท์ ราบรื่นเป็นปึกแผ่น หลังผ่านการถูกกระหน่ำโจมตีจากสองสามวีไอพีที่จัดทำหนังสือ Endgame เมื่อห้วงเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยบรรยากาศดีงามปรากฏให้พสกนิกรเมืองผู้ดีได้ปลื้มปริ่มชื่นใจกันทั่วหน้าในระหว่างช่วงแห่งการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส อันเป็นวันสำคัญของพระครอบครัว ณ โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน ที่แซนดริงแฮม เคาน์ตีนอร์ฟอล์ก ซึ่งจะเห็นได้ว่าเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงไม่ฟาดใส่พระพี่สะใภ้อย่างควีนคามิลลาแล้ว และทรงยอมสมานฉันท์ สนทนารื่นรมย์ระหว่างการเสด็จพระดำเนินเคียงกันชื่นมื่นในวันคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคม 2023

ภาพแห่งสัมพันธ์อบอุ่นอย่างนี้เป็นที่ปลาบปลื้มของพสกนิกรและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเฝ้ามองผลกระทบจากความพยายามบ่อนทำลายพระเกียรติยศของพระราชสำนัก ที่แผลงฤทธิ์ตลอดเดือนพฤศจิกายน แล้วถูกสยบลงราบคาบนับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมนี้ โดยที่ว่านอกจากจะไม่สามารถดิสเครดิตกษัตริย์ชาร์ลส์ได้แล้ว สมาชิกแห่งพระราชวงศ์ก็ยิ่งทวีความแน่นแฟ้นในระหว่างกัน

“ความขัดแย้งภายในพระราชวงศ์อังกฤษซึ่งพสกนิกรได้เห็นกันมาตลอด ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงแล้วนะครับ ในวันคริสต์มาสปีนี้บรรดาสมาชิกของพระราชวงศ์ต่างพร้อมเพรียงเข้าร่วมการเฉลิมฉลอง ในเวลาเดียวกัน บรรดาพระนามของพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ที่ทรงงานถวายแด่สถาบันกษัตริย์นั้น คิงชาร์ลส์ก็ทรงให้เกียรติ เอ่ยถึงไว้ในพระราชดำรัสคริสต์มาส ดังนั้น ในตอนนี้จึงดูเหมือนว่าแต่ละพระองค์ทรงรวมพระทัยเข้าด้วยกัน ขณะที่ความฝันของ ‘คนแคลิฟอร์เนีย’ มีแต่จะแตกสลาย คุณแอนเจลามีความเห็นอย่างไรครับ”

พิธีกรข่าวสถานีจีบีนิวส์ชงประเด็นไว้อย่างนั้น เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ แอนเจลา เลเวิน วิเคราะห์ถึงการที่ทรงผนึกกำลังกันสร้างแนวต้านทานการโจมตีขยี้ยับจากดัชเชสเมแกน x เจ้าชายแฮร์รี

“นี่เป็นเรื่องของแนวคิดน่ะค่ะ คือถึงเวลาจะต้องก้าวข้ามประเด็นเก่าๆ กันเสียทีเพราะได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยนะคะว่าพระราชวงศ์ต่างพยายามอย่างที่สุดกับเจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกน ดังนั้นถ้ายังปราศจากความคิดที่จะประนีประนอมหรือปฏิบัติต่อกันดีๆ ก็ย่อมจะต้องก้าวข้ามสองพระองค์นี้กันเสียทีค่ะ” กล่าวโดย แอนเจลา ผู้เขียนหนังสือเล่มโด่งดังแห่งปี 2018 เรื่อง Harry: Conversations with the Prince หรือก็คือ เจ้าชายแฮร์รี: บทสนทนากับปรินซ์

แอนเจลา เลเวิน ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ ออกโทรทัศน์ช่อง GBNews สนทนาข่าวว่าด้วยการที่พระราชตระกูลวินด์เซอร์ทรงผนึกกำลังกันสร้างแนวต้านทานการโจมตีขยี้ยับจากดัชเชสเมแกน x เจ้าชายแฮร์รี
โดยแอนเจลา เลเวิน อิงอยู่กับสถานการณ์โจมตีสมาชิกพระราชตระกูลวินด์เซอร์ซีรีส์ใหญ่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ในสถานการณ์อื้อฉาวดังกล่าวพระราชโอรสแฮร์รีและพระราชสุณิสาเมแกนทรงแพ็กคู่กันส่งคลื่นรบกวนจากลอสแอนเจลิสไปป่วนพระราชเบิร์ธเดย์ของกษัตริย์ชาร์ลส์หลายรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างภาพว่าคิงชาร์ลส์ทรงเป็นพระราชบิดาใจร้าย ไม่เชิญทั้งสองพระองค์เข้าร่วมพระราชปาร์ตีเบิร์ธเดย์ แต่ที่แท้นั้นน่าจะเป็นการกดดันเพื่อให้ได้รับโอกาสเข้าถึงกษัตริย์ชาร์ลส์แบบส่วนพระองค์เป็นเซสชันยาวๆ แล้วจะได้กราบบังคมทูลขอสิ่งต่างๆ แต่คิงทรงรู้ทันและไม่อนุโลมตาม

ในห้วงเดียวกัน หนังสือ Endgame: Inside the Royal Family and the Monarchy’s Fight for Survival ของ โอมิด สโคบี นักเขียนคนดังซี้สนิทของดัชเชสเมแกน ถูกใช้เป็นเครื่องมือกดดันชิ้นสำคัญที่ถูกผลิตมาเพื่อปรักปรำโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษอย่างอุกอาจ โดยนำข้อกล่าวหาเก่าๆ ของดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์มาทำการรีเมก ก่อนที่จะปล่อยสถานการณ์ “หลุด” พระนามของคิงไว้ในหนังสือ Endgame ฉบับแปลเป็นภาษาดัตช์ ว่าทรงเป็นผู้ที่ดัชเชสเมแกนกล่าวหาว่า ใช้วาจาเหยียดผิวนิโกรของเธอและพระโอรสอาร์ชี ด้วยการตรัสแสดงความกังวลว่า ‘ผิวของพระโอรสอาร์ชีจะดำเพียงใด’

ด้านบุคคลใกล้ชิดคิงชาร์ลส์เปิดเผยกับสื่อหัวสีเจ้ายักษ์อย่างเดอะซัน ว่าคิงชาร์ลส์ทรงยืนยันพระองค์จะไม่ยอมถูกพระราชโอรส “แบล็กเมล์ในทางอารมณ์” โดยในรายงานข่าวที่นำเสนอเมื่อ 8 ธันวาคม แหล่งข่าวรายนี้ระบุคำกล่าวของคิงชาร์ลส์ด้วยว่า พระองค์ทรงไม่สนพระทัยเลยที่พระนามของพระองค์ไปปรากฏในหนังสือ Endgame ฉบับแปลเป็นภาษาดัตช์ และขณะนี้พระองค์ยังทรงเต็มเปี่ยมด้วยพลัง

พระสหายของคิงชาร์ลส์เปิดเผยว่าพระองค์ทรงยืนยันจะไม่ยอมถูกพระราชโอรส “แบล็กเมล์ในทางอารมณ์” เดอะซันรายงาน
ทั้งนี้ นอกจากที่ปรินซ์แฮร์รีจะเร่งรัดแบบอ้อมๆ ให้คิงชาร์ลส์ทรงเชิญพระองค์และพระชายาเมแกนให้เข้าร่วมการเสวยพระกระยาหารฉลองพระราชเบิร์ธเดย์แล้ว ยังเรียกร้องให้พระราชบิดาเชิญเข้าร่วมการฉลองวันคริสต์มาสที่แซนดริงแฮมในนอร์ฟอล์กอีกด้วย

การเรียกร้องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องปกติวิสัยของปรินซ์แฮร์รี ดังเห็นได้ว่าในคราวที่ปรินซ์แฮร์รีทรงได้รับเชิญเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ปรินซ์ทรงแสดงความรู้สึกไม่พึงพอพระทัยตลอดเวลา และเมื่อพระราชพิธีเสร็จสิ้น ก็ทรงแอบแวะเข้าไปในพระราชวังบัคกิงแฮม แล้วไปปรากฏพระองค์ที่สนามบินด้วยสีพระพักตร์สดใสเปี่ยมสุขสไตล์สามล้อถูกหวย ก่อนจะขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับสหรัฐฯ โดยเร็ว

ดังนั้น ผู้เขี่ยวชาญหลายสถาบันชี้ว่าสาเหตุที่ปรินซ์ทรงเปลี่ยนท่าทีมาเป็นความร้อนรนที่จะได้มีเซสชันส่วนพระองค์ยาวๆ ในคราวนี้ (ขณะที่พระราชบิดาก็ทรงมิได้อนุโลมตาม) น่าจะมีสาเหตุจากความเดือดร้อนหนักหนาซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับรายงานข่าวเมื่อธันวาคม 2022 ที่นำเสนอกัน ดังนี้

เคยมีอยู่คราวหนึ่งในปี 2021 ที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (พระอิสริยยศขณะนั้น) ทรงถูกควีนเอลิซาเบธตรัสถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ที่ปรินซ์แฮร์รีติดต่อมาหา แล้วคำตอบของเจ้าฟ้าชายที่กราบบังคมทูลสมเด็จพระมารดาเจ้า มีอยู่ว่า “ผมไม่ใช่แบงก์ครับ”

คิงชาร์ลส์ทรงเป็นนักสู้สไตล์ตรัสน้อยต่อยหนัก พระองค์สามารถรับมือกับพระราชโอรสแฮร์รีได้ไม่ยาก เพราะทรงรู้ทันความคิดของปรินซ์ พร้อมกับทรงคุมเกมได้มั่นมือในยามที่ต้องเมินเฉยต่อแรงกดดันจากพระราชโอรส โดยจะทรงดำเนินการในมู้ดที่โนสนโนแคร์สายตาและคำวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน
ความพยายามของชาวคณะแห่งค่ายซัสเซกซ์ที่จะคุกคามพระเกียรติยศของพระราชตระกูลวินด์เซอร์ ได้มาถึงจุดยุติอย่างสมบูรณ์ เมื่อสื่อค่ายใหญ่ยักษ์ทั้งปวงของอังกฤษพากันอ้างแหล่งข่าววงในพระราชสำนัก มารายงานต่อท่านผู้ชมในวันที่ 1 ธันวาคม 2023 ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงหารือกับคณะที่ปรึกษาระดับสูง ซึ่งรวมถึงเจ้าฟ้าชายวิลเลียม เพื่อไล่เรียงดูทุกแนวทางดำเนินการ รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อหนังสือ Endgame หลังจากที่พระนามของพระองค์ถูกเขียนกล่าวหาไว้ในหนังสือ Endgame ฉบับแปลเป็นภาษาดัตช์ว่าทรงเป็นพวกเหยียดผิว

สื่อทั้งปวงรายงานด้วยว่าสำนักพระราชวังจะมุ่งในประเด็นว่าผู้ใดเป็นผู้ปล่อยจดหมายระหว่างคิงชาร์ลส์กับดัชเชสเมแกน ให้เป็นที่ล่วงรู้ของโอมิด สโคบี ผู้ซึ่งนำไปเขียนบ่อนทำลายพระเกียรติยศในหนังสือ Endgame

ทั้งนี้ โอกาสที่นักเขียนหนุ่มนาม สโคบี จะได้เห็นจากสำนักพระราชวังนั้น เป็นไปไม่ได้เลย แต่โอกาสที่สโคบี จะได้เห็นจากการอำนวยการของดัชเชสเมแกน คือ สูงลิ่ว เพราะทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก ระดับที่วงการสื่อมวลชนมอบฉายาแก่สโคบีว่า Cheerleader-in-Chief of Meghan หรือก็คือ ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งคณะเชียร์ลีดเดอร์ของดัชเชสเมแกน

ในการนี้ หากการดำเนินคดีเกิดขึ้น แนวโน้มที่น่าจะปรากฏต่อมาคือ ดัชเชสเมแกนจะถูกตัดสินว่ามีความผิดอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท พยายามสร้างความเสื่อมเสียแก่กษัตริย์ชาร์ลส์และสมาชิกพระราชวงศ์ ซึ่งจะมีบทลงโทษทั้งโทษปรับเงินและโทษจำคุก

ปฏิกิริยาดิ้นรนแก้ตัวจึงผุดออกมาอย่างครึกโครม โดยชาวคณะซัสเซกซ์รีบออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการที่ สโคบี ได้เห็นจดหมายโต้ตอบระหว่างดัชเชสเมแกนกับคิงชาร์ลส์ อันได้แก่ การที่แหล่งข่าวของเดอะเทเลกราฟซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดดัชเชสเมแกน ได้กดโทรศัพท์ไปออกตัวกับเดอะเทเลกราฟในวันที่ 1 ธันวาคมเลยว่า ดัชเชสเมแกนและบุคลากรในทีมซัสเซกซ์มิได้มอบจดหมายที่มีการกล่าวหาระบุพระนามคิงชาร์ลส์ ไปให้แก่ โอมิด สโคบี

แต่เหนืออื่นใดคือ ปฏิกิริยาดิ้นรนให้พ้นความผิด ที่ดัชเชสเมแกนแสดงออกด้วยตนเอง

แอนเจลา เลเวิน วิจารณ์ดัชเชสเมแกนว่า พระชายาไม่ใช่บุคคลสำคัญ และต้องคอยเกาะติดชายพระภูษาของปรินซ์แฮร์รี

เมื่อสื่อค่ายใหญ่ยักษ์ทั้งปวงของอังกฤษพากันรายงานข่าวในวันที่ 1 ธันวาคม 2023 ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงหารือกับคณะที่ปรึกษาระดับสูง เพื่อพิจารณามาตรการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อหนังสือ Endgame โดยเน้นประเด็นว่าใครกันแน่ที่นำจดหมายโต้ตอบระหว่างดัชเชสเมแกน กับปรินซ์ชาร์ลส์ ไปให้โอมิด สโคบี ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้เห็นได้อ่าน ชาวคณะซัสเซกซ์ ณ พระตำหนักมอนเตซิโต ถึงกับวิ่งพล่าน และสามวันต่อมาดัชเชสก็ออกโรงส่งสัญญาณยอมแพ้ขอสงบศึก ส่วนปรินซ์แฮร์รีทรงเก็บพระองค์ไม่เป็นข่าวใดๆ
โดยสื่อใหญ่สายจี๊ดจ๊าดแห่งเมืองผู้ดีนามว่า เพจซิกส์ รายงานก่อนหลายสื่อค่ายยักษ์อื่นๆ ว่าดัชเชสเมแกนนำของรับขวัญเมื่อปี 2018 จากกษัตริย์ชาร์ลส์ ผู้เป็นพระสสุระ ได้แก่ สร้อยข้อมือเพชรมูลค่า 4,900 ดอลลาร์ มาสวมขณะออกนอกพระตำหนักไปทำธุระในซานตา บาร์บารา เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2023 โดยมีผู้พบเห็นและถ่ายภาพเธอขณะเดินขึ้นรถ หลังจากที่เธอเก็บตัวเงียบในพระตำหนักอยู่เป็นนาน

นานปีกว่าแล้วที่ดัชเชสเมแกนมิได้สวมสร้อยข้อมือเพชรแบรนด์หรู เบนท์ลีย์-สกินเนอร์ ซึ่งประกอบด้วยเพชร 92 เม็ด รวม 2.6 กะรัต ออกจากพระตำหนัก โดยครั้งสุดท้ายที่สร้อยเส้นนี้ปรากฏบนข้อมือของเธอ คือ ในมหกรรมการแข่งขันกีฬาระหว่างทหารนานาชาติ อินวิคตัสเกมส์ ปี 2022 ทั้งนี้ก่อนเกิดความร้าวฉานต่างๆ นานานั้น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์สวมสร้อยข้อมือเพชรออกงานหลายครั้ง โดยครั้งแรกที่เป็นการเปิดตัวสายสร้อยเพชรข้อมือนี้ คือ ในค่ำคืนก่อนพระราชพิธีเสกสมรสกับปรินซ์แฮร์รี

เพจซิกส์และสื่อใหญ่ยักษ์ต่างๆ พากันตีความว่าพระชายาของเจ้าชายแฮร์รีส่งสัญญาณง้อและขอพระราชวงศ์มิให้ดำเนินคดีหมิ่นประมาทหนังสือ Endgame ซึ่งเธอน่าจะถูกลากเข้าไปร่วมรับผิดด้วย

ปรากฏการณ์ตลอดเดือนธันวาคมนี้มีอยู่ว่า กระแสโจมตีพระราชวงศ์อังกฤษได้โรยราเงียบกริบเป็นหนังคนละม้วนกับข่าวอื้อฉาวว้าวุ่นมากมายในเดือนพฤศจิกายน

ในเวลาเดียวกัน พสกนิกรต่างได้เห็นบรรยากาศชื่นมื่นด้วยรอยยิ้มในระหว่างสมาชิกพระราชวงศ์วินด์เซอร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอย่างแอนเจลา เลเวิน กล่าวว่าการโจมตีพระราชวงศ์พร้อมกับเปิดพระนามของคิงชาร์ลส์ในหนังสือ Endgame เป็นปัจจัยกระชับให้สมาขิกพระราชวงศ์ทุกพระองค์ผนึกสัมพันธ์เข้าด้วยกัน

“ดิฉันได้เห็นว่าคุณซาราและคุณมีอากับคุณลีนา มีพระโมเมนต์แนบแน่นน่ารักกับพระโอรสพระธิดาของปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสแคเธอริน คุณมีอาจูงมือกับปรินซ์หลุยส์ คุยเล่นเพลิดเพลินกับปรินเซสชาร์ลอตต์ นี่เป็นบรรยากาศครอบครัวที่แน่นแฟ้นกันมากๆ เลยนะคะ

“ดิฉันน่ะเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ว่าในตอนนี้ พระราชวงศ์ทรงเป็นปึกแผ่นอย่างยิ่งค่ะ” แอนเจลา เลเวิน ลงความเห็นไว้อย่างนั้น

ดัชเชสเมแกนสวมสร้อยข้อมือเพชรแบรนด์หรู เบนท์ลีย์-สกินเนอร์ ซึ่งประกอบด้วยเพชร 92 เม็ด รวม 2.6 กะรัต อันเป็นของขวัญจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในโอกาสเข้าร่วมการ์เดนปาร์ตี ฉลองพระเบิร์ธเดย์ 70 พรรษาของพระองค์ ซึ่งมีขึ้นสามวันหลังจากวันเสกสมรสของเธอกับปรินซ์แฮร์รีในปี 2018

หลังจากที่ดัชเชสเมแกนมิได้สวมสร้อยข้อมือเพชรเบนท์ลีย์-สกินเนอร์ มูลค่า 4,900 ดอลลาร์ ออกจากพระตำหนักมานานปีกว่า เธอนำสร้อยเพชรสำคัญสายนี้มาสวมอีกครั้งหนึ่ง ขณะออกนอกพระตำหนักไปทำธุระในซานตา บาร์บารา เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2023 หรือก็คือ 3 วันหลังมีข่าวเตรียมพิจารณาดำเนินคดีหนังสือ Endgame นั่นเอง
ปิดยุคศึกไฝว้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ vs ควีนคามิลลา หลังจบข่าวลือสุดท้ายเมื่อ พ.ค. ที่ตรัสใส่พระพักตร์ควีนว่า “เธอไม่ใช่สมเด็จพระราชินีนาถ เธอเป็นแค่พระราชินีมเหสี”

ในวันที่ 24 และ 25 ธันวาคม แห่งการรวมพระญาติเฉลิมฉลองคริสต์มาส ณ แซนดริงแฮมในเคาน์ตีนอร์ฟอล์ก ได้ปรากฏมากมายไปด้วยรอยแย้มพระสรวลและบรรยากาศสมานฉันท์อันเกินกว่าปกติอย่างยิ่ง ความเปลี่ยนแปลงในทางที่น่าอนุโมทนาอุบัติขึ้นหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านของมิตรภาพระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์กับควีนคามิลลา ซึ่งเคยขมเปรี้ยวมากบ้างน้อยบ้างมาตลอดหลายสิบปี

ในสัมภาษณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญแอนเจลา เลเวิน สนทนาข่าวทางโทรทัศน์จีบีนิวส์ เธอกล่าวถึงบรรยากาศสมานฉันท์อย่างตรงๆ ว่า “หลายๆ ปีที่ผ่านมา เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงไม่ยอมรับควีนคามิลลา”

ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่ควีนคอนสอร์ตคามิลลา ยังทรงเป็นคุณคามิลลา จดจนพระฐานะทะยานขึ้นฟ้าได้เป็น ดัชเชสคามิลลา ในปี 2005 เจ้าฟ้าหญิงแอนน์มักที่จะมีท่าทีเย็นชา และบางคราจะทำให้ดัชเชสรู้สึกว่าหลุดออกจากวงสนทนาได้ง่ายๆ ดิเอ็กซ์เพรซรายงานอย่างนั้น

แต่ด้วยความที่ดัชเชสคามิลลาทรงพิสูจน์พระองค์เองว่าเต็มพระทัยที่จะปฏิบัติตามพระราชประเพณีต่างๆ และทรงเต็มที่กับการช่วยเหลือพระภารกิจของสำนักพระราชวังทุกสิ่ง พร้อมกันนั้น หลังการจดทะเบียนสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในปี 2005 ดัชเชสทรงแสดงความจริงใจด้วยการสละสิทธิ์ไม่ใช้พระอิสริยยศเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เพื่อถนอมน้ำใจของประชาชนที่ยังผูกพันมั่นคงอยู่กับดวงวิญญาณเจ้าหญิงไดอานา

ดังนั้น ท่าทีของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ต่อดัชเชสจึงลดแรงเสียดทานลงบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นับแต่ปี 2007 ในลักษณะที่ดิเอ็กซ์เพรสรายงานว่า เป็นการละลายความเย็นชาแบบค่อยๆ ลดลงทีละน้อย แต่ก็จะมีความเหวี่ยงไปมาดีๆ ร้ายๆ ด้วย

“งานไหนๆ กิจกรรมใดๆ ที่มีดัชเชสคามิลลาเข้าร่วม ปรินเซสแอนน์มักจะไม่เสด็จค่ะ แต่มาถึงตอนนี้ ปรินเซสแอนน์ทรงยอมรับแล้วว่าควีนคามิลลาทรงสนับสนุนค้ำจุนคิงชาร์ลส์อย่างแท้จริงด้วยความจริงใจ เราเห็นได้ชัดเลยค่ะ คิงชาร์ลส์ทรงมีความสุขมากขึ้น มีความเชื่อมั่นมากขึ้น และปรินเซสแอนน์ทรงตรัสด้วยว่าคิงชาร์ลส์ทรงแตกต่างกว่าเดิมอย่างดียิ่ง” แอนเจลา เลเวิน ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Camilla: Duchess Camilla From Outcast to Queen Consort อธิบายความเคลื่อนไหวในพระราชสำนักวินด์เซอร์ไว้อย่างนั้น

เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงยอมรับควีนคามิลลาได้มากขึ้นอักโข หลังจากประจักษ์ถึงความทุ่มเทและจริงใจที่ควีนคามิลลาถวายแด่คิงชาร์ลส์

หลังจากที่เจริญพระชันษามาด้วยกันหลายทศวรรษ ปรินซ์ชาร์ลส์กับปรินเซสแอนน์ทรงสนิทสนมกัน รู้จักรู้ใจกันเป็นที่ยิ่ง แม้พระกนิษฐาทรงไม่เห็นด้วยกับพระเชษฐาในหลายๆ สิ่ง แต่ก็ทรงถวายความจงรักภักดีอย่างเต็มพระทัย
อันที่จริง เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงเป็นหนึ่งในผู้คนจำนวนมหาศาลที่ไม่ยอมรับคุณคามิลลา ดัชเชสคามิลลา และควีนคามิลลา เพราะเป็นธรรมดาที่ความคาดหวังของประชาชนต่อรัตนสตรีผู้จะก้าวขึ้นเป็นพระราชินีเคียงข้างพระราชบัลลังก์ จะเรียกร้องคุณสมบัติพื้นฐานของสาวชนชั้นสูงที่ร่ำรวยและใกล้ชิดพระราชวงศ์อย่างเลดีไดอานา ซึ่งอยู่ในแวดวงหลานๆ ของข้าราชบริพารซึ่งใกล้ชิดควีนเอลิซาเบธที่ 2 ระดับที่เรียกพระองค์ว่าสมเด็จป้าลิลิเบธ

ทั้งนี้ คุณคามิลลามีจุดบกพร่องหลักคือ มีความหรูสง่าเลอเลิศไม่เพียงพอ แม้จะมีฐานะทางสังคมสูงระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ร่ำรวยมหาศาล อีกทั้งยังหรูหราดูดีไม่เพียงพอจะเป็น ว่าที่พระราชินี ดังนั้น แม้คุณคามิลลาจะมีวาสนาสูงล้นที่ได้เป็นขวัญยี่หวาของปรินซ์ออฟเวลส์ แต่ก็ยังไม่ได้ดั่งใจท่านผู้ชม ยิ่งกว่านั้น ชีวิตส่วนตัวของคุณคามิลลาในห้วงก่อนที่จะไปเป็นพระคู่รักของปรินซ์ชาร์ลส์ผู้ทรงเป็นปรินซ์ออฟเวลส์ ยังมีภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่ไม่ใช่กุลสตรี

พระญาติผู้ใหญ่ที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์ทรงรักและนับถืออย่างยิ่ง เคยกล่าวถึงคุณคามิลลาว่า เธอมีภูมิหลังที่ดุเดือดอื้อฉาวเกินกว่าที่สำนักพระราชวังจะยอมรับเข้าเป็นสะใภ้หลวง (อ่านละเอียดที่: เปิดปูมมหากาพย์รักแซ่บ “51 ปี คามิลลา-ชาร์ลส์”: จากเมียน้อยผู้เติมเต็ม สู่ว่าที่ ‘ราชินี ราชชายา’)

นอกจากนั้น เมื่อคุณคามิลลามีโอกาสที่จะได้แต่งงานเป็นทางการกับนายทหารรูปหล่อ อนาคตไกล แห่งครอบครัวขุนนางชั้นสูง เธอก็ได้ตัดสินใจตัดขาดจากความเป็นพระคู่รักระดับแฟนซุกแฟนซ่อนของปรินซ์ออฟเวลส์ในปี 1973 เพื่อไปเข้าพิธีสมรสกับว่าที่ร้อยเอกแอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ ผู้ชายที่ทอดทิ้งเธอไปหลายปีเพื่อไปเป็นพระคู่รักชั่วคราวของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ซึ่งเป็นครั้งที่ร้อยกับแปดที่นายร้อยเจ้าเสน่ห์ “เท” เธอ แล้วพุ่งตัวสู่ความสัมพันธ์กับรักใหม่ๆ

จนกระทั่งเมื่อชีวิตครอบครัวของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ตลอดจนชีวิตครอบครัวของตัวเธอล้มเหลว ความสัมพันธ์โรมานซ์แห่งรักทรหด “ชาร์ลส์-คามิลลา” จึงปะทุกลับขึ้นมาใหม่ อร่อยเร้าใจกว่าเดิม ซึ่งทำให้เกิดภาพลักษณ์ของการคบชู้กลายๆ

นางสาวคามิลลา แชนด์ สาวสังคมวัยทีนเอจ 17 กะรัต แก้มอิ่ม ดวงตาส่งประกายน่าประทับใจ สนทนากับรูเพิร์ต ฮัมโบร ทายาทตระกูลธนาคารใหญ่ ในปี 1965 คามิลลาในวัยสาวมีแฟนเยอะและมีภาพลักษณ์ที่ตรงข้ามกับความรักนวลสงวนตัว

ภาพถ่ายที่ระลึกระหว่างคุณนายคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ และพันโทแอนดรูว์ผู้เป็นสามี เมื่อปี 1984 พร้อมบุตรและธิดา หลังเข้าพิธีรับมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น OBE
ผู้คนจำนวนมากวิเคราะห์ว่าเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงมีอคติต่อคุณคามิลลา เพราะประเด็นหวงแฟนเก่า แต่หลากหลายผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเมื่อเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงยุติความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ และทรงไปปลูกต้นรักใหม่กับว่าที่ร้อยเอกมาร์ก ฟิลลิปส์ ซึ่งเป็นความรักจริงจังไปถึงขั้นเสกสมรสกันในปี 1973 แล้วพระองค์ก็มิได้ทรงลังเลกับสัมพันธ์เดิมๆ

และที่สำคัญคือ พระองค์ทรงทราบอยู่ว่าในช่วงที่พระองค์เริ่มมีโรแมนซ์กับว่าที่ผู้กองแอนดรูว์นั้น เขาคบหาเป็นคู่รักกับคุณคามิลลา และได้ทอดทิ้งคุณคามิลลาเพื่อมาพัฒนาความสัมพันธ์กับพระองค์ จนกระทั่งว่าเมื่อถูกพระองค์บอกเลิก เขาจึงกลับไปหาคุณคามิลลาและขอคุณคามิลลาแต่งงานเยียวยาจิตใจบอบช้ำของตนเอง

ดังนั้น ประเด็นหลักที่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงไม่ยอมรับคุณคามิลลา เป็นประเด็นที่ทรงมองว่าภูมิหลังของคุณคามิลลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นแม่ม่ายหย่าร้าง ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะก้าวขึ้นเป็นพระราชินีมเหสี เพราะจะบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่จะต้องปกปักษ์พิทักษ์พระศาสนาอันได้แก่ Church of England “คริสตจักรแห่งอังกฤษ” ซึ่งถือว่าการแต่งงานกับสตรีที่หย่าร้างโดยที่ฝ่ายสามียังไม่เสียชีวิต เป็นการผิดประเวณี ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ชี้ไว้อย่างนั้น

ทั้งนี้ แม้กระทั่งในกรณีของเจ้าหญิงไดอานา สเปนเซอร์ พระชายาของปรินซ์ชาร์ลส์ซึ่งคบชู้สู่ชายหลายราย และดัชเชสซาราห์ เฟอร์กูสัน พระชายาของปรินซ์แอนดรูว์ซึ่งก็คบชู้สู่ชายเป็นจำนวนมากเช่นกันนั้น เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ก็ทรงไม่ยอมรับทั้งสอง

“เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ก็ทรงมีท่าทีเย็นชากับเจ้าหญิงไดอานา และกับดัชเชสซาราห์” แอนเจลา เลเวิน ระบุไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือชีวประวัติดัชเชสคามิลลา เรื่อง คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์: จากคนนอกพระราชวงศ์ สู่พระราชินีมเหสี

ส่วนสำหรับมิตรภาพระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ กับ แอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ ที่ยืนยาวมาถึงปัจจุบัน เป็นอานิสงส์จากความที่แอนดรูว์ โดดเด่นอย่างยิ่งในด้านความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธและพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ในเรื่องศักยภาพการรับมือกับภัยก่อการร้าย แอนดรูว์จึงยังเป็นพระสหายคนสนิทของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์จวบจนทุกวันนี้ ตลอดจนเป็นข้าราชบริพารที่ปฏิบัติงานถวายควีนเอลิซาเบธอย่างใกล้ชิด

จุดอ่อนอีกประการหนึ่งของคุณคามิลลา เป็นประเด็นที่เกิดจากอคติของผู้คนวงเล็กๆ จำนวนหนึ่งซึ่งมีความไม่พอใจต่อ แอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ อดีตสามีของคุณคามิลลา และอิจฉาเกลียดชังคุณคามิลลาซึ่งครองพระหทัยของปรินซ์ออฟเวลส์ได้อย่างเหนียวแน่น ผู้คนเหล่านี้กล่าวร้ายใส่ความว่าแอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์เป็นผู้ยุยงและวางแผน อีกทั้งสนับสนุนให้คุณคามิลลาปอกลอกหลอกเอาผลประโยชน์จากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

ด้วยรักแท้ที่ร้อยรัดไว้แน่นหนา เมื่อคุณคามิลลาหย่าร้างเป็นอิสระจากแอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ ในปี 1995 และเมื่อปรินซ์ชาร์ลส์ทรงเสร็จสิ้นกระบวนการหย่าร้างจากปรินเซสไดอานาในปี 1996 เรียบร้อยแล้ว ปรินซ์ชาร์ลส์และคุณคามิลลาก็ทรงใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเงียบๆ ที่พระตำหนักไฮโกรฟเฮาส์ในเคาน์ตีกลอสเตอร์เชอร์ใกล้ชายแดนติดกับเวลส์และห่างจากกรุงลอนดอนประมาณ 170 กิโลเมตร ซึ่งเอื้อให้ได้ห่างไกลจากกองทัพนักข่าวและบรรดาแรงกดดันตลอดจนกระแสต่อต้านเกลียดชังต่อคุณคามิลลา

ภาพของแอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ ในปี 1981 โดยขณะนั้นยังมิได้หย่าร้างจากคามิลลา ชีวิตสมรสของทั้งสองยืนยาวถึง 22 ปี (1973-1995) โดยมีบุตรและธิดาด้วยกันสองคน แต่สองทศวรรษดังกล่าวเป็นห้วงเวลาแห่งครอบครัวนองน้ำตา ด้วยเหตุที่ว่าคุณพ่อบ้านมีแฟนสาวหน้าใหม่ๆ โดยไม่ขาดสาย จนกระทั่งในที่สุดก็ยุติชีวิตสมรสในทางพฤตินัย ในเวลาเดียวกัน เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับเจ้าหญิงไดอานาก็ทรงแยกห้องพระบรรทม พระองค์ทรงไม่ยอมแตะต้องพระชายาเพราะทรงทราบถึงเรื่องการคบชู้  และในเวลาต่อมา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงหวนกลับสู่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคามิลลา

แอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ เคยเป็นพระคู่รักของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 แต่เจ้าฟ้าหญิงทรงบอกเลิกความสัมพันธ์ในปี 1973 เพราะทรงมีพระคู่รักใหม่ คือ ว่าที่ร้อยเอกมาร์ก ฟิลลิปส์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกในประเภทกีฬาขี่ม้า โดยรักใหม่นายนี้เป็นความรักจริงจังไปถึงขั้นเสกสมรสกันในปี 1973   อย่างไรก็ตาม แอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบลส์ เป็นพระสหายคนสนิทของเจ้าฟ้าหญิง และคบหากันมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพถ่ายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์กับพระสวามี ว่าที่ร้อยเอกมาร์ก ฟิลลิปส์ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1973 ชีวิตสมรสนี้ยุติลงอย่างสมบูรณ์ในทางนิตินัยในเดือนเมษายน 1992  หลังจากนั้น ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงเสกสมรสใหม่กับนาวาโททิโมที ลอเรนซ์ ราชองครักษ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
สาธารณชนค่อยๆ ลืมอดีตว้าวุ่นแห่งรักเจ้าปัญหาระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าหญิงไดอานา และคุณคามิลลา และต่อมาในปี 2002 มีการเปลี่ยนกฎแห่งพระคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England) ที่เปิดทางให้องค์รัชทายาทแห่งพระราชบัลลังก์สามารถแต่งงานกับสตรีหย่าร้างได้ จากกฎเดิมที่ห้ามไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่สามีเดิมยังมีลมหายใจ เพราะถือว่าเป็นการผิดประเวณี และหากจะเดินหน้าแต่งงานตามความปรารถนา องค์รัชทายาทก็จะเสียสิทธิในพระราชบัลลังก์ กฎเหล็กข้อนี้เคยทำให้กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 8 ทรงต้องสละราชบัลลังก์ เพื่อจะได้สมรสกับแม่ม่ายอเมริกัน นางวิลลิส ซิมป์สัน

หลังจากนั้นหนึ่งปี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคุณคามิลลาทรงย้ายเข้าประทับในพระตำหนักแคลเรนซ์เฮาส์ กรุงลอนดอน และเมื่ออคติอันรุนแรงที่สาธารณชนมีต่อคุณคามิลลาทยอยอ่อนแรงลง พร้อมกับมีกระแสใหม่แห่งการยอมรับว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับคุณคามิลลาทรงรักใคร่ผูกพันกันอย่างแท้จริง ตลอดจนการยอมรับกันว่าปรินซ์ทรงมีความสุขมากขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจากเมื่อทศวรรษ 1990

ในที่สุด เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงจัดให้มีการแต่งงานแบบที่รอมชอมและให้เกียรติแก่พระศาสนจักรอย่างที่สุด โดยงดเว้นพระราชพิธีมิสซารับศีลอภิเษกสมรสในโบสถ์ แล้วทดแทนด้วย 2 พิธี คือ ในส่วนแรกเป็นการจดทะเบียนสมรสแบบเดียวกับประชาชนทั้งปวง ณ ที่ทำการของรัฐซึ่งอยู่นอกพระราชฐานวินด์เซอร์ ในวันที่ 9 เมษายน 2005 ในการนี้ สมเด็จพระราชมารดา ผู้ทรงมีฐานะผู้พิทักษ์คริสตจักรแห่งอังกฤษ ไม่เสด็จเข้าร่วมในส่วนนี้ หลังจากนั้น ในส่วนที่สอง คือ การเข้าพิธีมิสซาถวายพระพรพระคู่สมรสในวิหารเซนต์จอร์จ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งก็เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ยั่งยืน 35 ปีไปในตัว

ทั้งนี้ อาจนับได้ว่าการจดทะเบียนสมรส ซึ่งเป็นการรับรองสถานภาพทางกฎหมายให้แก่คุณคามิลลา (พร้อมกับมอบพระอิสริยยศดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ไปด้วยโดยทันที) ก็คือรางวัลตอบแทน “รักแท้” และ “ความผูกพันอันซื่อสัตย์ภักดี” ที่คุณคามิลลาถวายแด่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ โดยคุณคามิลลาได้ถวายความจงรักภักดีทั้งหมดทั้งมวลแด่ปรินซ์ ไม่ต่อต้าน ไม่เป็นปฏิปักษ์ และยอมตามพระองค์ทุกสิ่งอย่าง

ในการนี้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงแสดงสปิริตใจกว้างอย่างยิ่ง โดยทรงเข้าร่วมงานทั้งช่วงการจดทะเบียน และช่วงพระราชพิธีมิสซาถวายพระพร แม้ความรู้สึกไม่ยอมรับยังคงอยู่ในพระทัยก็ตาม ซึ่งความรู้สึกของพระองค์สอดคล้องกับกระแสสังคมที่ไม่ต่อต้านเรื่องการจดทะเบียนสมรส แต่ก็ไม่ต้องการเห็นดัชเชสคามิลลาก้าวขึ้นเป็นพระราชินีอังกฤษในอนาคต

พระราชพิธีมิสซาถวายพระพรแด่การสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับดัชเชสคามิลลา ณ วิหารเซนต์จอร์จในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ เมื่อ 9 เมษายน 2005 โดยมีสมาชิกพระราชวงศ์เข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิปผู้เป็นพระราชสวามี ทรงเสด็จเข้าร่วมพระราชพิธีมิสซาถวายพระพรแด่พระคู่สมรส เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ - ดัชเชสคามิลลา ณ วิหารเซนต์จอร์จ ทั้งนี้ มีการตกลงกันไว้ว่าเมื่อเจ้าฟ้าชายเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ พระชายาคามิลลาจะไม่ทรงรับพระอิสริยยศแห่งควีนคอนสอร์ต หรือก็คือ พระราชินีมเหสี โดยจะทรงรับเพียงระดับปรินเซสคอนสอร์ต หรือก็คือ เจ้าหญิงมเหสี แม้ว่าในทางกฎหมายแล้ว พระมเหสีของพระมหากษัตริย์จะต้องได้รับพระอิสริยยศพระราชินีเท่านั้น

บรรยากาศน่ารักที่ด้านหน้าวิหารเซนต์จอร์จ หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีมิสซาถวายพระพระพระคู่สมรส  โดยควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงแย้มพระสรวลอยู่ใกล้กับพระสุณิสาคามิลลา ซึ่งพยายามประคองพระเกศามิให้เสียทรงไปกับแรงลม ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงอมยิ้ม เอาใจช่วย

พระคู่สมรสทรงพระดำเนินออกจากวิหารเซนต์จอร์จด้วยพระออร่าเปี่ยมสุข หลังจากที่ได้อภิเษกสมรสกันอย่างถูกต้องเป็นทางการสมดั่งความปรารถนาอันมุ่งมั่น แม้จะต้องผ่านปัญหาและอุปสรรคมหาศาลเนิ่นนานมากกว่าสามทศวรรษ ดัชเชสคามิลลาทรงพระสิริโฉมผุดผ่องยิ่งกว่าวันอื่นๆ ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงพระสมาร์ทและคมคาย
ประเด็นขัดแย้งรุนแรงนี้ปะทุขึ้นมาซีรีส์หนึ่งในช่วงเดือนตุลาคม 2021 โดยแหล่งข่าววงในพระราชสำนักหลายรายเผยกับสื่อต่างๆ ว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์น่าจะเบี้ยวคำสัญญาดั้งเดิมที่จะให้ดัชเชสคามิลลาครองพระอิสริยยศ Princess Consort หรือก็คือ เจ้าหญิงมเหสี เมื่อตัวพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อังกฤษ โดยอาจจะตัดสินพระทัยดำเนินการให้ดัชเชสสุดที่รักของพระองค์ได้รับพระอิสริยยศแห่ง Queen Consort พระราชินีมเหสี

ทั้งนี้ ปมสำคัญเรื่องดัชเชสคามิลลากับตำแหน่งพระราชินีมเหสีนี้ เคยถูกย้ำในเดือนมีนาคม 2020 เมื่อพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งดังนี้

“ความตั้งพระทัยมีอยู่ว่าดัชเชสคามิลลาจะทรงเป็นที่เรียกขานกันว่า ปรินเซสคอนสอร์ต เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงขึ้นครองราชย์ เรื่องนี้เคยประกาศกันในห้วงแห่งการอภิเษกสมรส และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ”

อย่างไรก็ตาม สื่อผู้หญิงค่ายดัง เฮาส์แอนด์โฮม นำเสนอสกู๊ปบอกว่ารายงานข่าวของหลากหลายแหล่งนำเสนอว่า ขณะนี้เจ้าฟ้าหญิงแอนน์กับดัชเชสคามิลลาทรงงัดข้อกัน เพราะมีความเป็นไปได้ว่าตำแหน่งของดัชเชสจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงเตรียมจะโปรดให้ดัชเชสได้เป็น ควีนคอนสอร์ต เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ แม้ว่าที่ผ่านมา ทรงสัญญากับพระราชตระกูลว่าจะให้ดัชเชสได้เป็นแค่ปรินเซสคอนสอร์ต

พร้อมนี้ เฮาส์แอนด์โฮมอ้างคำพูดของเพนนี จูเนอร์ นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษว่า กระแสข่าวดัชเชสคามิลลาจะได้ขึ้นเป็นควีนคอนสอร์ต สร้างความเกรี้ยวโกรธแก่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์อย่างหาประมาณมิได้ และพระองค์ทรงตรัสถึงความรู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงนี้ต่อพระเชษฐาชาร์ลส์และพระชายาของพระเชษฐาไปอย่างมากมาย

“เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงกล่าวออกไปตรงๆ เลยว่าดัชเชสคามิลลาจะไม่มีวันเป็นพระราชินีที่แท้จริงในสายตาของพสกนิกรชาวอังกฤษ” เพนนี จูเนอร์ เล่าไว้อย่างนั้น พร้อมทำนายว่าหากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงฝืนเดินหน้าตามนี้ พระองค์จะต้องเผชิญกับแรงต้านมากมาย เฮาส์แอนด์โฮมรายงาน

วิกฤติเล็กๆ ถูกลืมเลือนไปภายในวันเวลาที่เคลื่อนไหล แล้วสิ่งที่เคยเป็นอะไรที่ไม่น่าปรารถนาก็คลี่คลาย รวมถึงเรื่องของเงื่อนปมแห่งพระอิสริยยศ เจ้าหญิงมเหสี กับ พระราชินีมเหสี ที่เคยถูกต่อต้านหนักหนา

ทั้งนี้ ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2022 ในสาส์นจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สู่ประชาชนเนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลองปีแห่งการครองราชสมบัติครบ 7 ทศวรรษ ควีนเอลิซาเบธทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า พระองค์ทรงปรารถนาให้ดัชเชสคามิลลาแห่งคอร์นวอลล์ถูกกล่าวขานถึงในฐานะพระราชินีมเหสี เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงก้าวขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์

เมื่อองค์กษัตริยาณีทรงตรัส ปมขัดแย้งทั้งปวงจึงเป็นอันยุติ

ในปี 2020 อันเป็นห้วงเวลาที่บรรยากาศระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ กับดัชเชสคามิลลา กระเตื้องขึ้น เคยมีพระโมเมนต์ดีงามเกิดขึ้นในระหว่างสองพระองค์ เมื่อมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีนในสกอตแลนด์มีมติถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ สำหรับที่พระองค์ทรงงานอย่างมหาศาลในด้านสังคมสงเคราะห์ ในการนี้ ดัชเชสคามิลลา ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลับอเบอร์ดีน เป็นผู้มอบใบปริญญาบัตรนี้ เมื่อ 14 มกราคม 2020 ประชาชนทั้งปวงจึงได้ชื่นใจกับภาพยิ้มแย้มชื่นมื่นระหว่างทั้งสองพระองค์
จนกระทั่งมาถึงวันที่ 8 กันยายน 2022 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จสวรรคต และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงเสด็จขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรโดยทันที เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ซึ่งเป็นที่นับถือและชื่นชมอย่างมหาศาลในหมู่ประชาชน ได้ทรงถวายความจงรักภักดีเป็นที่พอพระราชหฤทัยของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงได้รับการเชิดชูพระเกียรติยศเป็นพิเศษในหลายวโรกาสของพระราชตระกูล เช่น ในการเข้าร่วมพระราชพิธีมิสซาอีสเตอร์ซันเดย์เดือนเมษายน 2023 มีการปรับลำดับโปเจียมเล็กน้อยสำหรับลำดับการเดินจากพระราชวังวินด์เซอร์สู่วิหารเซนต์จอร์จ และการเดินเข้าสู่ด้านในของพระวิหาร โดยจัดเป็นกลุ่มเจเนอเรชัน ซึ่งกลุ่มแรกเป็นกลุ่มเจเนอเรชันรุ่นใหญ่ ประกอบด้วยกษัตริย์ชาร์ลส์และควีนคามิลลา ตลอดจนพระราชกนิษฐาพร้อมพระสวามี และพระราชอนุชาพร้อมพระชายา แล้วกลุ่มต่อมาเป็นกลุ่มเจเนอเรชันรุ่นเล็ก ประกอบด้วยพระโอรสพระธิดาพร้อมพระนัดดา

ในการนี้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงได้รับพระเกียรติอย่างสำคัญยิ่ง โดยทรงได้ลำดับซึ่งติดหลังคิงชาร์ลส์และเคียงข้างกับพระอนุชาแอนดรูว์ ส่วนพระสวามีเซอร์ทิโมที ลอเรนซ์ อยู่ท้ายกลุ่มเจเนอเรชันรุ่นใหญ่ โดยตามหลังพระครอบครัวของปรินซ์เอ็ดเวิร์ด และอยู่ระนาบเดียวกับพระครอบครัวของเลดีซาราห์ ชาต์โตว์ พระธิดาของเจ้าหญิงมาร์กาเรต ทั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์จะทรงตามหลังพระอนุชาแอนดรูว์และพระอนุชาเอ็ดเวิร์ดมาโดยตลอด

โปเจียมที่ถูกปรับเปลี่ยนดังกล่าวนี้ กระทบลำดับของพระครอบครัวปรินซ์วิลเลียม จากเดิมที่จะทรงตามติดด้านหลังของพระราชบิดา ก็ย้ายไปในกลุ่มปิดท้ายขบวน โดยมีคุณปีเตอร์ ฟิลลิปส์ พระโอรสของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ กับคุณซามูแอล ชาต์โตว์ พระโอรสของเลดีซาราห์ เดินคู่กันเป็นลำดับสุดท้าย

นอกจากนั้น พระองค์ยังได้รับบทบาทสำคัญในวโรกาสต่างๆ ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อย่างสมพระฐานะพระกนิษฐาเจ้าโดยตลอดหลายไตรมาสที่คิงชาร์ลส์ทรงครองพระราชบัลลังก์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้รับบทบาทสำคัญอย่างยิ่งและอย่างโดดเด่นในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเชษฐา คิงชาร์ลส์ ในวันดีๆ วันที่ 6 พฤษภาคม 2023

เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงได้รับมอบให้เป็นพระราชองครักษ์ส่วนพระองค์ของคิงชาร์ลส์ ในฐานะพระราชองครักษ์ผู้ครองคทาทองคำ ในการนี้พระองค์ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบทหารยศพลเอก ทรงประทับม้าและติดตามพิทักษ์พระราชรถทองคำ Gold State Coach ประจำตำแหน่งคิงชาร์ลส์และควีนคามิลลา มุ่งหน้าสู่พระราชวังบัคกิงแฮม พร้อมนี้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงนำนายทหาร 6,000 นาย ยาตราไปตามถนนสายต่างๆ ของกรุงลอนดอน นิตยสารพีเพิลรายงานอย่างนั้น

ในยุคสมัยแห่งกษัตริย์ชาร์ลส์ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงได้รับการเชิดชูพระเกียรติยศเป็นพิเศษในหลายวโรกาส เช่น ในการเข้าร่วมพระราชพิธีมิสซาอีสเตอร์ซันเดย์เดือนเมษายน 2023 มีการปรับโปเจียมเล็กน้อยสำหรับลำดับการเดินจากพระราชวังวินด์เซอร์สู่วิหารเซนต์จอร์จ โดยเจ้าฟ้าหญิงทรงได้ลำดับซึ่งติดหลังคิงชาร์ลส์และเคียงข้างกับพระอนุชาแอนดรูว์ ส่วนพระสวามี เซอร์ทิโมที ลอเรนซ์ อยู่ท้ายกลุ่มเจเนอเรชันรุ่นใหญ่ โดยตามหลังพระครอบครัวของปรินซ์เอ็ดเวิร์ด และอยู่ระนาบเดียวกับพระครอบครัวของเลดีซาราห์ ชาต์โตว์ พระธิดาของเจ้าหญิงมาร์กาเรต ทั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์จะทรงตามหลังพระอนุชาแอนดรูว์และพระอนุชาเอ็ดเวิร์ดมาโดยตลอด

ในส่วนท้ายของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชรถทองคำ Gold State Coach นำคิงชาร์ลส์และควีนคามิลลา มุ่งหน้าสู่พระราชวังบัคกิงแฮม โดยมีประชาชนรอเฝ้าชมพระบารมีอย่างเนืองแน่นอยู่สองข้างฝั่งถนน

ในส่วนท้ายของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชรถทองคำ Gold State Coach นำคิงชาร์ลส์และควีนคามิลลา มุ่งหน้าสู่พระราชวังบัคกิงแฮม โดยมีประชาชนรอเฝ้าชมพระบารมีอย่างเนืองแน่นอยู่สองข้างฝั่งถนน
กระนั้นก็ตาม ในท่ามกลางบรรยากาศราบรื่นทั้งปวง กระแสต่อต้านพระราชินีมเหสีคามิลลา ได้อุบัติขึ้นอีกครั้งหนึ่งและเริ่มเป็นข่าวออกมาในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2023 เมื่อบัตรเชิญแขกผู้ใหญ่เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้น ระบุพระอิสริยยศของพระราชินีคามิลลาว่า “ควีนคามิลลา” จากเดิมที่เป็นคำว่า “ควีนคอนสอร์ตคามิลลา”


ข่าวสะพัดเป็นไวรัลออกไปว่า เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงไม่พอพระทัยและทรงเล่นงานพระราชินีมเหสีคามิลลา ต่อหน้าสมาชิกพระราชวงศ์ทั้งปวง ในช่วงงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำรายการหนึ่งซึ่งมีเฉพาะพระญาติ

เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงเผชิญหน้าควีนคามิลลาในเรื่องตำแหน่งควีน ในงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำอันสุดแสนจะตึงเครียด เดอะมิร์เรอร์รายงาน

โดยเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงตรัสใส่หน้าควีนคามิลลาว่า “เธอไม่ใช่สมเด็จพระราชินีนาถ เธอเป็นแค่พระราชินีมเหสี” เดอะมิร์เรอร์รายงานอย่างนั้น

หรือก็คือ เธอไม่ใช่ ‘ควีน’ เธอเป็นแค่ ‘ควีนคอนสอร์ต’

ผู้ที่ยืนยันข่าวนี้ ได้แก่ อดีตช่างเสื้อของเจ้าหญิงไดอานาผู้ล่วงลับ นามว่า เดวิด เอ็มมานูแอล ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวนี้ไว้ในรายการสนทนาข่าวของช่องจีบีนิวส์

“ผมได้รับฟังมาว่าในช่วงงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำรายการหนึ่ง เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงตรัสใส่พระพักตร์ควีนคามิลลาว่า ‘เธอไม่ใช่ควีน เธอเป็นควีนคอนสอร์ต’ เท่านั้น” เดวิด เอ็มมานูแอล กล่าวออกอากาศโทรทัศน์ช่องจีบีนิวส์

โดยย้ำว่าผู้ที่เล่าให้ฟังมีหลายราย พร้อมกับบอกด้วยว่าบรรยากาศในที่เกิดเหตุตึงเครียดทีเดียว เพราะมีผู้คนมากมายที่ “ไม่พึงพอใจ” ที่ควีนคามิลลาจะถูกกล่าวถึงด้วยคำว่า ควีน แทนที่จะเป็นคำว่า ควีนคอนสอร์ต

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาในทำนองว่ามีการเบี้ยวพระราชดำรัสของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เพราะพระองค์ทรงตรัสไว้แล้วว่า เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เสด็จขึ้นครองราชย์ ดัชเชสคามิลลาจะได้เป็น “ควีนคอนสอร์ต” ซึ่งเป็นพระอิสริยยศของพระคู่สมรสแห่งพระมหากษัตริย์

อย่างไรก็ตาม กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยและไม่พอใจ ซึ่งถูกกระพือให้กระหึ่มขึ้นมา ก็ไม่บานปลายมากมาย เพราะเห็นได้ว่าคิงชาร์ลส์ทรงเคลียร์กับพระกนิษฐาแอนน์ได้เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนั้น ในเมื่อไม่มีการกระซิบข้อมูลเพิ่มเติมไปยังสื่อมวลชน และในเมื่อไม่มีปฏิกิริยาจากพระราชสำนักไปต่อยอดหรือหล่อเลี้ยงกระแส ดังนั้น ด้วยกุศโลบายหลักของพระราชวงศ์ ที่จะทรงไม่โต้ตอบ-ไม่อธิบาย ดรามาอันดุเดือดในสื่อมวลชนก็โรยราโรยแรงลงอย่างรวดเร็ว

บนบัตรเชิญเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกซึ่งจัดทำอย่างงดงาม มีการพิมพ์พระนามของพระราชินีคามิลลา ด้วยคำว่า Queen Camilla ควีนคามิลลา แทนคำเดิมที่ว่า Queen Consort, Camilla Parker Bolwes สิ่งนี้กระทบความรู้สึกของผู้คนมิใช่น้อยที่เป็นผู้ที่ยังมีอคติฝังลึกกับชีวิตในอดีตของพระราชินีคามิลลา

ในภาษาร่างกายนั้น เห็นได้ชัดว่าเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงถวายความจงรักภักดีแด่กษัตริย์ชาร์ลส์อย่างแท้จริง

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ขณะอยู่ระหว่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชินีคามิลลาทรงสง่างามสมพระฐานะควีนเคียงข้างพระราชบัลลังก์

คิงชาร์ลส์และควีนคามิลลาขณะเสด็จออกสีหบัญชร พระราชวังบัคกิงแฮม และโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนหลายหมื่นชีวิตที่รอเฝ้าถวายพระพรอย่างเนืองแน่น
เมื่อมาถึงการเฉลิมฉลองเทศกาลพระคริสตสมภพในถิ่นแซนดริงแฮมในเดือนธันวาคม 2023 สถานการณ์ความสัมพันธ์ของพระราชวงศ์ได้พลิกผันไปในทางบวก จากหลังมือเป็นหน้ามือ

ด้วยปัจจัยภัยคุกคามจากปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกนซึ่งรวมถึงพลังป่วนจากหนังสือ Endgame สมาชิกแห่งพระราชวงศ์อังกฤษได้ร่วมพระทัยกันอย่างเข้มแข็ง และภาพงดงามเอื้ออารีต่อกันในระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์กับควีนคามิลลา จึงปรากฏให้ประชาชนได้ปลื้มใจกันโดยทั่วหน้า

โดยในเช้าสดใสของวันคริสตมาสอีฟ 24 ธันวาคม 2023 การเฉลิมฉลองเทศกาลพระคริสตสมภพของสมาชิกพระราชตระกูลวินด์เซอร์เริ่มขึ้นอย่างงดงาม เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์และควีนคามิลลา พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงแอนน์และพระสวามี พลเรือโท เซอร์ทิโมที ลอเรนซ์ ทรงพระดำเนินไปด้วยกันเพื่อเข้าพิธีมิสซาคริสต์มาสอีฟ และในระหว่างทางก็แวะทักทายชาวบ้านในถิ่นแซนดริงแฮมที่รอเฝ้าชมพระบารมี

ประชาชนและผู้สื่อข่าวจึงได้เห็นสัญญาณบวกแห่งความสัมพันธ์ของพระราชวงศ์ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็น กล่าวคือ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงยอมเดินเคียงคู่ควีนคามิลลาไปตามเส้นทางร่มรื่นเขียวชอุ่มยาวไกล 370 เมตร จากพระตำหนักแซนดริงแฮมสู่โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน พร้อมกับสนทนาเพลิดเพลิน ขณะที่เซอร์ทิโมที ลอเรนซ์ ขยับขึ้นไปเดินเคียงข้างกับคิงชาร์ลส์

เดลิเมลออนไลน์รายงานด้วยว่าคิงชาร์ลส์ทรงรื่นรมย์พระราชหฤทัยเป็นที่ยิ่ง ทรงโบกพระหัตถ์และส่งยิ้มอบอุ่นให้พสกนิกรได้ถ่ายภาพกันอย่างเต็มอิ่ม และในตอนหนึ่ง ทรงแวะสนทนากับเจ้าของสุนัขที่พากันมารอรับเสด็จด้วย

ภาพสมานฉันท์อันน่าชื่นชมดังกล่าวนี้สอดคล้องกับถ้อยคำและท่าทีเชิงบวกที่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงตรัสถึงควีนคามิลลา ซึ่งทรงประทานสัมภาษณ์ไว้ในตอนหนึ่งของภาพยนตร์สารคดี 90 นาทีว่าด้วยเบื้องหลังการตระเตรียมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และหนึ่งปีแรกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 บนพระราชบังลังก์พระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ชื่อเรื่องว่า Charles III: The Coronation ซึ่งมีกำหนดออกอากาศทางช่อง BBC One ในค่ำวันที่ 26 ธันวาคม แต่สื่อหลายค่ายหยิบไฮไลต์เด็ดๆ มานำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบตั้งแต่ 23 ธันวาคม

“ดิฉันรู้จักพระองค์มานานค่ะ ได้พบกันบ้าง ห่างๆ กันไปบ้าง ควีนทรงเข้าพระทัยถึงบทบาทของพระองค์ และทรงตระหนักเป็นอย่างดีว่าบทบาทของพระองค์จะสร้างผลกระทบต่อคิงชาร์ลส์ในทางดีหรือทางร้ายได้มากมายเพียงใด ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ดำเนินมาด้วยดีอย่างเห็นได้ชัดเป็นที่ยิ่ง” นิตยสารคอสโมโพลิแทนรายงานว่าเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงกล่าวถึงควีนคามิลลาอย่างนั้น

“บทบาทนี้ไม่ใช่ว่าพระองค์จะทรงทำได้ดีโดยอัตโนมัติ แต่พระองค์ก็ทรงทำได้อย่างดีจริงๆ ค่ะ” คอสโมโพลิแทนรายงาน และบอกด้วยว่าเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงระบุว่าควีนคามิลลาทรงทันสมัยและสามารถก้าวตามพระราชสวามีได้ ทั้งในเรื่องวิสัยทัศน์ที่กว้างและไกลต่อเรื่องของพระราชวงศ์ และเรื่องของบทบาทหน้าที่ในฐานะพระมหากษัตริย์

พร้อมนี้ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงกล่าวถึงการสืบทอดพระราชบัลลังก์ในบรรยากาศที่แสดงออกถึงความภักดีและเชื่อมั่นในพระเชษฐาว่าทรงใจถึงอย่างยิ่งในการก้าวขึ้นแบกรับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง

“บอกตรงๆ นะคะ ดิฉันไม่แน่ใจหรอกค่ะว่าใครจะสามารถเตรียมตนเองมารับพระราชภารกิจนี้ให้ราบรื่นได้ มันไม่ง่ายเลยค่ะ แต่เมื่อความเปลี่ยนแปลงอุบัติขึ้น คุณก็ต้องลุย ‘เอาล่ะ ตอนนี้ฉันต้องเดินหน้าดำเนินพระราชภารกิจให้ลุล่วงไป’.”

คิงชาร์ลส์และควีนคามิลลา พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงแอนน์และพระสวามี พลเรือโท เซอร์ทิโมที ลอเรนซ์ ทรงพระดำเนินไปด้วยกันเพื่อเข้าพิธีมิสซาคริสต์มาสอีฟ เนื่องจากเป็นบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการ เพราะเป็นกิจกรรมในครอบครัว คิงจึงทรงไม่ยึดตามแบบแผนของโปเจียม ทรงโปรดให้พระสวามีของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ขยับขึ้นไปเดินเคียงข้างและสนทนากับพระองค์ ซึ่งก็เป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าฟ้าหญิง (พระภูษาและพระมาลาสีแดง) กับควีนคามิลลาได้เคียงข้างและสนทนากันแบบชีวิตครอบครัวอบอุ่น ภาพที่ปรากฏให้พสกนิกรได้เห็นจึงน่าปลาบปลื้มชื่นชมในความสมานฉันท์ของพระราชวงศ์

คิงชาร์ลส์ทรงอยู่นในพระมู้ดแจ่มใส ทักทายพสกนิกรที่รอรับเสด็จ ขณะเดียวกันประชาชนและสื่อมวลชนต่างก็ได้เห็นประจักษ์ตาถึงความสมานฉันท์งดงามระหว่างเจ้าฟ้าหญิงแอนน์กับควีนคามิลลา

ควีนคามิลลาทรงทักทายเจ้าอาวาสโบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน ก่อนเสด็จเข้าพิธีมิสซาคริสต์มาสอีฟ ในเวลาเดียวกัน เจ้าฟ้าหญิงแอนด์ทรงรอต่อคิวที่จะทักทายเจ้าอาวาส ตามลำดับอาวุโสแห่งพระอิสริยยศ ซึ่งเห็นได้ในภาษากายว่าเจ้าฟ้าหญิงทรงยอมรับได้เป็นอย่างดีกับพระฐานะของควีน ผู้ซึ่งเคยต่ำศักดิ์กว่าพระองค์อย่างลิบลับ
จับตา ‘คุณมีอา ทินเดลล์’ พระนัดดาของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ โซ่ข้อกลางแห่งพลังสมานฉันท์พระราชวงศ์รุ่นกระเตาะ: จูงมือปรินซ์หลุยส์ ช่วยเจ้าหญิงเคทรับช่อดอกไม้จากประชาชน

ชาวบ้านในถิ่นแซนดริงแฮมประมาณหนึ่งพันรายซึ่งพากันมารอเฝ้าชมพระบารมีของสมาชิกพระราชวงศ์ ที่บริเวณเส้นทางเดินไปสู่โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน ได้เห็นบรรยากาศใหม่ๆ ในความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างพระราชวงศ์รุ่นกระเตาะแห่งเจเนอเรชันพระราชปนัดดา (เหลน) แห่งควีนเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมาเข้าร่วมฉลองคริสต์มาส 5 พระองค์/ท่าน อันได้แก่

-พระราชปนัดดาในสายของคิงชาร์ลส์ x ปรินซ์ออฟเวลส์ ได้แก่ ปรินซ์จอร์จ ปรินเซสชาร์ลอตต์ กับปรินซ์หลุยส์
(ส่วนเจ้าชายเจ้าหญิงสายซัสเซกซ์ 2 พระองค์ ยังทรงพระเยาว์และประทับอยู่ในสหรัฐฯ)

-กับพระราชปนัดดาในสายของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ x คุณซารา ฟิลลิปส์ ทินเดลล์ คือ คุณมีอา ทินเดลล์ กับคุณลีนา ทินเดลล์ (ส่วนคุณลูคัส ทินเดลล์ยังเตาะแตะในวัยไม่ถึง 3 ขวบจึงไม่ได้ถูกอุ้มมาเข้าร่วม)
(ในด้านของคุณซาวานนาห์ และคุณไอลา ในสายของคุณปีเตอร์ ฟิลลิปส์ มิได้เข้าร่วมเพราะคุณปีเตอร์ไปฉลองคริสต์มาสกับครอบครัวของแฟนสาว นามว่า ลินด์เซย์ วอลเลส)

-ทั้งนี้ พระราชปนัดดาในสายของปรินซ์แอนดรูว์ รวม 3 ท่านยังอยู่ในวัยทารก ยังเจริญวัยไม่ถึง 3 ขวบ จึงไม่ได้เข้าร่วมฉลองคริสต์มาสกับพระราชตระกูล และสำหรับพระราชปนัดดาในสายของปรินซ์เอ็ดเวิร์ดนั้น ยังไม่มี

ที่ผ่านมา ประชาชนชื่นชมหลงใหลในความสนิทสนมรักใคร่น่าเอ็นดูระหว่างคุณซาวานนาห์ ฟิลลิปส์ (13 ปี พระนัดดาของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์) กับเจ้าชายจอร์จ (10 พรรษา) รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งพระราชบัลลังอังกฤษ โดยปรินซ์จอร์จทรงปลื้มพระญาติผู้พี่ ที่เป็นพระพี่เอื้อยของเจเนอเรชันและมีไอเดียเล่นสนุกซุกซนมากมาย

ด้านคุณมีอาผู้แจ่มใส มีน้ำใจช่างช่วยเหลือ ซึ่งจะเจริญวัยครบ 10 ปีบริบูรณ์กลางเดือนนี้ เป็นหนึ่งในขวัญใจช่างภาพลำดับต้นๆ ของกองทัพนักข่าว คุณมีอา (พระนัดดาของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์) สนิทสนมอย่างที่สุดกับเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ (8 พรรษา) และเป็นพระญาติสนิทระดับพี่สาวคนเก่งของเจ้าชายหลุยส์

คุณมีอาได้ครอบครองดวงใจประชาชนครั้งสำคัญเมื่อมีอายุได้เพียงสองขวบเศษ โดยในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา มีการถ่ายพระรูปควีนเอลิซาเบธพร้อมพระราชปนัดดา และปรากฏว่าคุณมีอาใช้มือทั้งสองยกพระกระเป๋าของควีนขึ้นมาจากพื้นข้างพระที่นั่ง และทำการชูอวดกล้องอย่างซื่อใส น่ารักน่ากอดเป็นที่สุด ทั้งนี้ นิตยสารทาวน์แอนด์คันทรีเล่าโดยอ้างแหล่งข่าวในพระราชวังว่า ช็อตฮือฮาทอล์กออฟเดอะทาวน์นี้ ผุดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด ไม่ได้มีการจัดฉากใดๆ ทั้งสิ้น

ในการถ่ายพระรูปควีนเอลิซาเบธที่ 2 พร้อมพระราชปนัดดา คุณมีอาใช้มือทั้งสองยกพระกระเป๋าของควีนขึ้นมาจากพื้นข้างพระที่นั่ง น่ารักน่ากอดมากมายกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กันทีเดียว
ความรักใคร่ผูกพันสมานฉันท์ระหว่างพระญาติรุ่นจิ๋วปรากฏให้เห็นกันทั่วประเทศ ในคราวมหกรรมเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบรอบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กษัตริยาณีอังกฤษผู้ทรงเป็นซูเปอร์ไอดอลในดวงใจพสกนิกร ซึ่งมีการจัดกิจกรรมเป็นซีรีส์ยาว 4 วัน ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 2 - วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2022 นั้น มีโอกาสแห่งการรวมพระญาติร่วมชมขบวนแห่แพลตตินัมจูบิลีอันยิ่งใหญ่อลังการ์ ที่ประชาชนจัดมาร่วมมหกรรมเฉลิมฉลอง

ทั้งนี้ ในบรรดาแถวที่นั่งบนอัฒจันทร์รอยัลบ็อกซ์เพื่อชมการแสดงริ้วขบวนแห่แพลตินัมจูบิลี ครอบครัวของปรินซ์วิลเลียมประทับนั่ง ณ แถวหน้าสุด ส่วนแถวซึ่งอยู่ด้านหลังติดๆ กัน เป็นครอบครัวของคุณซารา ทินเดลล์ โดยคุณมีอา กับคุณลีนา นั่งตรงกลางระหว่างพระมารดากับพระบิดาไมค์ ทินเดลล์ และในภายหลังจะมีคุณซาวานนาห์ย้ายจากแถวด้านหลังติดกับเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ผู้เป็นเสด็จยาย ไปนั่งพระเก้าอี้เดียวกันกับคุณลีนา โดยอุ้มคุณลีนาขึ้นนั่งตัก

สักพักหนึ่ง คุณลีนา วัย 3 ปีซึ่งมาชมขบวนแห่แบบเตรียมตัวล่วงหน้า โดยพรั่งพร้อมด้วยสรรพกำลัง ได้แก่ แท่งลูกกวาดเยอะแยะ คุณลีนานำแท่งลูกกวาดออกแจกพี่ๆ ทำเอาเสด็จแจ้ชาร์ลอตต์ทรงประหลาดพระทัยถึงกับอุทานกันเลยทีเดียว

และแล้วศึกลูกกวาดได้อุบัติขึ้นแบบเล็กๆ เมื่อปรินซ์หลุยส์ทรงพยายามจะฉวยสักห่อ แต่คุณลีนาตัวน้อยไม่ยอมปล่อยมือ แถมพูดว่า ไม่ได้นะพี่หลุยส์ พร้อมขึงตาใส่นิดหนึ่ง ทั้งนี้เพราะคุณลีนามีลำดับบุคคลที่จะแจกก่อน เช่น เสด็จพี่ปรินซ์จอร์จ เสด็จพี่ปรินเซสชาร์ลอตต์ ฯลฯ

ตลอดเวลานี้ พสกนิกรมากมายถ่ายคลิปกันรัวๆ เป็นที่ครึกครื้น เพราะเอ็นดูความมุ้งมิ้งของสมาชิกพระราชวงศ์เจเนอเรชันที่ 5 นับจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ผู้ทรงเป็นต้นสาย (คิงจอร์จที่ 6 - ควีนเอลิซาเบธที่ 2 - คิงชาร์ลส์ที่ 3 - ปรินซ์วิลเลียม - ปรินซ์จอร์จ)

ความรักใคร่ผูกพันสมานฉันท์ระหว่างพระญาติแห่งเจเนอเรชันที่ 5 ปรากฏให้เห็นให้ได้ชื่นชมกันทั่วประเทศในคราวมหกรรมเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบรอบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อาทิ ในตอนที่คุณลีนาหยิบลูกกวาดขึ้นมาแจก และปรินซ์หลุยส์ทรงพยายามจะฉวยจากมือของน้อง แต่คุณลีนาไม่ยอม เพราะจะนำไปถวายเสด็จพี่จอร์จก่อน จึงกลายเป็นศึกลูกกวาด ไซส์เล็กๆ ให้พสกนิกรได้หัวเราะครึกครื้นกัน

พระโมเมนต์แห่งศึกลูกกวาดที่ปรินซ์หลุยส์ทรงพยายามจะฉวยสักห่อ แต่คุณลีนาตัวน้อยไม่ยอมส่งให้ แถมพูดว่า ไม่ได้นะพี่หลุยส์ พร้อมขึงตาใส่นิดหนึ่ง (ภาพบน) เพราะคุณลีนามีลำดับบุคคลที่จะแจกก่อน เช่น เสด็จพี่ปรินซ์จอร์จ เสด็จพี่ปรินเซสชาร์ลอตต์ (ภาพล่าง)

ก๊วนพระญาติรุ่นที่ 5:  ลีลาปรึกษาหารือกันระหว่างเจ้าชายจอร์จ เจ้าชายหลุยส์ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และคุณมีอา ทินเดลล์ บ่งบอกถึงความสนิทสนมไว้วางใจอย่างมากมายในกลุ่มพระญาติ พระโมเมนต์นี้เป็นช่วงการเฝ้าชมพิธีสวนสนามของกองทหารรักษาพระองค์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2022

คุณมีอา ทินเดลล์ (กลางภาพ) พระนัดดาลำดับที่ 3 ของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์เป็นขวัญใจประชาชนและขวัญใจช่างภาพ เพราะเธอสดใสร่าเริงและเป็นพระพี่ผู้ใจดีของเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งปรินซ์วิลเลียม ในภาพนี้ เสียงเพลง Dancing Queen อันคึกคักและกังวานหวานใส เร้าใจให้เธอลุกขึ้นโยกย้ายกายตามดนตรีอย่างมีความสุข แต่ปรากฏว่าคุณลีนา ผู้เป็นน้องสาว ไม่เห็นด้วย และลุกจากเก้าอี้ไปตีเธออย่างแรง ผู้ใหญ่ที่คุณมีอาไว้วางใจและไปขอคำปลอบโยนคือ ดัชเชสเคท (พระอิสริยยศในตอนนั้น)
เมื่อมาถึงวันรวมพระญาติในเทศกาลคริสต์มาส 2023 ความสมานฉันท์และพลังใจอันแนบแน่นในพระราชวงศ์รุ่นจิ๋ว ได้ปรากฏให้พสกนิกรได้ปลาบปลื้มกันอีกวาระหนึ่ง

ทั้งนี้ มีการปรับโปเจียมเล็กน้อยในการเดินจากพระตำหนักแซนดริงแฮม สู่โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน กล่าวคือ คุณมีอา พระนัดดาลำดับที่ 3 ของปรินเซสแอนน์ ได้ไปเดินมุ้งมิ้งจูงพระกรปรินซ์หลุยส์ และฟังปรินซ์น้อยเมาท์มองพสกนิกรสองข้างทาง พลางแย้มพระสรวลคิกคัก โดยเดลิเมลออนไลน์รายงานว่า ปรินซ์หลุยส์ทรงยิ้มซุกซนให้กับบรรดาประชาชนที่รอรับเสด็จ แล้วหันไปยิงมุขขำๆ กับพระพี่มีอา

นอกจากนั้น หลังเสร็จพิธีมิสซาและทุกพระองค์ทุกท่านทยอยออกจากโบสถ์ เตรียมกลับสู่พระตำหนักแซนดริงแฮมเฮาส์ ซึ่งจะเป็นช่วงสำคัญของการทักทายประชาชนที่รอชมพระบารมี นั้น เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงยิ้มกระหยิ่มพระทัยเข้าไปหาคุณพี่มีอาที่แสนสนิท

กลุ่มการเคลื่อนขบวนจึงปรับเปลี่ยนนิดหน่อย โดยเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงตามหลังพระมารดาแคเธอริน และมีคุณมีอาเดินเคียงข้างสนทนาเจ๊าะแจ๊ะไปด้วยกัน

ในความเป็นสาวน้อยราศีมังกรผู้ขยันช่างขวนขวาย ซึ่งได้รับอิทธิพลคนมีน้ำใจดีงามของราศีกุมภ์ คุณมีอาแสดงความเอื้ออาทรต่อผู้หลักผู้ใหญ่โดยรีบเข้าไปช่วยเสด็จน้าเคท คือ เข้าไปช่วยถือช่อดอกไม้ที่เสด็จน้าเคทได้รับจากประชาชนเต็มอ้อมพระกรและสองพระหัตถ์ ช็อตเหล่านี้ทำให้คุณมีอาได้รับเสียงเอ็นดูชื่นชมมากมายจากชาวโซเชียลมีเดีย

บรรยากาศชื่นมื่นด้วยรอยยิ้มปรากฏอยู่ในระหว่างสมาชิกพระราชสำนักทุกสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสายของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ โดยทรงยอมรับในควีนคามิลลาอย่างเต็มพระทัยแล้ว ขณะที่คุณมีอา พระนัดดาของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ก็มีพระโมเมนต์แนบแน่นน่ารักกับพระราชโอรสพระราชธิดาของกษัตริย์ชาร์ล์ คุณมีอาจูงมือกับปรินซ์หลุยส์ คุยเล่นเพลิดเพลินกับปรินเซสชาร์ลอตต์ เหล่านี้คือบรรยากาศครอบครัวที่แน่นแฟ้น เป็นที่ปลาบปลื้มของประชาชน ล้วนชี้บ่งว่าพระราชสำนักอังกฤษทรงเป็นปึกแผ่นในระดับที่มิได้เห็นกันมาเนิ่นนานทีเดียว

ในเวลาเดียวกัน กระแสปลาบปลื้มชื่นชมในพระราชวงศ์ก็พุ่งสูง เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าประชาชนนับพันรายพากันมาจับจองพื้นที่ริมเส้นทางระหว่างพระตำหนักกับโบสถ์กันตั้งแต่ตี 4 เพื่อรอรับเสด็จและร้องเชียร์อวยพรวันคริสต์มาส

“บรรยากาศแบบนี้แตกต่างกับในช่วงของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นอย่างยิ่ง โดยมีความทันสมัยมากขึ้น มันน่าชื่นใจเหลือเกินล่ะคะ คุณดูจากคลิปแล้วจะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งจริงๆ คือ มันมีอารมณ์ความรู้สึกปลาบปลื้มตื้นตันมากขึ้น ดิฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องวิเศษทรงคุณค่าค่ะ” แอนเจลา เลเวิน ประเมินกระแสตอบรับที่ประชาชนมีต่อพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ของอังกฤษไว้อย่างนั้น

คุณมีอาโชว์บรรยากาศสมานฉันท์ในหมู่พระญาติขณะเดินจูงมือปรินซ์หลุยส์ พลางฟังเสด็จน้องเมาท์มอยขำๆ ระหว่างเส้นทางเดินจากพระตำหนักแซนดริงแฮม สู่โบสถ์เซนต์มารี มักดาลีน เพื่อเข้ามิสซาคริสต์มาสด้วยกันกับพระราชตระกูลวินด์เซอร์

ในช่วงที่จบพิธีมิสซาคริสต์มาส และออกเดินทักทายประชาชนก่อนกลับคืนสู่พระตำหนักแซนดริงแฮมนั้น ปรินเซสชาร์ลอตต์ทรงทำพระเนตรวาวๆ ดีใจ ก่อนจะเข้าไปประกบเสด็จพี่มีอาซึ่งสนิทกันอย่างยิ่ง สองพระราชนัดดาแห่งควีนเอลิซาเบธที่ 2 มีเรื่องราวไม่รู้จบให้สนทนามุ้งมิ้งกัน ทรงเป็นคู่พระญาติที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

คุณมีอาเข้าไปอาสาช่วยเสด็จน้าเคทถือช่อดอกไม้ที่ทรงได้รับจากประชาชน ทั้งนี้ เสด็จน้าเคทเป็นผู้ที่คุณมีอาไว้วางใจอย่างที่สุด

อีกหนึ่งคู่พระญาติที่ทรงสนิทสนมผูกพันกันเป็นที่ยิ่ง คือ ปรินซ์จอร์จกับคุณพี่ซาวานนาห์ ฟิลลิปส์ พระนัดดาลำดับที่ 1 ของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ โดยอยู่ในสายของคุณปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ในภาพนี้ที่บ่งบอกความมุ้งมิ้งระหว่างทั้งสอง เกิดขึ้นบนสีหบัญชรพระราชวังบัคกิงแฮม ระหว่างรอชมการแสดงผาดโผนของฝูงบินกองทัพอากาศในปี 2018 โดยคุณตั่วแจ้ซาวานนาห์เอื้อมมือปิดพระโอษฐ์ของเจ้าชายจอร์จ พร้อมส่งสายตาใส่เลนส์กล้อง พสกนิกรขำกันหนักมากในมุขนี้ของคุณซาวานนาห์
ดัชเชสเฟอร์กีได้คืนสู่เวทีพระราชสำนักเป็นครั้งแรกในรอบ 32ปี และปรินซ์แอนดรูว์จะได้รับพระอุปถัมภ์ในคดีกินเด็กสาว

ขณะมุ่งหน้าเข้าพิธีมิสซาคริสต์มาส โดยเดินไปบนเส้นทางจากพื้นที่พระราชฐานแซนดริงแฮมสู่โบสถ์มารี มักดาลีน ดัชเชสซาราห์ อดีตพระชายาของปรินซ์แอนดรูว์ ยิ้มปลาบปลื้มเปี่ยมสุขในแวดล้อมของเจ้าหญิงเบียทริซ และเจ้าหญิงยูเชนี ตลอดจนสมาชิกพระราชวงศ์มากมาย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2023

นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปีที่ซาราห์ เฟอร์กูสัน ได้กลับสู่แวดวงของพระราชตระกูลวินด์เซอร์ หลังจากที่สื่อมวลชนพากันนำเสนอข่าวน่าอับอายและภาพอื้อฉาวที่เธออยู่ในชุดเปลือยอก และมีมหาเศรษฐีเงินล้านชาวเท็กซัส นามว่า จอห์น ไบรอัน ดูดนิ้วเท้าของเธอในลีลาเคลิบเคลิ้มหลงใหล

ทั้งนี้ เดอะซันรายงานว่าแม้ดัชเชสซาราห์สามารถรักษาคำนำหน้าชื่อว่าดัชเชสไว้ได้หลังจากที่เธอกับเจ้าชายแอนดรูว์เสร็จสิ้นกระบวนการหย่าร้างกันแล้ว แต่เธอถูกจัดชั้นให้เป็นบุคคลไม่น่าพึงปรารถนาของบรรดาสมาชิกชั้นผู้ใหญ่ของพระราชตระกูล โดยที่ว่าปรินซ์ฟิลิป พระบิดาของปรินซ์แอนดรูว์ทรงรังเกียจชิงชังเธออย่างที่สุด และการสั่งห้ามเธอเข้าสู่แวดวงของพระราชสำนักนั้น ก็ตั้งต้นมาจากพระองค์

การกลับคืนสู่เวทีพระราชสำนักเกิดขึ้นด้วยน้ำพระทัยกว้างขวางของกษัตริย์ชาร์ลส์

ดัชเชสซาราห์ เฟอร์กูสัน มีความสุขอย่างที่สุดในระหว่างพบปะทักทายประชาชน หลังจากที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมกิจกรรมของพระราชตระกูลนาน 32 ปี  เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าดัชเชสเพลิดเพลินเมาท์มอยกับประชาชนนานเป็นชั่วโมง และดังนั้น จึงกลับถึงพระตำหนักแซนดริงแฮมเป็นคนสุดท้าย
“คิงชาร์ลส์ทรงพอพระทัยที่ดัชเชสเฟอร์กีกลับมาดูแลปรินซ์แอนดรูว์ค่ะ” อินกริด สวอร์ด บรรณาธิการอำนวยการของนิตยสารแมเจสตี ให้สัมภาษณ์แก่เดอะซันอย่างนั้น พร้อมขยายความว่า

“ดิฉันคิดว่าการที่ดัชเชสได้รับเชิญเข้าร่วมฉลองคริสต์มาสกับพระราชตระกูลในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงความสนับสนุนและการยอมรับที่คิงชาร์ลส์ทรงประสงค์ให้ประชาชนได้รับทราบ หลังจากที่ดัชเชสหวนกลับไปดูแลประคับประคองปรินซ์แอนดรูว์ในยามทุกข์ตรมเพราะคดีความอื้อฉาว”

นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญอินกริดประเมินไว้ว่า “คิงชาร์ลส์น่าจะไม่ทรงมอบพระกรณียกิจของพระราชสำนักให้ดัชเชส พระองค์น่าจะมีพระประสงค์เพียงให้เธอได้เข้าร่วมในกิจกรรมของพระราชตระกูลที่เป็นกิจกรรมวงใน”

ด้านผู้เชี่ยวชาญโรเบิร์ต จ็อบสัน ผู้เขียนหนังสือขายดีเรื่อง Our King: Charles III: The Man And The Monarch Revealed ให้ความเห็นแก่เดอะซันในทำนองเดียวกันว่าคิงชาร์ลส์ทรงยอมรับดัชเชสซาราห์ที่ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การเชิญให้เธอเข้าร่วมกิจกรรมพระราชตระกูลคือการรับทราบถึงสิ่งต่างๆ ที่ธอได้สนับสนุนพระราชวงศ์

“ดัชเชสไม่ได้ทำเรื่องเสียหายร้ายแรงมาหลายปีแล้ว นี่จึงเป็นสิ่งชี้บ่งว่าคิงชาร์ลส์ทรงผ่อนปรนลงมากเลยครับ”

เจ้าชายแอนดรูว์ทรงทุกข์ตรมอยู่ในความเสี่ยงว่า พระองค์อาจถูกดำเนินคดีอาชญากรรมทางเพศต่อเด็กสาววัยรุ่น  อย่างไรก็ตาม ในความตั้งพระราชหฤทัยที่จะสร้างความสมานฉันท์เป็นปึกแผ่นภายในพระราชวงศ์ คิงชาร์ลส์ทรงเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือแก่พระอนุชาแอนดรูว์ พระสหายของคิงให้ข้อมูลไว้กับเดลิเมลออนไลน์อย่างนั้น
ด้านปัญหาหนักของปรินซ์แอนดรูว์ ที่อาจถูกดำเนินคดีอาญาสืบเนื่องจากเอกสารคำให้การต่างๆ เกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์ และคดีอาชญากรรมทางเพศ ของพระสหายแสนสนิท นามว่า เจฟฟรีย์ เอปสไตน์ ได้พาดพิงมาถึง ปรินซ์แอนดรูว์ และนับว้นแต่จะดุเดือดมากขึ้น นั้น ปัญหานี้กลายเป็นความท้าทายต่อความตั้งพระทัยของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่จะเสริมสร้างสนับสนุนความสมานฉันท์เป็นปึกแผ่นภายในพระราชตระกูล

โดยแนวโน้มที่ยังชัดเจนในขณะนี้มีอยู่ว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงยังคงยืนยันที่จะให้ปรินซ์แอนดรูว์เป็นส่วนหนึ่งในพระราชตระกูล และให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในฐานะสมาชิกพระราชวงศ์ แหล่งข่าวคนใกล้ชิดกษัตริย์อังกฤษเปิดเผยไว้อย่างนั้นกับ เดอะเดลีบีสต์

ในเวลาเดียวกัน พระสหายอีกหลายรายของคิงชาร์ลส์บอกเดอะเดลีบีสต์ด้วยว่า ปรินซ์แอนดรูว์จะทรงได้รับ “ความสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่” จากพระเชษฐา หลังจากที่มีข้อกล่าวหาต่างๆ ผุดขึ้นมายืนยันว่าปรินซ์ทรงเข้าร่วมในกิจกรรมการร่วมเพศกับเด็กสาวอายุน้อยที่ซ่องคฤหาสน์สุดหรูของเจฟฟรีย เอปสไตน์ ผู้เป็นนักการเงิน ล็อบบียิสต์ และพ่อเล้าไฮโซระหว่างประเทศ

นอกจากนั้น เดอะเดลีบีสต์ยังได้ข้อมูลจากอดีตข้าราชบริพารในสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมว่า ปรินซ์แอนดรูว์น่าจะได้เปิดเผยข้อมูลอย่างหมดเปลือกกับคิงชาร์ลส์ไปทั้งสิ้นแล้วตั้งแต่ที่ได้พบกันในช่วงคริสต์มาส ว่าเอกสารที่พาดพิงถึงตัวปรินซ์นั้น มีประเด็นอะไรบ้าง

“สิ่งหนึ่งที่พระราชสำนักทรงไม่โปรดอย่างยิ่งคือการถูกปกปิดข้อมูล ซึ่งก็รู้สึกได้ว่าไม่มีความช็อกใดๆ เกิดขึ้น เมื่อศาลสหรัฐฯ นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาเปิดเผย น่าจะเป็นได้ว่าทีมของปรินซ์แอนดรูว์ และทีมของคิงชาร์ลส์ล้วนทราบกันแล้วว่าจะมีข้อมูลอะไรปรากฏออกมา” แหล่งข่าวรายดังกล่าวกล่าวกับเดอะเดลีบีสต์อย่างนั้น

เมื่อถูกถามว่าคิงชาร์ลส์จะทรงเดินหน้าช่วยเหลือสนับสนุนพระอนุชาต่อไปหรือไม่ อดีตข้าราชบริพารรายดังกล่าวตอบว่า

“พระองค์ทรงไม่มีทางเลือก และภาพจะออกมาย่ำแย่หนัก หากจู่ๆ ก็จะเทเจ้าชายแอนดรูว์กันอีกรอบ”

การเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นภายในพระราชตระกูลจึงยังอยู่ในโมเมนตัมดีงาม และน่าจะยั่งยืนทีเดียว ซึ่งนี่จะเป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษในระยะยาว

เจ้าหญิงเบียทริซ (ซ้ายสุด) และเจ้าหญิงยูเชนี (ขวาสุด) เป็นลูกไม้หล่นไกลต้น ทรงไม่สร้างปัญหาแก่พระราชตระกูล อีกทั้งยังทรงเป็นพระราชนัดดาแสนดีของคิงชาร์ลส์ นอกจากนั้นทั้งสองพระองค์ทรงเป็นกำลังใจให้แก่พระบิดาแอนดรูว์ด้วย
คอลัมน์ PLANET No.3


โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ จีบีนิวส์ เพจซิกส์ นิวยอร์กโพสต์ เดอะไทมส์ ซันเดย์ไทมส์ ดิเอ็กซ์เพรส เดอะซัน เดอะเทเลกราฟ พีเพิล เดอะมิร์เรอร์ ทาวน์แอนด์คันทรี เดอะเดลีบีสต์)
กำลังโหลดความคิดเห็น