xs
xsm
sm
md
lg

แดนศิวิไลซ์!! ห้างร้านอเมริกาครวญ ‘ขโมยชุม’ ต้องทำตู้ล็อกชั้นวางยาสีฟัน-ช็อกโกแลต-ผงซักฟอก บางแห่งถอดใจยอมปิดสาขาหนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) ภาพนิ่งจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในร้าน ซึ่งเผยแพร่โดยสำนักงานตำรวจนครลอสแองเจลิส แสดงให้เห็นพวกผู้ต้องสงสัยบุกเข้าไปขโมยข้าวของที่ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” แห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2022
ปัญหาโจรขโมยของที่กำลังเกิดขึ้นอย่างชุกชุม ส่งผลให้ห้างร้านต่างๆ ในอเมริกาต้องทำตู้ล็อกชั้นวางสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปอย่างยาสีฟัน ช็อกโกแลต ผงซักฟอก และบางห้างกระทั่งตัดสินใจปิดสาขาในย่านที่แก๊งโจรอาละวาดหนัก

ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างวอลมาร์ท และทาร์เก็ต ตลอดจนเชนร้านขายยาดัง ซีวีเอส และวอลกรีนส์ รวมถึงผู้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับการตกแต่งต่อเติมบ้านอย่างโฮมดีโป และร้านรองเท้าฟุต ล็อกเกอร์ คือห้างร้านค้าปลีกส่วนหนึ่งในสหรัฐฯ ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาโจรลักขโมยข้าวของเอาไว้ในรายงานผลประกอบการล่าสุดของพวกตน โดยชี้ว่าปัญหานี้ซึ่งผู้ก่อเหตุมีทั้งพวกลักเล็กขโมยน้อย และโจรที่รวมตัวเป็นแก๊งลักข้าวของ กำลังระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบางทีก็เกิดเหตุการณ์รุนแรง

ลอเรน โฮบาร์ต ประธานบริหารดิ๊กส์ สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ กล่าวระหว่างการประชุมผ่านทางโทรศัพท์ว่า พวกแก๊งลักขโมย และการขโมยข้าวของโดยภาพรวมกำลังเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อห้างหลายแห่งมากขึ้น ในกรณีของดิ๊กส์ นั้น การขโมยของส่งผลกระทบต่อสินค้าคงคลังของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในผลประกอบการไตรมาส 2 และการคาดหมายสำหรับช่วงครึ่งปีหลัง

ด้านไบรอัน คอร์เนลล์ ประธานบริหารทาร์เก็ต เผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีการขโมยของในห้างแบบที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงหรือขู่ใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 120% และเสริมว่า เวลานี้ความสูญเสียในส่วนของสินค้าคงคลังสืบเนื่องจากปัญหานี้อยู่ในระดับสูงเกินกว่าที่จะยอมรับได้ในระยะยาวแล้ว

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่อัตราดอกเบี้ยของอเมริกาพุ่งจากเกือบ 0% เป็น 5.5% ในระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี เนื่องจากผู้วางนโยบายพยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้กระทบต่อการกู้เงินเพื่อซื้อสินค้าชิ้นใหญ่หรือขยายธุรกิจมีต้นทุนสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ส่งผลลบถึงผู้บริโภคเช่นกัน

จากการสำรวจด้านความปลอดภัยของการค้าปลีก ของสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ พบว่า ในปี 2021 พวกห้างค้าปลีกเสียหายราว 94,500 ล้านดอลลลาร์จากสิ่งที่เรียกว่า “shrink” ซึ่งหมายถึงความสูญเสียในส่วนของสินค้าคงคลังอันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การยักยอกของพนักงาน การขโมยของ หรือความผิดพลาดในการจัดการ

ผลสำรวจยังพบว่า ห้างค้าปลีกเผชิญปัญหาจากแก๊งโจรเพิ่มขึ้น 26.5% โดยที่ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่รายงานว่า วิกฤตโรคระบาดทำให้ความเสี่ยงนี้เพิ่มสูงขึ้น

ผลลัพธ์คือห้างหลายแห่งติดตั้งแผ่นพลาสติกใสพร้อมกุญแจล็อกครอบชั้นวางสินค้า หรือล่ามโซ่คล้องกุญแจสายยูล็อกตู้เย็น และมีปุ่มกดเรียกสำหรับพนักงานกระจายอยู่ตามทางเดิน

ส่วนชั้นวางที่ไม่มีการป้องกันจะวางสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นเพื่อจำกัดการถูกขโมย

อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันดังกล่าวไม่ได้ผลเสมอไป เป็นต้นว่า ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีชายคนหนึ่งสวมแจ็กเก็ตแบบมีฮู้ดและหน้ากาก และใช้เครื่องพ่นความร้อนละลายแผ่นพลาสติกใสที่ครอบชั้นวางสินค้าในห้างวอลกรีนส์ ในย่านควีนส์ ของนครนิวยอร์กท่ามกลางสายตาลูกค้าและพนักงานร้าน ก่อนโกยของไปจากชั้น

ผู้อยู่อาศัยในย่านควีนส์ยังร้องเรียนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยในร้านขายยาซีวีเอสหลายสาขา ซึ่งตามรายงานของสื่อนั้น บางสาขาขอให้พนักงานอย่าเข้าไปขัดขวางการขโมยของหรือแจ้งตำรวจ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง

บางห้างกำลังพิจารณาปิดสาขา เช่น ไจแอนต์ที่กำลังชั่งใจปิดซูเปอร์มาร์เกตในนิวยอร์กที่ขโมยชุมและมีเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น

วอลล์กรีน ได้ปิดสาขา 5 แห่งในซานฟรานซิสโกในปี 2021 จากปัญหาเดียวกัน และวอลมาร์ทปิด 4 สาขาในชิคาโกในปีนี้ โดยให้เหตุผลอย่างเป็นทางการว่า ไม่มีกำไร

นอกจากนั้น ผู้ใช้ออนไลน์ยังรายงานเหตุการณ์ “flash rob” ที่แก๊งโจรใช้คนกรูกันเข้าไปในห้างและฉกสินค้าที่คว้าได้ก่อนวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมในร้านนอร์ดสตรอม ที่ลอสแองเจลิส กลุ่มคนสวมหน้ากากราว 30 คนเข้าไปกวาดสินค้าหรูมูลค่า 300,000 ดอลลาร์ และใช้สเปรย์ไล่หมีฉีดใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

(ที่มา : เอเอฟพี, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น