xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มเท!? สหรัฐฯ ชะลอขายปืนไรเฟิลให้อิสราเอล กังวลผู้ตั้งถิ่นฐานยิวใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เลื่อนขายปืนไรเฟิลที่ผลิตโดยสหรัฐฯ กว่า 20,000 กระบอกแก่อิสราเอล สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุพวกผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลโจมตีใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ตามรายงานของรอยเตอร์ อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้ 2 คนในวันพุธ (13 ธ.ค.)

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งหนังสือแจ้งอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับการขายดังกล่าว ถึงสภาคองเกรสเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน แต่การขายยังไม่เดินหน้า แม้มันได้รับไฟเขียวจากบรรดาแกนนำในคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน

สมาชิกอื่นๆ ของสภาคองเกรสเริ่มทราบเรื่องในกรณีนี้ และติดต่อมายังรัฐบาล ให้เรียกร้องขอคำรับประกันจากอิสราเอลว่าอาวุธปืนเหล่านั้นจะไม่ไปตกอยู่ในมือพวกผู้ตั้งถิ่นฐาน" แหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับการขายครั้งนี้เปิดเผยกับรอยเตอร์

อดีตเจ้าหน้าที่รายนี้บอกอีกว่า "รัฐบาลได้ติดต่อกับอิสราเอล ในความพยายามขอคำรับรองที่น่าพึงพอใจในเรื่องนี้ ก่อนมีการแจ้งอย่างมากทางหาร ภายใต้คำอนุญาตที่ร่างขึ้นมา อาวุธเหล่านี้ยังอาจไปตกอยู่ในมือกองกำลังตำรวจขอบอิสราเอล ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศมีความกังวลด้านมนุษยชนเป็นอย่างยิ่ง"

นับตั้งแต่สงครามตะวันออกกลางปี 1967 อิสราเอลได้ยึดครองเวสต์แบงก์ ดินแดนที่ปาเลสไตน์ต้องการให้เป็นแกนกลางของรัฐเอกราชหนึ่งของพวกเขา อิสราเอลได้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเวสต์แบงก์ ความเคลื่อนไหวที่ประเทศส่วนใหญ่ของโลกมองว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ทางอิสราเอลโต้แย้งคำกล่าวอ้าง พร้อมอ้างอิงประวัติศาสตร์และพระคัมภีร์ ในความสัมพันธ์กับดินแดนแห่งนี้

แหล่งข่าว 2 คนที่ใกล้ชิดกับการขาย ระบุว่ารัฐบาลไบเดน มีความกังวลอย่างยิ่งว่าอาวุธเหล่านี้บางส่วนอาจไปตกอยู่ในมือของพวกผู้ตั้งถิ่นฐานอิสราเอล ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เคยเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า อิสราเอลต้องดำเนินการต่างๆ เพื่อหยุดพวกผู้ตั้งถิ่นฐานอิสราเอลจากการใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์

ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 ปีในปีนี้ มีขึ้นหลังจากอิสราเอลเริ่มทำสงครามในกาซา แก้แค้นพวกนักรบฮามาสที่บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ถือเป็นวันนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มกำหนดมาตรการแบนวีซ่ากับคนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์

อิตามาร์ เบน-กาวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล เป็นสมาชิกขวาจัดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลกำลังตำรวจ และเมื่อเดือนพฤศจิกายน หนังสือพิมพ์ไทม์สออฟอิสราเอล รายงานว่า ทางกระทรวงของเขา "เน้นย้ำอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับการติดอาวุธกองกำลังด้านความมั่นคงที่เป็นพลเรือน" ตามหลังเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม

ในคำแถลงเมื่อวันพุธ (13 ธ.ค.) ไบเดน เอ่ยชื่อ เบน-กาวีร์ ว่ารัฐมนตรีรายนี้กับพันธมิตร ต้องการลงโทษชาวปาเลสไตน์ทุกคน

อิสราเอล ยกระดับโจมตีฉนวนกาซาอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิง 7 วันสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ธันวาคม ถล่มฉนวนปาเลสไตน์แห่งนี้ เข่นฆ่าผู้คนเพิ่มเติมอีกหลายพันคน ขยายขอบเขตสงครามสู่ขั้นใหม่ ในการกระทำที่วอชิงวันโวยวายว่าไม่ตรงกับคำสัญญาของอิสราเลอ ที่เคยรับปากว่าจะดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ในการปกป้องพลเรือน

ท่ามกลางสงครามที่ทวีความรุนแรง การใช้อาวุธของสหรัฐฯ อย่างไรและที่ไหนบ้างในความขัดแย้งนี้กำลังถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น แม้ขณะเดียวกัน พวกเจ้าหน้าที่อเมริกา ยืนยันว่ายังไม่มีแผนกำหนดเงื่อนไขความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่อิสราเอล หรือจะพิจารณาชะลอความช่วยเหลือบางส่วน

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น