โบอิ้ง (Boeing) ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนเครื่องบินใหม่ที่จะส่งมอบสู่จีนในระยะ 20 ปีข้างหน้า โดยอ้างปัจจัยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และอุปสงค์การเดินทางภายในประเทศจีนที่พุ่งสูงขึ้น
ผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุว่า สายการบินของจีนจะมีความต้องการเครื่องบินใหม่มากถึง 8,560 ลำนับจากวันนี้ไปจนถึงปี 2042 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลข 8,485 ลำที่โบอิ้งเคยคาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว
โบอิ้งประกาศเมื่อเดือน มิ.ย. ว่าบริษัทยังคง “มุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ” ที่จะรุกตลาดแดนมังกร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 20% ของการเดินทางทางอากาศทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม โบอิ้งยังคงเผชิญอุปสรรคในการส่งมอบเครื่องบิน 737 MAX ซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุดให้สายการบินของจีน หลังถูกสั่งระงับการส่งมอบไปนานกว่า 4 ปี จากผลพวงของอุบัติเหตุเครื่องบินตก 2 ครั้งเมื่อช่วงปี 2019-2020 อีกทั้งยังไม่ได้สัญญาสั่งซื้อใหม่ๆ จากจีนเลยตั้งแต่ปี 2017
โบอิ้งคาดการณ์ว่า ฝูงบินพาณิชย์ของจีนจะเพิ่มจำนวนเป็นเกือบ 9,600 ลำในอีก 20 ปีข้างหน้า และตลาดการบินในประเทศจีนจะเติบโตจนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะทำให้จีนมีความต้องการเครื่องบินทางเดินเดี่ยว (single-aisle planes) อย่างเช่นเครื่องบินในตระกูล 737 MAX ประมาณ 6,470 ลำ
“การเดินทางทางอากาศภายในประเทศจีนเวลานี้พุ่งแซงระดับก่อนโควิด-19 ไปแล้ว ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศก็กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง” ดาร์เรน ฮัลต์ รองประธานฝ่ายการตลาดเชิงพาณิชย์ของโบอิ้ง ระบุในถ้อยแถลง
“เมื่อเศรษฐกิจและการเดินทางของจีนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เครื่องบินพาณิชย์ของโบอิ้งจะมีส่วนสำคัญในการช่วยให้จีนสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนและประหยัด”
โบอิ้งแถลงเมื่อเดือน ก.ค. ว่า บริษัทมีเครื่องบิน 737 MAX ที่รอส่งมอบแก่ลูกค้าในจีนรวมทั้งสิ้น 85 ลำ และมีอยู่ 55 ลำซึ่งบริษัทได้ทำการเสนอขายแก่ลูกค้ารายอื่นแล้ว
รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือน เม.ย. ว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ได้ออกรายงานฉบับหนึ่ง ซึ่งทางโบอิ้งมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่อาจเปิดทางให้บริษัทส่งมอบเครื่องบินแก่จีนได้อีกครั้ง ทว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการอนุญาตส่งมอบเกิดขึ้น
ที่มา : รอยเตอร์