ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกอาการสับสน จะพาดพิงถึง "ยูเครน" แต่ดันเรียกว่าเป็น "อิรัก" ถึง 2 รอบ ในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำรายนี้
ในตอนเช้าวันพุธ (28 มิ.ย.) ตอนที่ ไบเดน พูดคุยกับกลุ่มผู้สื่อข่าวบริเวณด้านนอกทำเนียบขาว ก่อนออกเดินทางไปชิคาโก ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามประธานาธิบดีรายนี้ เขาเชื่อหรือไม่ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อ่อนแอลงจากเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ในรัสเซีย ในนั้นรวมถึงการก่อกบฏที่แท้งไปแล้ว ของกลุ่มนักรบวากเนอร์ที่นำโดย เยฟเกนี ปรีโกจิน
"มันยากที่จะบอก แต่ชัดเจนว่าเขากำลังพ่ายแพ้ในสงครามอิรัก เขากำลังพ่ายแพ้สงครามในประเทศ และเขากลายมาเป็นคนนอกคอกของทั่วโลก และไม่ใช่แค่กับนาโต ไม่ใช่แค่กับสหภาพยุโรป มันรวมถึงญี่ปุ่น อย่างที่คุณรู้ มีถึง 40 ประเทศ"
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าก่อนหน้านั้นในคืนวันอังคาร (27 มิ.ย.) ระหว่างกล่าวที่งานระดมทุนหนึ่งในเมืองเชวีเชส รัฐแมรีแลนด์ ไบเดน ก็เรียกยูเครนเป็นอิรักเช่นกัน ครั้งที่โอ้อวดความเป็นหนึ่งเดียวกันของนาโต ตามหลังการรุกรานของรัสเซีย
นอกจากนี้ ระหว่างขึ้นปราศรัยในงานระดมทุนเพื่อการหาเสียงเลือกตั้ง เขายังสับสนระหว่างอินเดียกับจีน ตอนที่กล่าวถึงความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดีย
ไบเดน พยายามที่จะกล่าวว่า "อินเดีย" ไม่ได้แค่มองหาความเป็นพันธมิตรถาวรของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังมองหาพันธมิตรที่จะป้องกันความเสี่ยงในภูมิภาคอีกด้วย แต่ ปธน.ไบเดน กลับพูดผิดเป็น "จีน" แต่เขาได้แก้ไขคำพูดของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก เผยให้เห็นว่าบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตของไบเดน และผู้มีสิทธิออกเสียงส่วนใหญ่เชื่อว่าเขาแก่เกินแกงแล้วที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกสมัย
ณ วัย 80 ปี ปัจจุบันไบเดนคือประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในขณะดำรงตำแหน่ง และหากชนะเลือกตั้ง เขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัย 2 ในวัย 82 ปี ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเต็งตัวแทนจากรีพับลิกัน เพิ่งอายุครบ 77 ปีไปไม่นาน และจะมีอายุ 79 ปี ในช่วงเวลาของการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง หากเขาชนะศึกเลือกตั้ง
(ที่มา : อินไซเดอร์)