ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เปิดเผยในวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) มอสโกรับสมัครกำลังพลเข้าสู่กองทัพได้ราว 280,000 นาย นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2023 ท่ามกลางสงครามที่ลากยาวกับยูเครน
รัสเซียไม่ได้ประกาศระดมทหารกองหนุนอีกรอบ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นมาตรการที่ไม่ได้รับความนิยม แต่หันไปดำเนินการรณรงค์ดึงดูดชายฉกรรจ์เข้าสู่กองทัพแทน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของพวกเขาลากยาวเข้าสู่เดือนที่ 19 แล้ว
"จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหม มีประชาชน 280,000 คน เข้าร่วมกองทัพรัสเซีย ภายใต้สัญญาต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา" เมดเดเวฟ กล่าว ตามรายงานของสำนักข่าวทาสส์นิวส์ "บางส่วนในนั้นมาในรูปแบบทหารกองหนุน บางส่วนสมัครใจและอื่นๆ" เขากล่าว ระหว่างเดินทางเยือนเกาะซาคาลิน ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เมดเวเดฟ เผยว่ามีประชาชนราย 230,000 ราย สมัครเป็นทหารนับตั้งแต่เข้าสู่ปีนี้
นับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นมา ทางกองทัพรัสเซียได้ดำเนินการรณรงค์ครั้งใหญ่ในการเกณฑ์ผู้สมัครใจเข้าเป็นทหาร โดยทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์และตามท้องถนนสายต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ พวกเขาพยายามดึงดูดใจว่าที่ทหาร ด้วยคำสัญญามอบเงินเดือนระดับสูง
ในเดือนกันยายนปีก่อน เครมลินกลับคำสัญญาว่าจะไม่เกณฑ์ทหาร ด้วยการแถลงระดมทหารกองหนุนบางส่วน เพื่อชดเชยกำลังพลที่สูญเสียชีวิตตามแนวหน้าต่างๆ ในยูเครน นำมาซึ่งการเรียกทหารกองหนุน 300,000 นาย
อย่างไรก็ตาม คำแถลงนี้โหมกระพือระลอกคลื่นการโยกย้ายถิ่นฐานจากรัสเซีย ด้วยเชื่อว่ามีผู้คนหลายแสนคนหลบหนีออกไปต่างแดน
สำหรับ เมดเวเดฟ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจากปี 2008 ถึง 2012 กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสายแข็งกร้าวที่สุดของมอสโก ในการสนับสนุนปฏิบัติการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีปูติน
(ที่มา : เอเอฟพี)
