เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ปักกิ่งประกาศล่าสุด พร้อมจำกัดการส่งออกโดรนพลเรือนสมรรถนะสูง อ้างอาจเกิดความเสี่ยงสูงถูกนำไปใช้ในทางไม่สันติวิธี เกิดขึ้นท่ามกลางกรุงมอสโกตกเป็นเป้าโจมตีจากโดรนยูเครนรอบใหม่วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ตึกสูงหลังเดิม เครมลินสุดโมโห เปรียบโดรนยูเครนพุ่งชนตึกเหมือนเจอก่อการร้าย 9/11
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันนี้ (1 ส.ค.) ว่า รัฐบาลปักกิ่งได้ใช้มาตรการดำเนินการเป็นกลางอย่างเป็นทางการต่อการรุกรานของยูเครนโดยฝีมือของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ถึงแม้จะมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับมอสโก
DJI Technology Co ชื่อดังของจีนได้ถอนตัวออกมาจากทั้ง “ยูเครน” และ “รัสเซีย” เพื่อป้องกันไม่ให้โดรนของบริษัทถูกนำไปใช้ในสงครามทำลายล้าง
แต่ทว่าปักกิ่งเมื่อไม่นานมานี้ถูกแฉว่า โดรนจีนถูกทั้ง 2 ฝ่ายนำไปใช้ในสมรภูมิรบถึงแม้จะมียอดขายให้ "รัสเซีย" สูงลิ่วเมื่อเทียบกับยูเครน ซึ่งในวันอังคาร (1) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศมาตรการจำกัดการส่งออกโดรน และยังจำกัดการส่งออกระบบต่อต้านโดรน อุปกรณ์เลเซอร์บางอย่าง เครื่องมือสื่อสาร
กระทรวงกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ความเสี่ยงของคุณสมบัติสูงและความสมรรถนะสูงของอากาศยานไร้คนขับในกิจการพลเรือนนั้นถูกดัดแปลงนำไปใช้ในสงครามนั้นเริ่มมีบ่อยครั้งมากขึ้น”
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า การจำกัดการส่งออกจะเกิดขึ้นกับโดรนประเภทที่มีความสามารถบินเหนือระดับสายตาของของผู้ควบคุมหรือสามารถบินอยู่ได้นานเป็นเวลานานกว่า 30 นาที รวมไปถึงโดรนที่สามารถผูกติดกับสิ่งอื่นที่สามารถขว้างออกไปได้
ขณะเดียวกัน วันนี้ (1) รัสเซียเจอกับการโจมตีจากโดรนยูเครนเป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดขึ้นก่อนหน้าในวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า เป็นการโจมตีจากโดรนซึ่งเป้าหมายเป็นตึกสูงหลังเดิมที่เคยตกเป็นเป้าโจมตีมาแล้วจากเคียฟก่อนหน้าในสุดสัปดาห์
"มีโดรนไม่กี่ตัวพยายามที่จะบินเข้ามาในกรุงมอสโกได้ถูกยิงตกโดยระบบป้องกันทางอากาศของพวกเรา มีหนึ่งในนั้นได้บินไปที่ตึกสูงหลัวงเดิมในกรุงมองโกเหมือนคราวที่แล้ว ด้านหน้าของชั้น 17 (ของอาคาร) ได้รับความเสียหาย" นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกแถลง
สกายนิวส์รายงานว่า ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา (Maria Zakharova) ในวันเดียวกัน (1) ได้ออกมาเปรียบเทียบในเหตุการณ์อาคารสูงในย่านการเงินของกรุงมอสโกถูกโจมตีด้วยโดรนว่าไม่ต่างจากเหตุการณ์ก่อการร้าย 9/11 ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
“ขอให้มองไปที่อีกหนึ่งตัวอย่างคือ เหตุการณ์ 9/11 โจมตีตึกแฝดที่ส่งผลต่อการสูญเสียอย่างมหาศาลแต่วิธีการนั้นเหมือนกัน” เธอกล่าว
พร้อมกันนี้ ซาคาโรวายังเปิดเผยต่อว่า ย่านเขตกรุงมอสโกที่ตกเป็นเป้าหมายถือเป็นย่านสำคัญทางพลเรือน เป็นที่ตั้งของสำนักงานออฟฟิศและศูนย์ธุรกิจ และแหล่งที่พักอาศัยอันน่ามีชีวิตชีวาที่มีอพาร์ตเมนต์ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก และอาคารสำนักงานบริหารรัฐที่ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพรัสเซีย