เอเจนซีส์ - พระราชวังแวร์ซาย (The Palace of Versailles) สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของฝรั่งเศสที่ตามปกติมีผู้เข้าชมราว 15,000 คน/วัน ถูกสั่งอพยพช่วงเวลาสั้นๆ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 วัน หลังโดนขู่วางระเบิดรอบใหม่วันอังคาร (17 ต.ค.)
เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (17 ต.ค.) ว่า พระราชวังแวร์ซาย (The Palace of Versailles) วันอังคาร (17) ถูกสั่งอพยพหลังอาจมีการขู่วางระเบิด อ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นฝรั่งเศส
ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นที่อ้างแหล่งข่าวตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผยว่า หน่วยเก็บกู้ระเบิดกำลังเดินทางไปจุดที่เกิดเหตุระหว่างที่นักท่องเที่ยวเข้าชมนั้นออกมานอกราชวังที่ถนน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษอีกแห่งรายงานว่า นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนถูกสั่งอพยพออกมาขณะที่ทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญรีบเร่งไปเกิดเหตุ
และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น พระราชวังแวร์ซายซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของแดนน้ำหอม และมีนักท่องเที่ยวเข้าชมโดยเฉลี่ยตกวันละ 15,000 คน/วัน ได้กลับมาเปิดอีกครั้งและการปิดกั้นทางความมั่นคงถูกสั่งยกเลิกไป
เดลีเมลชี้ว่า นี่ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่พระราชวังแวร์ซายถูกสั่งอพยพ เกิดขึ้นหลังจากการขู่วางระเบิดในวันเสาร์ (14) ที่ได้เห็นทั้งพระราชวังแวร์ซายและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ปิดให้บริการชั่วคราวและทำให้ต้องอพยพนักท่องเที่ยวร่วม 30,000 คนออกไป แต่ทว่าไม่พบระเบิดต้องสงสัยตามจดหมายข่มขู่
ฝรั่งเศสอยู่ในสถานการณ์เตือนภัยขั้นสูงสุดเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ครูสอนภาษาฝรั่งเศสถูกอดีตนักเรียนเชื้อสายเชเชนของโรงเรียนมัธยมเมืองอาร์รัส (Arras)ใช้มีดบุกแทงทำร้ายเสียชีวิตวันศุกร์ (13) ส่งผลทำให้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ประกาศส่งกำลังทหาร 7,000 นายเข้าตรึงสถานการณ์ทั่วประเทศ
เดอะการ์เดียนชี้ว่า วิกฤตอิสราเอล-ปาเลสไตน์ทำให้ยุโรปอยู่ในความตึงเครียด เพราะเกิดเหตุอีกครั้งเมื่อเช้าวันอังคาร (17) ผู้ต้องสงสัยชาวตูนิเซียวัย 45 ปี สังหารนักท่องเที่ยวสวีเดน 2 คน ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม และคนร้ายถูกวิสามัญยิงเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ความวิตกทางความมั่นคงขยายไปทั่วยุโรปนับตั้งแต่วิกฤตอิสราเอลถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีเมื่อ 10 วันก่อนหน้า