อุณหภูมิในโมร็อกโกพุ่งทะลุ 50 องศาเซลเซียส เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากการเปิดเผยของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) อากาศอันแสนสาหัสซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางคลื่นความร้อนที่กำลังแผดเผาพื้นที่แถบนี้
สถานีอุตุนิยมวิทยาในเมืองอกาดีร์ ตามแนวชายฝั่งทางภาคใต้ของโมร็อกโก แตะระดับ 50.4 องศาเซลเซียส ถือเป็นสถิติใหม่ของประเทศ จากการเปิดเผยของอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
ที่ผ่านมา โมร็อกโกต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนระลอกแล้วระลอกเล่าในช่วงฤดูร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาแล้วหลายครั้ง
สถิติเดิมอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศแห่งนี้ วัดได้ 49.9 องศาเซลเซียส ในเมืองชมารา ทางตะวันตกของทะเลทรายซาฮารา เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา
"คลื่นความร้อนนี้สืบเนื่องจากการไหลเข้ามาของอากาศแห้งและร้อนจากทางใต้ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เหนือกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนราว 5 ถึง 13 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว" สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุในถ้อยแถลง
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คลื่นความร้อนยังก่อให้เกิดไฟป่าหลายจุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในบริเวณทางเหนือของโมร็อกโก ใกล้กับเมืองแทนเจียร์ และจังหวัดทาซา ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันออก ก่อความเสียหายแก่ผืนป่า แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส (Copernicus Climate Change Service) ของสหภาพยุโรป ระบุว่าเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก มันทำลายสถิติเดิมที่เคยทำเอาไว้ในเดือนกรกฎาคม 2019 ที่ 0.33 องศาเซลเซียส
ส่วนในโมร็อกโก เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดอันดับ 4 ของประเทศ นับตั้งแต่ปี 1961
(ที่มา : เอเอฟพี)
