ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) จากความกังวลทางอุปสงค์ในจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ ท่ามกลางข่าวอเมริกาจำกัดการลงทุนบางอย่างในภาคเทคโนโลยีที่อ่อนไหวในประเทศแห่งนี้ ส่วนวอลล์สตรีทรงตัวเช่นเดียวกับทองคำ หลังสหรัฐฯ เผยแพร่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดหมาย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากการยกระดับลดกำลังผลิตของซาอุดีอาระเบียและจีน ประกอบความกังวลทางอุปทาน ท่ามกลางความเป็นไปได้ว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในภูมิภาคทะเลดำอาจคุกคามการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้เผยให้เห็นว่าภาคบริโภคในจีนหดตัวสู่ภาวะเงินฝืด และดัชนีราคาหน้าโรงงานยังคงลดลงต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม ก่อความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงานในชาติเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้
นอกจากนี้ ล่าสุด สหรัฐฯ ยังห้ามการลงทุนบางอย่างในภาคเทคโนโลยีที่อ่อนไหวของจีน อย่างเช่นชิปคอมพิวเตอร์ รวมทั้งกำหนดให้นักลงทุนอเมริกาแจ้งรัฐบาลสำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ปิดทรงตัว หลังจากช่วงต้นได้แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าที่กังวล แต่ช่วงท้ายถูกฉุดจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มระยะยาวของเศรษฐกิจอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 52.79 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,176.15 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.12 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,468.83 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.97 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,737.99 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน ก.ค.ในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) โดยดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือน ก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.7% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือน ก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ในช่วงต้นของการซื้อขาย ดัชนีทั้ง 3 ดีดตัวขึ้นกว่า 1% หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจหยุดกระชับนโยบายการเงินเพิ่มเติมในปี 2023 และเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ววอลล์สตรีทก็ปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มระยะยาวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ปิดทรงตัว หลังรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เผยให้เห็นว่าราคาปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,948.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)
