xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเน็ตจีนจวกทางการมัดมือชก บีบสละบ้านรับน้ำท่วมแทนปักกิ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ประชาชนในมณฑลเหอเป่ยเกือบ 1 ล้านคนต้องอพยพ หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้บีบให้ทางการต้องผันน้ำจากแม่น้ำที่เอ่อล้นบางสายไปกักเก็บในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ ทำชาวเน็ตเดือดดาลที่ผู้คนจำนวนมากต้องเสียสละบ้านเพื่อช่วยให้ปักกิ่งรอด

ลุ่มแม่น้ำไห่ที่มีอาณาบริเวณพอๆ กับประเทศโปแลนด์ ครอบคลุมเหอเป่ย ปักกิ่ง และเทียนจิน และมีประชากรรวม 110 ล้านคน เผชิญอุทกภัยหนักที่สุดในรอบ 6 ทศวรรษ โดยถูกน้ำท่วมขังมาหนึ่งสัปดาห์นับจากปลายเดือนกรกฎาคม และเหอเป่ย โดยเฉพาะนครเป่าติ้งเป็นพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยรุนแรงที่สุด

ตามกฎหมายควบคุมอุทกภัยของจีน เมื่อน้ำท่วมขังทั่วที่ราบลุมและทำให้อ่างเก็บน้ำที่เป็นแนวป้องกันแรกมีระดับน้ำเกินขีดจำกัด จะต้องผันน้ำไปยัง “พื้นที่เก็บกักน้ำ” ซึ่งรวมถึงที่ราบลุ่มที่มีประชาชนอาศัยอยู่

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม มณฑลเหอเป่ยเปิดพื้นที่เก็บกักน้ำที่จัดไว้ 7 แห่งจาก 13 แห่ง ซึ่งรวมถึง 2 แห่งในเมืองจัวโจวในนครเป่าติ้ง ทางใต้ของปักกิ่ง และทางเหนือของเมืองสงอันที่เป็นเขตที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต้องการพัฒนาเป็นฮับเศรษฐกิจรองรับเหอเป่ย ปักกิ่ง และเทียนจิน

ต่อมา วันที่ 1 สิงหาคม หนี่ เย่ว์เฟิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในมณฑลเหอเป่ย เรียกร้องระหว่างเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่เก็บกักน้ำในเป่าติ้งให้สงอันเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับแรกสำหรับงานป้องกันอุทกภัยของมณฑล เขาสำทับว่า จำเป็นต้องลดความกดดันต่อการควบคุมน้ำท่วมและสร้างคูเมืองสำหรับปักกิ่ง

ชาวเน็ตคนหนึ่งวิจารณ์บนเวยป๋อว่า ปักกิ่งควรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกหลายคนโพสต์เกี่ยวกับเมืองจัวโจวว่า ประชาชนในเมืองนี้ไม่รู้เลยว่าตัวเองอาศัยอยู่ในพื้นที่เก็บกักน้ำและต้องเสียสละสิทธิของคนกลุ่มน้อย

ผู้สื่อข่าวพยายามโทร.สอบถามเรื่องนี้กับที่ทำการมณฑลเหอเป่ยในวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) แต่ไม่มีผู้รับสาย รวมทั้งไม่มีการตอบคำถามที่ส่งไปทางอีเมล

ทางการเป่าติ้งเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (5 ส.ค.) ว่า ฝนที่ตกหนักทำสถิติในเป่าติ้งส่งผลให้น้ำเอ่อล้นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 67 จาก 83 แห่ง และน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 10 แห่งเพิ่มขึ้นถึงระดับที่เป็นอันตราย

ในโพสต์บนเว่ยป๋อเมื่อวันที่ 1 ส.ค. เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานข่าวสารทรัพยากรน้ำแห่งประเทศจีน ระบุว่า เมื่อน้ำในเขื่อนมีปริมาณมากเกินไปและเกินขีดความสามารถในการป้องกันของเขื่อน ถือว่ามีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องควบคุมอุทกภัยด้วยการใช้พื้นที่เก็บกักน้ำ และสำทับว่า ต้องมีการเสียสละส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อปกป้องสถานการณ์โดยรวม

สื่อของทางการรายงานว่า เมื่อเวลา 8.00 น. วันศุกร์ (4 ส.ค.) เหอเป่ยได้ย้ายประชาชนกว่า 1.54 ล้านคน ซึ่งรวมถึงประชาชน 961,200 คนจากพื้นที่เก็บกักน้ำไปอาศัยอยู่ที่อื่นชั่วคราว

กระทรวงทรัพยากรน้ำแถลงว่า ประชาชนในพื้นที่เก็บกักน้ำที่ต้องเสียสละบ้านเรือนเพื่อปกป้อง ทุกคนจะได้รับการชดเชยตามกฎหมาย

เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่เมืองปาโจวในมณฑลเหอเป่ยแสดงความขอบคุณต่อประชาชนที่ปฏิบัติตามคำสั่งและอพยพออกจากบ้านเรือนก่อนกำหนด และเสริมว่า จะพิจารณาค่าชดเชยสำหรับผลิตผลการเกษตรและบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหลังจากน้ำลดแล้ว

แต่ดูเหมือนยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย โดยบนแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์เดิม มีการรีโพสต์คลิปที่คนกลุ่มหนึ่งชูป้ายประท้วงหน้าทางเข้าที่ทำการเทศบาลปาโจวที่มีข้อความว่า “การที่พวกเราต้องเสียสละบ้านมีจุดประสงค์ชัดเจนคือการระบายน้ำที่ท่วมขัง แต่พวกคุณบอกว่า ต้นเหตุมาจากฝน”
กำลังโหลดความคิดเห็น