เมืองเทียนจิน (Tianjin) ทางตอนเหนือของจีนสั่งอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากอาคารสูงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังพบปัญหาดินทรุดตัวซึ่งทำให้เกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่บนพื้นถนน
ฝ่ายบริหารเมืองเทียนจินโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียเมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ว่า มีรอยร้าวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนถนนใกล้กับหมู่อพาร์ตเมนต์ในเขตจินหนาน (Jinnan) ซึ่งนักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากปัญหาดินทรุดตัวเป็นโพรงที่ระดับความลึกประมาณ 1,300 เมตร
จากข้อมูลเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. พบว่า มีประชาชนไม่ต่ำกว่า 3,899 คน ถูกอพยพออกจากอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 3 แห่ง โดยทางการได้จัดหาโรงแรมให้พักอาศัยอยู่ชั่วคราว ตามรายงานของสื่อ Global Times
ฝ่ายบริหารเมืองเทียนจินระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็น “ธรณีพิบัติภัยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน” หลังจากได้รับข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์
“มันเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก” ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งให้คำตอบต่อสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารเทียนจินยอมรับว่า การขุดเจาะหลุมพลังงานความร้อน (geothermal wells) อาจจะมีส่วนทำให้เกิดการสูญเสียเนื้อดิน และนำมาซึ่งภาวะดินทรุดตัว (land subsidence)
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า อาคารสูงซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายนี้เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงแตกต่างกันไป
จากภาพที่มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์จะพบว่า พื้นถนนบางส่วนเกิดการโค้งงอและแตกร้าว ขณะที่ชาวเน็ตบางรายโพสต์ภาพกำแพงอาคารที่พังเสียหาย
เหตุการณ์นี้ยิ่งโหมกระพือความวิตกกังวลเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมความปลอดภัยอาคารในจีน ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้กำหนดกฎระเบียบและนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมถึงมีบทลงโทษที่รุนแรงต่อผู้บริหารอาคารที่ฝ่าฝืนกฎ
รัฐบาลจีนยังได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายครั้งเพื่อเตรียมมาตรการรับมือเหตุธรณีพิบัติภัยและภัยพิบัติซ่อนเร้นอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา : รอยเตอร์