บีบีซี สื่อทรงอิทธิพลของอังกฤษฉาวอีกแล้ว ยอมสั่งพักงานผู้ประกาศชายคนดังในวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) หลังเคยทำเฉยเมื่อ 2 เดือนก่อน อ้างเพิ่งได้ข้อมูลใหม่เรื่องเขาถูกกล่าวหาจ่ายเงิน 35,000 ปอนด์ให้วัยรุ่นอายุ 17 ปีถ่ายภาพโป๊ส่งให้ มิหนำซ้ำล่าสุดเดอะ ซันยังแฉว่า พรีเซ็นเตอร์ที่กลายเป็นข่าวเสียเองผู้นี้ร้อนใจโทรศัพท์หาวัยรุ่นชายคนนั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและขอสายพูดกับแม่เด็กเพื่อรบเร้าให้ถอนแจ้งความยุติการสอบสวน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน ผู้ประกาศชายที่ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ แต่ถูกระบุว่า เป็นพรีเซ็นเตอร์โด่งดังซึ่งรู้จักกันทั่วทุกครัวเรือน ได้โทรศัพท์หาวัยรุ่นที่ตนเองจ้างให้ถ่ายภาพอนาจารและถามว่า “ทำอะไรลงไป” ก่อนขอคุยกับแม่เด็กและรบเร้าให้ถอนแจ้งความเพื่อยุติการสอบสวน
ทว่า ผู้เป็นแม่กลับออกมาแฉว่า ไม่พอใจกับคำแถลงของบีบีซี พร้อมสำทับว่า ตอนที่ร้องเรียนเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ไม่มีคนจากบีบีซีติดต่อมาเลย มิหนำซ้ำผู้ประกาศคนดังกล่าวยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ
รายงานระบุว่า ผู้ประกาศผู้นี้จ่ายเงินค่ารูปโป๊ 35,000 ปอนด์ (45,000 ดอลลาร์) ให้วัยรุ่นผู้นี้ตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งแม่เด็กระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปซื้อยาเสพติด
จากรายงานของเดอะ ซัน ผู้ประกาศผู้นี้ขอให้วัยรุ่นถ่ายรูปโป๊ส่งให้ครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งขณะนั้นเขายังเป็นผู้เยาว์อายุ 17 ปี และจ่ายเงินจ้างอีกหลายครั้งตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แม่เด็กเปิดเผยกับเดอะ ซันว่า เห็นรูปผู้ประกาศผู้นี้จากวิดีโอคอลในมือถือลูก โดยเป็นภาพชายผู้นี้นั่งบนโซฟาโดยสวมแค่กางเกงใน และ “ท่าทางดูเหมือนพร้อมให้ลูกฉันถ่ายภาพอนาจารส่งให้”
ทางด้านบีบีซี ซึ่งเป็นบริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงเก่าแก่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ระบุในคำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (9) ว่า กำลังดำเนินการกระบวนการภายในแบบเชิงรุก เพื่อจัดการกับข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างจริงจัง โดยที่ได้มีการสั่งพักงานพนักงานชายผู้หนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ บีบีซีได้รับความสนับสนุนหลักด้วยการที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรจัดเก็บค่าธรรมเนียมรายปีให้จากผู้ชมโทรทัศน์ โดยบีบีซีอ้างเสมอว่าตนปฏิบัติงานด้วยความเป็นกลางแบบมืออาชีพ และยึดมั่นในจรรยาบรรณาวิชาชีพอย่างสูงส่ง
บีบีซีสำทับว่า แม้ได้รับรู้เกี่ยวกับการร้องเรียนนี้ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม แต่เพิ่งได้รับทราบข้อกล่าวหาใหม่ “ในรายละเอียดที่ต่างออกไป” เมื่อวันพฤหัสบดี (6) และได้ติดต่อกับหน่วยงานภายนอกตามกระบวนการของบริษัท
ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจนครบาลอังกฤษยืนยันว่า ได้รับการติดต่อจากบีบีซี แต่ระบุว่า ไม่มีการอ้างอิงหรือกล่าวหาอย่างเป็นทางการใดๆ และเสริมว่า จะขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
มีการคาดหมายว่า บีบีซีจะเข้าพบตำรวจนครบาลในวันจันทร์ (10)
นอกจากนั้น ในอีเมลที่ส่งถึงพนักงานเมื่อวันอาทิตย์ ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่บีบีซี กล่าวว่า บีบีซีกำลังจัดการข้อกล่าวหาอย่างจริงจังมาก แต่การที่กฎหมายกำหนดให้บุคคลสามารถคาดหวังความเป็นส่วนตัวในระดับที่เหมาะสม จึงทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น
เขายังบอกอีกว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาประณามข่าวลือที่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์บนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับพนักงานที่มีความสามารถบางคนของบีบีซี และบริษัทกำลังติดต่อครอบครัวที่ถูกระบุถึงในข่าว และต้องการยืนยันว่าบริษัทกำลังเร่งสืบหาความจริง
การกล่าวหาที่ปรากฏในรายงานของเดอะซัน ถูกมองว่ายังไม่มีความชัดเจนว่า มีหลักฐานอะไรและได้มาจากไหน และเป็นการละเมิดกฎหมายจริงหรือไม่ นอกจากนั้น กฎหมายหมิ่นประมาทของสหราชอาณาจักรยังปกป้องบุคคลจากอันตรายหรือความเสียหายต่อชื่อเสียงที่เกิดจากคำพูดที่ได้รับการพิสูจน์ในภายหลังว่าไม่เป็นความจริง
บีบีซีทิ้งท้ายว่า คาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในอีกไม่กี่วัน
ขณะเดียวกัน ลูซี เฟรเซอร์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมที่ได้คุยโทรศัพท์กับเดวี ทวีตว่า บีบีซีกำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง และด้วยลักษณะของข้อกล่าวหาจึงจำเป็นที่บีบีซีจะต้องมีพื้นที่ในการสอบสวนภายใน ค้นหาข้อเท็จจริง และดำเนินมาตรการที่เหมาะสม
อนึ่ง นับจากเดอะ ซันเผยแพร่ข้อกล่าวหานี้ ผู้ประกาศบางคนของบีบีซีได้ออกมาปฏิเสธทางโซเชียลมีเดียว่า ตนไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ที่ถูกกล่าวหา
บีบีซี เพิ่งประสบมรสุมลูกใหญ่ในเรื่องเครดิตความน่าเชื่อถือ โดยที่ประธานกรรมการเพิ่งลาออกเมื่อเดือนเมษายน หลังตรวจสอบพบว่า เขาไม่ยอมเปิดเผยเรื่องให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่อดีตนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน และเวลานี้กำลังถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับการจัดการกับข้อกล่าวหาล่าสุด
ปรีติ พาเทล อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยและสมาชิกรัฐสภาจากพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาล วิจารณ์ว่า การตอบสนองของบีบีซีเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะ และสิ่งที่ต้องทำคือเปิดการสอบสวนอย่างเต็มที่และโปร่งใสและให้ข้อมูลแก่เหยื่อและครอบครัว
ด้านราเชล รีฟส์ สมาชิกพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์สกาย นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ทั้งบีบีซี และบริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอื่นๆ ต้องตั้งสติ เพราะดูเหมือนเกิดเรื่องอื้อฉาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ
ทั้งนี้ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฟิลลิป โชฟิลด์ พิธีกรดังทางทีวีลาออกจากสถานีโทรทัศน์ไอทีวีหลังยอมรับว่า มีความสัมพันธ์ “อย่างไม่ฉลาดแต่ไม่ผิดกฎหมาย” กับเพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่า
(ที่มา : เดอะซัน, สกายนิวส์, เอเอฟพี)
