เอเจนซีส์ - กระทรวงกลาโหมอังกฤษรายงานการวิเคราะห์ข่าวกรองทางการทหารของตัวเองยืนยันว่า เครื่องบินซูเปอร์โซนิกทิ้งระเบิด ตูโปเลฟ Tu-22M3 (Tupolev Tu-22M3) ของรัสเซียที่โดนโจมตีในวันเสาร์ (19 ส.ค.) ห่างจากเส้นแนวข้าศึกลึกเข้าไปในรัสเซีย 650 กม.น่าจะถูกโจมตีจากหน่วยปรปักษ์ในดินแดนรัสเซียมากกว่าโดรนที่ออกมาจากยูเครนเพราะมีพิสัยทำการไปไม่ถึง ตามคำอ้างกลบเกลื่อนจากเครมลิน
บิสซิเนสอินไซเดอร์ของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า ภาพที่เปิดเผยโดยบีบีซีของอังกฤษแสดงให้เห็นเครื่องบินซูเปอร์โซนิกทิ้งระเบิดรัสเซีย ตูโปเลฟ Tu-22M3 (Tupolev Tu-22M3) ถูกทำลายคาฐานทัพ Soltsy-2 ทางใต้ของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ทั้งนี้ พบว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22M3 ใช้ในปฏิบัติการโจมตียูเครนอย่ากว้างขวางโดยกองทัพรัสเซีย และมีสมรรถนะสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเสียง 2 เท่า เป็นเครื่องบินซูเปอร์โซนิกที่มีราคาสูงลิ่ว
แต่ทว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เกิดการโจมตีด้วยโดรนแบบคอปเตอร์เกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงมอสโก ของวันเสาร์ (19) โดยชี้ว่าจุดที่ถูกโจมตีเป็นลานบินทางการทหารในภูมิภาคนอฟโกร็อด (Novgorod) ซึ่งฐานทัพ Soltsy-2 ตั้งอยู่
ตามการแถลงของกระทรวงระบุว่า “มีเครื่องบินลำหนึ่งได้รับความเสียหาย” แต่ทว่าไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แถลงการณ์ยังระบุว่า ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นที่ลานบินสามารถดับลงได้อย่างรวดเร็ว
บีบีซีรายงานว่า ภาพที่ถูกเผยแพร่บนเทเลแกรมและสื่ออังกฤษได้ยืนยันความถูกต้องแล้วแสดงภาพกำลังเกิดไฟไหม้ครั้งมโหฬารที่เครื่องบินลำหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็น Tu-22M เนื่องมาจากจมูกของเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์
กระทรวงกลาโหมอังกฤษ MoD กล่าวผ่านรายงานข่าวกรองประจำวันอังคาร (22) ว่า มีความน่าเชื่อสูงว่า เมื่อวันเสาร์ (19) เครื่องบินซูเปอร์โซนิก Tu-22M โดนทำลายภายในฐานทัพ Soltsy-2 ที่ตั้งห่างจากพรมแดนยูเครนไป 650 กม. (400 ไมล์)
ในรายงานระบุว่า ฝ่ายรัสเซียอ้างว่าโดรนแบบคอปเตอร์เป็นตัวการแต่ทว่าไม่คาดว่าจะเป็นไปได้เนื่องมาจากพิสัยทำการโดรนแบบคอปเตอร์จะไม่สามารถไปถึงหากปล่อยออกมาจากนอกพรมแดนรัสเซีย
บิสซิเนสอินไซเดอร์ชี้ว่า การวิเคราะห์ของฝ่ายอังกฤษได้ประเมินว่าเทียบประเภทของโดรนและพิกัดเป้าหมายทำให้ชี้ไปว่า มันน่าจะมาจากหน่วยที่เป็นปรปักษ์ภายในรัสเซียเอง
