บริษัท ฮอนด้า ของญี่ปุ่น ร่วมกับเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศแผนให้บริการ “แท็กซี่ไร้คนขับ” ในเขตพื้นที่กรุงโตเกียวภายในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีส่วนช่วยลดปัญหาขาดแคลนแรงงานในแดนอาทิตย์อุทัยซึ่งเป็นสังคมผู้สูงอายุ
ฮอนด้า ระบุในคำแถลงวันนี้ (19 ต.ค.) โครงการแท็กซี่ไร้คนขับซึ่งบริษัทร่วมมือกับ Cruise ผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับในเครือ GM “จะมอบประสบการณ์การเดินทางใหม่” ในญี่ปุ่น
“นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างสังคมที่มีระบบการสัญจรแบบก้าวหน้า (advanced mobility society)” โทชิฮิโระ มิเบะ ผู้บริหารฮอนด้า ระบุ
ฮอนด้าเผยว่า โครงการนี้ยังมีจุดประสงค์ “เพื่อช่วยลดปัญหาสังคมที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ เช่น ปัญหาการขาดแคลนแรงงานคนขับรถประจำทางและแท็กซี่ เป็นต้น”
รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการพัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เนื่องจากญี่ปุ่นก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัย อีกทั้งยังขาดแคลนแรงงานด้วย
เมื่อปี 2020 ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้ยานพาหนะที่ควบคุมโดยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้ในบางสถานการณ์
นอกจากฮอนด้าแล้ว ค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆ เช่น โตโยต้า และนิสสันก็อยู่ในขั้นตอนการทดสอบรถบัสและแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติเช่นกัน
สำหรับแท็กซี่ไร้คนขับของฮอนด้านั้นจะใช้รถยนต์แบบห้องโดยสารกว้างที่สามารถจุผู้โดยสารได้ 6 คน โดยตัดส่วนที่นั่งคนขับและพวงมาลัยออกไป
ฮอนด้า ระบุว่า แท็กซี่ไร้คนขับ “จะเข้าไปรับผู้โดยสารในจุดที่กำหนดไว้ และส่งพวกเขาไปยังจุดหมายปลายทางด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติล้วนๆ” ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ผู้โดยสารสามารถดำเนินการได้เองผ่านทางแอปพลิเคชัน
ฮอนด้าและ GM ตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ “หลายสิบคัน” ที่กรุงโตเกียวภายในปี 2026 และผู้พัฒนาโครงการนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนแท็กซี่เป็น 500 คัน และขยายพื้นที่บริการไปสู่เขตปริมณฑลด้วย
“ประโยชน์ของยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือ AVs ตั้งแต่ในด้านปลอดภัยเรื่อยไปจนถึงความสามารถในการเข้าถึง เป็นสิ่งที่ยากจะมองข้ามได้” แมรี บาร์รา ประธานและซีอีโอของ GM ระบุ
ที่มา : รอยเตอร์