กองทัพไต้หวันต้องรุดส่งกองกำลังไปเฝ้าติดตามกองเรือของกองทัพเรือจีน ที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินซานตง ซึ่งทำการล่องผ่านช่องแคบไต้หวันในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมไทเป ความเคลื่อนไหวยกระดับกดดันของปักกิ่ง ก่อนหน้าที่ไต้หวันจะเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนหน้า
เรือบรรทุกเครื่องบินซานตง ที่เข้าประจำการครั้งแรกในปี 2019 ได้ล่องผ่านช่องแคบที่อ่อนไหวแห่งนี้หนสุดท้าย ย้อนกลับไปในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่การล่องผ่านหนล่าสุด เกิดขึ้นราว 1 เดือนก่อนที่เกาะไต้หวัน จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในเดือนมกราคม
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลงว่า กองเรือของจีนล่องไปทางใต้ผ่านช่องแคบ แต่ใช้เส้นทางฝั่งตะวันตกของเส้นกลางของน่านน้ำแห่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นฝั่งจีน ขณะที่เส้นกลางดังกล่าวถือเป็นเส้นกั้นอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 2 ฝ่าย
จีนบอกว่าช่องแคบไต้หวันไม่ใช่น่านน้ำสากล และพวกเขาเป็นเพียงชาติเดียวที่มีอธิปไตยเหนือบริเวณดังกล่าว คำกล่าวอ้างที่ทางไต้หวันและสหรัฐฯ โต้แย้ง
ในถ้อยแถลง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุต่อว่า ไต้หวันได้ส่งกองกำลังอย่างเหมาะสม เข้าไปเฝ้าระวังกองเรือดังกล่าว อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
"ความมั่นคงและความรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพัฒนาการและเสถียรภาพของโลก และมันเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมของทุกฝ่ายในภูมิภาค" กระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าว
นอกจากนี้ ถ้อยแถลงยังระบุอีกว่า "กองทัพไต้หวันจะเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม โดยปราศจากการเสาะแสวงหาสงคราม เสริมแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองและตอบโต้ภัยคุกคามต่างๆ ในภูมิภาค"
ทางกระทรวงกลาโหมของจีนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ไต้หวันส่งเสียงคร่ำครวญซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อกรณีที่จีนยกระดับความเคลื่อนไหวด้านการทหารบริเวณใกล้เคียง ในนั้นรวมถึงส่งเครื่องบินรบและโดรนข้ามเส้นกลางของช่องแคบ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไต้หวันรายงานว่ากองทัพอากาศจีนได้ปฏิบัติภารกิจเหนือช่องแคบในยามค่ำคืน ในแบบที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก
ไต้หวันอยู่ในภาวะเฝ้าระวังขึ้นสูงต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของจีน ทั้งด้านการทหารและการเมือง ก่อนถึงศึกเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไต้หวันมองว่าปักกิ่งกำลังพยายามแทรกแซงการเลือกตั้ง หาทางโน้มน้าวให้พวกผู้มีสิทธิออกเสียงหันไปลงคะแนนเลือกบรรดาผู้สมัครที่จีนชื่นชอบ
วิลเลียม ไล หรือไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบัน และเซียว บี คิม (Hsiao Bi-Khim) คู่ชิงรองประธานาธิบดีไต้หวันจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) มีคะแนนนิยมนำหน้าในผลสำรวจของสำนักโพลต่างๆ ขณะที่จีนมองทั้ง 2 คนว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนและปฏิเสธข้อเสนอของ ไล สำหรับการเจรจา
(ที่มา : รอยเตอร์)