กระทรวงการต่างประเทศของไทยในวันเสาร์ (7 ต.ค.) ยืนยันยังไม่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิต ในเหตุความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่าง "ฮามาส" กลุ่มนักรบปาเลสไตน์กับอิสราเอล พร้อมกำลังเร่งประสานงานแรงงานไทยในพื้นที่ หลังสื่อมวลชนต่างประเทศรายงานว่าแรงงานไทยเป็นหนึ่งในบรรดาผู้คนจำนวนมากที่ถูกลักพาตัวไประหว่างเหตุโจมตีในอิสราเอล
ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุโจมตีอิสราเอลว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิตแต่อย่างใด ขอให้รอการยืนยันจากกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันความเข้าใจที่สับสน
เนื่องจากขณะนี้เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอิสราเอล ยังอยู่ในหลุมหลบภัย จึงยังไม่สามารถติดต่อและเปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดได้ กระทรวงต่างประเทศกำลังเร่งติดต่อและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ด้านกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีที่มีสำนักข่าวต่างประเทศบางแห่ง รายงานข่าวแรงงานไทยถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีในอิสราเอลนั้น
ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งว่า จากการประสานแรงงานไทยในพื้นที่ อาจมีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบกับทางการอิสราเอล ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ และรับจะเร่งตรวจสอบให้ต่อไป
ดร.ปานปรีย์ เผยด้วยว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินให้พร้อมสำหรับการอพยพคนไทยกลับประเทศหากมีความจำเป็นสามารถบินขึ้นได้ทันที รวมทั้งสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตติดตามอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ บนแฟลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กรณีรายงานข่าวแรงงานไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธจับกุมตัว ทางสถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กำลังพยายามประสานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิด มิได้นิ่งนอนใจ และทางการอิสราเอลรับปากว่าจะดูแลคนต่างชาติเทียบเท่ากับคนอิสราเอล
อีกข้อความบอกว่าเวลานี้ อิสราเอลอยู่ในสภาวะสงคราม ทางการอิสราเอลห้ามการเคลื่อนไหวของพลเรือนนอกเคหสถาน และนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตติดตามอย่างเต็มที่ และได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมอพยพคนไทย
ก่อนหน้านั้น นายเศรษฐา ได้โพสต์ข้อความประณามการโจมตีอิสราเอล โดยระบุว่าเป็นการโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น "และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว"
"ผมได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ"
"ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ" ข้อความระบุ
ความกังวลเกี่ยวกับการถูกจับเป็นตัวประกันมีขึ้น หลังจากปราฏภาพวิดีโอของเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่า พวกนักรบฮามาสกำลังจับทหารอิสราเอล และพลเรือนเป็นตัวประกัน
หนึ่งในวิดีโอเป็นภาพที่อ้างว่าผู้หญิงชาวอิสราเอลคนหนึ่งถูกจับตัว ในสภาพที่เสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือดและมือถูกมัดไพล่หลัง ชายคนหนึ่งชูปืนขึ้น ตะโกนคำกว่า "อัลลอฮุอักบัร (พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่) พร้อมกับผลักผู้หญิงคนดังกล่าวยัดเข้าไปในบริเวณเบาะหลังของรถจี๊ปคันหนึ่ง
สถานที่เกิดเหตุในคลิปดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะเป็นในฉนวนกาซา และมันถูกโพสต์หลังจากพวกนักรบฮามาส เปิดฉากโจมตีเล่นงานอิสราเอลครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปี ทั้งนี้ในวิดีโอที่ถูกโพสต์บนช่องเทเลแกรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส ยังปรากฏภาพที่พวกนักรบจับกุมและทำตีทำร้ายชาวอิสราเอลอีกด้วย
ในวิดีโอพบเห็นชายคนหนึ่งพยายามป้องกันศีรษะตนเองตอนที่กำลังถูกเตะ ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่ผู้คนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ลากไปตามพื้น บริเวณเขตล้อมรั้วแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นของกระทรวงกลาโหมอิสราเอล
เมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) โฆษกกองทัพอิสราเอล ยืนยันว่ามีพลเรือนและทหารอิสราเอลถูกพวกนักรบฮามาสในฉนวนกาซา จับเป็นตัวประกัน ในขณะที่โฆษกกลุ่มฮามาส บอกว่าทหารอิสราเอลหลายสิบนายถูกควบคุมตัวในสถานที่ปลอดภัยและในอุโมงค์สงครามในฉนวนกาซา
ซาเลห์ อารัวรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนของฮามาส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราห์ ว่าทางกลุ่มควบคุมตัวเชลยศึกอิสราเอลจำนวนมาก มากพอสำหรับที่จะกดดันให้อิสราเอลปล่อยชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ที่ถูกคุมขังตามเรือนจำต่างๆ ของอิสราเอล
ตามรายงานข่าวของสำนักข่าว N12 ระบุว่ามีชาวอิสราเอลสูงสุดราว 50 คน ที่ถูกพวกมือปืนฮามาสจับเป็นตัวประกันในนิคมเกษตรกรรม Beeri ใกล้ชายแดนกาซา ส่วนสถานีโทรทัศน์ Reshet 13 TV News รายงานว่าพวกนักรบได้จับกุมตัวประกันใน Ofakim เมืองของอิสราเอล ที่อยู่ใกล้กับฉนวนกาซาเช่นกัน
สื่อมวลชนท้องถิ่นบ่งชี้ว่า พวกสตรีคนชราสมองเสื่อม เช่นเดียวกับแรงงานจากไทยและฟิลิปปินส์ ก็ถูกจับกุมตัวด้วยเช่นกัน ตามรายงานของสกายนิวส์
ห่าจรวดหลายพันลูกถูกยิงเข้าใส่อิสราเอล ในเหตุโจมตีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนและน่าประหลาดใจในตอนเช้าวันเสาร์ (7 ต.ค.) สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีชาวอิสราเอลเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 250 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,450 คน ในเหตุโจมตีครั้งนองเลือดที่สุดในรอบหลายปี
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในฉนวนกาซาบอกว่ามีชาวปาเลสไตน์ 232 คน เสียชีวิตตามหลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางอากาศโจมตีแก้แค้น และมีผุ้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,600 คน
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศในถ้อยแถลงว่า "เรากำลังอยู่ในภาวะสงครามและเราจะเป็นฝ่ายชนะ" พร้อมบอกว่า "ศัตรูของเราจะต้องชดใช้ในชนิดที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน"
ส่วนทาง มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีของปาเลสไตน์ บอกว่าประชาชนชาวปาเลสไตน์ มีสิทธิป้องกันตนเองต่อการก่อการร้ายของพวกตั้งถิ่นฐานและการรุกรานยึดครองของพวกทหาร
(ที่มา : สกายนิวส์/กระทรวงการต่างประเทศ)