อัยการเกาหลีใต้ฟ้องอดีตผู้บริหารซัมซุงขโมยความลับทางการค้าที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ” ซ้ำตั้งโรงงานชิปคอมพิวเตอร์เลียนแบบจากเทคโนโลยีที่ขโมยมาใกล้กับโรงงานซัมซุงในจีนไม่ถึงไมล์
สำนักงานอัยการเขตซูวอนของเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่า อดีตผู้บริหารซัมซุง วัย 65 ปี ขโมยความลับทางการค้าของบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้แห่งนี้ เพื่อนำไปใช้ในการตั้งโรงงานในเมืองซีอานของจีน
ข้อมูลที่ชายผู้นี้ขโมยไปถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ” กล่าวคือเป็นนวัตกรรมที่กฎหมายเกาหลีใต้ระบุว่า อาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ หากถูกนำไปเปิดเผยแก่ต่างชาติ
โฆษกสำนักงานอัยการเขตซูวอนเสริมว่า ผู้ต้องหารายนี้ถูกควบคุมตัวมาระยะหนึ่งแล้วแต่เพิ่งถูกฟ้องเมื่อวันจันทร์ (12) และขณะนี้ถูกกักขังอยู่ที่ศูนย์ควบคุมตัวในซูวอน
อัยการเกาหลีใต้ระบุว่า เทคโนโลยีที่บริษัทของผู้ต้องสงสัยรายนี้ขโมยไป สำหรับซัมซุงแล้วมีมูลค่าอย่างน้อย 233 ล้านดอลลาร์
แผนการสร้างโรงงานเลียนแบบที่อยู่ห่างจากโรงงานผลิตชิปของซัมซุงแห่งหนึ่ง
ใน 3 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในจีน โดยอยู่ใกล้ๆ ในระยะทางที่ใช้เวลาเดินไม่ถึง 20 นาทีนั้น เริ่มมีความคืบหน้าก่อนที่อัยการเกาหลีใต้จะเข้าแทรกแซง
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า หลังจากบริษัทไต้หวันแห่งหนึ่งผิดสัญญาในการลงทุน 6,200 ล้านดอลลาร์ อดีตผู้บริหารของซัมซุงผู้นี้สามารถระดมทุนได้จากนักลงทุนจีนราว 357 ล้านดอลลาร์เพื่อผลิตสินค้าทดลองโดยอิงกับเทคโนโลยีของซัมซุง
การปกป้องซัปพลายชิปขั้นสูงเป็นประเด็นสำคัญระหว่างประเทศ ขณะที่จีนและอเมริกาต่อสู้กันดุเดือดเพื่อควบคุมตลาดนี้ สำหรับเกาหลีใต้นั้นเซมิคอนดักเตอร์ครองส่วนแบ่งเกือบ 17% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ซัมซุงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปความจำและสมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุดในโลก และมียอดขายรวมเท่ากับ 1 ใน 5 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้
ระหว่างการแถลงข่าว สำนักงานอัยการเขตซูวอนระบุว่า ได้ใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับอดีตผู้บริหารของซัมซุง ซึ่งมีการเปิดเผยเพียงว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้
หลังจากทำงานกับซัมซุงนาน 18 ปี ชายผู้นี้ย้ายไปรับตำแหน่งบริหารราว 1 ทศวรรษที่เอสเค ไฮนิกซ์ บริษัทผลิตชิปรายใหญ่อีกแห่งของเกาหลีใต้
ต่อมา อดีตผู้บริหารซัมซุงผู้นี้ได้ตั้งบริษัทผลิตชิปในจีนและสิงคโปร์โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนจีนและไต้หวัน และซื้อตัวผู้เชี่ยวชาญด้านชิปกว่า 200 คนจากซัมซุงและไฮนิกซ์โดยให้ค่าตอบแทนสูงกว่า ก่อนจัดการขโมยเทคโนโลยีสำคัญจากซัมซุง
ความลับในการผลิตที่ขโมยมารวมถึงพิมพ์เขียวการประมวลผล และข้อมูลพื้นฐานด้านวิศวกรรมสำหรับการออกแบบสภาพแวดล้อมห้องปลอดเชื้อเพื่อป้องกันการปนเปื้อนระหว่างการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอัยการระบุว่า เป็นเทคโนโลยีหลักแห่งชาติของเกาหลีใต้
สำนักงานอัยการเสริมว่า ผู้ต้องสงสัยพยายามเลียนแบบโรงงานของซัมซุงทั้งหมดเพื่อผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน ซึ่งสร้างความเสียหายและเป็นอาชญากรรมร้ายแรงอย่างมากในระดับที่ไม่อาจเปรียบเทียบได้กับคดีลักษณะเดียวกันที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ชิปที่ผลิตจากโรงงานเหล่านั้นที่ใช้ในส่วนจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ยังช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
อัยการเกาหลีใต้ยังฟ้องผู้ต้องหาอีก 6 คนที่ทำงานให้อดีตผู้บริหารของซัมซุงที่เชื่อว่า เกี่ยวข้องกับการขโมยความลับทางการค้าครั้งนี้
(ที่มา : เอพี, เอเอฟพี, บิสซิเนสอินไซเดอร์)