xs
xsm
sm
md
lg

‘ฮามาส’ ปล่อยตัวประกันหญิงแม่-ลูกชาวอเมริกัน 2 คน ‘นายกฯ ยิว’ ยันถล่มกาซาต่อ ‘จนกว่าจะชนะ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลประกาศ “สู้ต่อจนกว่าจะได้ชัยชนะ” ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากองทัพอิสราเอลจะยังเดินหน้าถล่มฉนวนกาซาทางอากาศและเตรียมปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินต่อไป ขณะที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสยอมปลดปล่อยตัวประกันชาวอเมริกันออกมาแล้ว 2 คน หลังจากที่กาตาร์เข้ามาช่วยเจรจาต่อรอง

ฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่กุมอำนาจปกครองฉนวนกาซา ได้ยอมปล่อยตัว จูดิธ ไท รานาน (Judith Tai Raanan) วัย 59 ปี และ นาตาลี (Natalie) บุตรสาววัย 17 ปีของเธอ โดยหญิงทั้งสองถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างที่กลุ่มมือปืนฮามาสบุกจู่โจมภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้เผยแพร่ภาพสองแม่ลูกเดินอยู่ท่ามกลางทหารอิสราเอล และจับมือ กาล เฮิร์ช (Gal Hirsch) ผู้ประสานงานฝ่ายอิสราเอลด้านการช่วยเหลือตัวประกันและติดตามผู้สูญหาย

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถาม ยูรี รานาน (Uri Raanan) บิดาของ นาตาลี ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองแบนน็อคเบิร์น รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเขาบอกว่าได้โทรศัพท์คุยกับลูกสาวแล้ว “น้ำเสียงของเธอฟังดูดีและมีความสุขมาก และเธอก็ดูสบายดีทุกอย่าง”

สองแม่ลูกชาวอเมริกันผู้นี้เป็นตัวประกันกลุ่มแรกที่ได้รับอิสรภาพ นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเปิดฉากจู่โจมอิสราเอล และคร่าชีวิตชาวอิสราเอลไปราว 1,400 คน รวมถึงจับคนไปเป็นตัวประกันอีกราวๆ 200 คน

“ตัวประกัน 2 คนได้กลับบ้านแล้ว แต่เราจะไม่ลดละความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันทุกคน รวมถึงคนที่ยังสูญหายด้วย” เนทันยาฮู ระบุในคำแถลงเมื่อค่ำวันศุกร์ (21)

“และในขณะเดียวกัน เราก็จะสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ”

อบู อูไบดา (Abu Ubaida) โฆษกกองกำลังติดอาวุธของฮามาส แถลงว่าหญิงชาวอเมริกันทั้งสองได้รับการปล่อยตัว “ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม” และเป็นการตอบสนองคำขอของรัฐบาลกาตาร์ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเจรจา

อิสราเอลได้ส่งกองกำลังรถถังและทหารราบไปประชิดชายแดนกาซาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการภาคพื้นดิน ขณะที่การยิงโจมตีทางอากาศต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์ได้คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์แล้วอย่างน้อย 4,137 คน รวมถึงเด็กๆ หลายร้อยชีวิต และยังมีประชากรอีกกว่า 1 ล้านคนที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนหนีตาย

โยอัฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ยอมรับว่าการบรรลุซึ่งเป้าหมายนั้นอาจต้องใช้เวลา และไม่ใช่เรื่องง่าย

“เราจะต้องโค่นล้มองค์กรของพวกฮามาสให้สิ้นซาก เราจะทำลายกองกำลังและโครงการสร้างการบัญชาการของพวกเขา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ง่าย และมีราคาที่ต้องจ่าย” กัลลันต์ กล่าวต่อคณะกรรมการรัฐสภาของอิสราเอล

เขายังบอกด้วยว่า ขั้นตอนถัดไปอาจจะต้องใช้เวลายืดเยื้อ แต่เชื่อว่ามันจะทำให้ “สถานการณ์ด้านความมั่นคงเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง” และอิสราเอลจะไม่เผชิญภัยคุกคามจากฉนวนกาซาอีกต่อไป

“มันไม่ใช่แค่ 1 วัน ไม่ใช่แค่ 1 สัปดาห์ และน่าเสียดายที่อาจจะไม่ใช่แค่ 1 เดือน” เขากล่าว


สื่อปาเลสไตน์รายงานว่า อิสราเอลได้ทิ้งระเบิดใส่ฉนวนกาซาอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา รวมถึงโจมตีบ้านหลังหนึ่งที่เขตจาบาเลีย (Jabalia) ทางตอนเหนือของกาซา จนทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปถึง 19 คน

เครื่องบินอิสราเอลยังได้ทิ้งระเบิดใส่บ้านอีก 6 หลังทางตอนเหนือของกาซาในเช้าวันนี้ (21) ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน บาดเจ็บอีก 45 คน

ขณะเดียวกัน เขตอัครบิดรออร์โธดอกซ์แห่งเยรูซาเลม (The Orthodox Patriarchate of Jerusalem) ซึ่งเป็นองค์กรคริสต์หลักของปาเลสไตน์ ระบุว่า กองทัพอิสราเอลได้โจมตีโบสถ์เซนต์พอร์ไฟเรียส (Church of Saint Porphyrius) ในเมืองกาซาซิตี ซึ่งมีทั้งชาวคริสต์และมุสลิมเข้าไปอาศัยหลบภัยสงครามอยู่เป็นจำนวนมาก

รัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศเตือนพลเรือนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของกาซาให้อพยพลงใต้ ทว่าประชาชนบางส่วนยังปฏิเสธที่จะทิ้งบ้านเพราะกลัวสูญเสียทุกอย่าง อีกทั้งพื้นที่ตอนใต้ก็ถูกกองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศไม่แตกต่างกัน

ผู้สื่อข่าวได้ยิงคำถามกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ วานนี้ (20) ว่าอิสราเอลปฏิบัติตามกฎของสงครามหรือไม่? ซึ่งรัฐมนตรีผู้นี้ก็ตอบย้ำจุดยืนเดิมๆ ของสหรัฐฯ ที่ว่า “อิสราเอลมีสิทธิป้องกันตนเอง และทำให้มั่นใจว่าพวกฮามาสที่มีอิหร่านหนุนหลังจะไม่สามารถก่อเหตุโจมตีได้อีก”

“เป็นเรื่องสำคัญที่ปฏิบัติการเหล่านี้จะต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรม และกฎหมายสงคราม... ยังมีเวลาอีกมากที่จะประเมินว่ามันดำเนินไปอย่างไร แต่ในส่วนของสหรัฐฯ ผมขอยืนยันว่า เรื่องเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ”

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนในกาซาไปแล้วกว่า 140,000 หลัง หรือเกือบ 1 ใน 3 ของทั้งหมด และมีอยู่เกือบ 13,000 หลังที่ถูกระเบิดทำลายจนย่อยยับ

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น