แมคโดนัลด์ มาเลเซีย ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 6 ล้านริงกิต (ราว 44.7 ล้านบาท) จากนักเคลื่อนไหวรณรงค์บอยคอตอิสราเอลกลุ่มหนึ่ง โดยระบุว่าคนเหล่านี้มีการ “เผยแพร่ข้อมูลให้ร้ายอันเป็นเท็จ” จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจของทางบริษัท
มาเลเซียซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุนปาเลสไตน์อย่างแข็งขัน และก็เช่นเดียวกับในประเทศมุสลิมอีกหลายแห่งที่เกิดกระแสรณรงค์คว่ำบาตรแบรนด์ฟาสต์ฟูดตะวันตก เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่อฉนวนกาซา
บริษัท Gerbang Alaf Restaurants Sdn Bhd (GAR) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านแมคโดนัลด์ในมาเลเซีย ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ใช้ชื่อว่า Boycott, Divestment and Sanctions (BDS) Malaysia หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียกล่าวหาแมคโดนัลด์ และบริษัทอื่นๆ ว่ามีความเชื่อมโยงกับ “การทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา” ของกองทัพอิสราเอล
ตามหมายเรียกซึ่งลงวันที่ 19 ธ.ค. ทาง Gerbang Alaf Restaurants อ้างว่า BDS Malaysia พยายามปลุกระดมให้สาธารณชนบอยคอตแมคโดนัลด์ ซึ่งทำให้บริษัทสูญเสียผลกำไร ต้องมีการเลิกจ้างพนักงาน และเกิดความเสียหายอื่นๆ สืบเนื่องจากการปิดสาขาและลดเวลาทำการลง
คำแถลงที่บริษัทเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (29 ธ.ค.) ระบุว่า “แมคโดนัลด์ มาเลเซีย ขอยืนยันว่าได้มีการยื่นฟ้องดำเนินคดีกับ BDS Malaysia เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัท”
ด้านกลุ่ม BDS Malaysia ออกมา “ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง” ต่อข้อครหาต่างๆ ที่แมคโดนัลด์มาเลเซียยื่นฟ้อง พร้อมขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด
BDS Malaysia เป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่รณรงค์ให้นานาชาติหยุดสนับสนุน “การกดขี่ชาวปาเลสไตน์” โดยอิสราเอล และร่วมเรียกร้องกดดันให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ที่มา : รอยเตอร์