ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 พ.ย.) ว่าการทำข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเพื่อปลดปล่อยตัวประกันทั้งหมดในกาซา “จะเกิดขึ้น” ในไม่ช้า แต่ยังไม่ขอให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง
“ผมได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกวัน และผมเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ยังไม่ขอพูดรายละเอียดก็แล้วกัน” ไบเดน ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาว
เมื่อถูกยิงคำถามต่อว่า มีอะไรจะฝากบอกไปถึงครอบครัวของบรรดาตัวประกันที่ถูกฮามาสคุมขังอยู่หรือไม่? ผู้นำสหรัฐฯ ก็ตอบว่า “รอหน่อย พวกเรากำลังไป”
ชาวอเมริกัน 9 คนและผู้พำนักถาวรในสหรัฐฯ อีก 1 คนอยู่ในกลุ่มคนอิสราเอลและต่างชาติราว 240 ชีวิตที่ถูกพวกนักรบฮามาสจับไปเป็นตัวประกันที่กาซา ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐยิว
ด้าน เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ระบุในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (13) โดยยอมรับว่า “ผมไม่อาจสบตาพวกท่าน และยืนยันได้ว่าตัวประกันยังมีชีวิตอยู่กี่คน”
ไบเดน ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลเมื่อวานนี้ (14) โดยทำเนียบขาวระบุว่าผู้นำทั้งสองได้ “หารือยืดยาวเกี่ยวกับความพยายามช่วยเหลือตัวประกันจากมือพวกฮามาส ซึ่งรวมถึงเด็กๆ และพลเมืองอเมริกันหลายราย”
เหตุการณ์ที่ฮามาสโจมตีภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในฝั่งอิสราเอลไปไม่ต่ำกว่า 1,200 คน ตามข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลอิสราเอล ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกาซาชี้ว่าปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นอย่างไม่หยุดหย่อนของกองทัพยิวได้คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 11,300 คน และราว 2 ใน 3 เป็นเด็ก
รัฐบาลกาตาร์ออกมาเรียกร้องวานนี้ (14) ให้ทั้งอิสราเอลและฮามาสยอมรับข้อเสนอของกาตาร์ในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงสงบศึก
สหรัฐฯ เองก็ได้ย้ำข้อเรียกร้องให้มีการพักรบเป็นช่วงๆ (pauses) เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการปล่อยตัวประกันในกาซา แต่ยังคงปฏิเสธกระแสเรียกร้องให้มีการหยุดยิง (ceasefire) โดยอ้างว่าทำเช่นนั้นจะเป็นประโยชน์กับพวกฮามาส
ทำเนียบขาวระบุวานนี้ (14) ว่า เบร็ตต์ แมคเกิร์ก (Brett McGurk) ที่ปรึกษาฝ่ายกิจการตะวันออกกลางของไบเดน กำลังจะเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าว รวมถึงที่กาตาร์ซึ่งฮามาสเปิดสำนักงานการเมืองอยู่ เพื่อหารือแนวทางช่วยเหลือตัวประกันต่อไป
ที่มา : เอเอฟพี