ประตูเครื่องบินเอเชียนา แอร์ไลน์ส ถูกเปิดผลัวะขณะอยู่เหนือพื้นดินราว 200 เมตร ในจังหวะที่ว่าอีก 2-3 นาทีก็จะแลนดิ้งสู่รันเวย์สนามบินเมืองแดกู เกาหลีใต้ ส่งผลให้กระแสลมรุนแรงอย่างจัดซัดกระหน่ำหวดเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร ผู้คนกรีดร้องตกใจกันระงม เด็กเล็กร่ำไห้สนั่นโกลาหล ด้านชายหนุ่มตัวต้นเหตุวิกฤตการณ์ทางอากาศก็ตกใจขั้นสุด สองมือกุมที่พักแขนอย่างแน่นสุดชีวิต พร้อมกับเอียงใบหน้าหนีมวลมหาศาลของลมปะทะ ณ ความเร็ว 172 ไมล์ต่อชั่วโมง ซีเอ็นเอ็นรายงานตามภาพที่ปรากฏบนคลิปวิดีโอซึ่งแชร์กันทั่วจักรวาลอินเทอร์เน็ต
ชายวัย 30 กว่าปี ซึ่งนั่งติดประตูฉุกเฉินช่วงครึ่งหลังของเครื่องบินแอร์บัสไฟลต์ระทึก ยอมสารภาพว่าตนเป็นคนเปิดจริง เดลิเมล์ออนไลน์รายงาน พร้อมให้ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมแห่งเกาหลีใต้ว่า มีหลายคนเห็นเหตุการณ์ และพยายามร้องห้าม แต่มนุษย์มือบอนก็ดื้อรั้นจนกลายเป็นเหตุร้ายขึ้นมา แต่ก็บุญรักษา ในห้วงเวลาดังกล่าวทุกคนอยู่บนที่นั่งและรัดเข็มขัดกันเรียบร้อยแล้ว จึงไม่เกิดการบาดเจ็บรุนแรง หรือการเสียชีวิต
ที่สำคัญคือ นักบินมีศักยภาพสูงยิ่ง สามารถนำเครื่องลงจอด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติแดกู ได้อย่างปลอดภัย ณ เวลา 12.45 น. วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2023
ตำรวจทำการจับกุมมนุษย์มือบอนรายดังกล่าว ซึ่งสารภาพว่าเป็นผู้ที่เปิดประตูฉุกเฉิน แต่ไม่ได้บอกถึงสาเหตุหรือแรงจูงใจ พร้อมนี้คำแถลงข่าวของกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคมขนส่งชี้ว่า การก่อเหตุอันตรายครั้งนี้เป็นการละเมิด พ.ร.บ.ความปลอดภัยด้านการบิน มีระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ซีเอ็นเอ็นให้รายละเอียดอย่างนั้น
เครื่องบินแอร์บัส 321 ของสายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ส ที่ประสบวิกฤตการณ์ครั้งนี้ นำผู้โดยสาร 194 ราย ออกเดินทางจากเกาะเจจูทางใต้สุดของประเทศ มุ่งหน้าสู่เมืองแดกูในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีนักกีฬาวัยรุ่นจำนวน 48 ราย ที่เดินทางมาด้วย โดยจะต้องเดินทางต่อจากนครแดกู ไปนครอูลซาน เพื่อเข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติ
ในวิดีโอคลิปที่มีการแชร์สนั่นทั่วโลก จะเห็นชัดเจนว่ากระแสลมหวดซัดเข้าภายในลำเรือบินอย่างรุนแรง ผ้าคลุมพนักพิงศีรษะถึงกับสะบัดสุดคลั่ง ขณะที่เส้นผมของ 2 หนุ่มผู้โดยสารข้างประตูฉุกเฉินก็ถูกลมตีกระเจิงไปมา และมีเสียงของใครต่อใครตะโกนโหวกเหวกโกลาหลในความช็อก
ส่วนในอีกคลิปหนึ่ง จะเห็น 2 หนุ่มผู้โดยสารนั่งข้างช่องโหว่ของประตูเครื่องบิน โดยมีการรัดเข็มขัด ทั้งคู่อยู่ในอาการทุรนทุรายท่ามกลางกระแสลมที่หวดกระหน่ำไปทั่วทั้งตัว และในความหวาดผวาสุดๆ ทั้ง 2 คนกำที่พักแขนไว้อย่างเกร็งแน่น โดยคนหนึ่งถึงกับกอดที่พักแขนไว้แนบอก เดลิเมล์ออนไลน์เล่าอย่างนั้น
ด้านสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้เล่าว่าผู้โดยสารวัย 44 ปี บอกว่าพอประตูเปิดผางออกไป ทุกอย่างทุกคนก็โกลาหลเสียขวัญกันไปหมด
“มันโกลาหลหนักเลย พวกคนที่นั่งใกล้ช่องประตูสลบไปทีละคน พนักงานประจำไฟลต์ประกาศขอบรรดาแพทย์ซึ่งเดินทางมาด้วย ให้กรุณามาช่วยผู้ป่วย และมีหลายคนที่วิ่งแตกตื่นตกใจไปตามช่องทางเดินระหว่างแถวเก้าอี้ เพื่อหนีให้ห่างที่สุด” ผู้โดยสารรายดังกล่าวเล่าอย่างละเอียด
“ดิฉันนึกว่าเครื่องบินระเบิดค่ะ ใจก็คิดว่าเราต้องมาตายอย่างนี้ละหรือ เด็กๆ ตกใจเสียขวัญร้องไห้จ้าไปหมด ใครที่นั่งใกล้ช่องประตูคงจะช็อกหนักที่สุดล่ะค่ะ” คุณแม่ของนักกีฬารายหนึ่งเล่ากับยอนฮัป
หน่วยกู้ภัยแห่งแดกูให้ตัวเลขแก่ซีเอ็นเอ็นว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้านทางเดินหายใจและปวดแก้วหู 12 ราย โดยมี 9 รายถูกส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
เจฟฟรีย์ โทมัส ผู้เชี่ยวชาญการบินให้ความเห็นแก่ซีเอ็นเอ็นว่าเหตุการณ์นี้ “ประหลาดมาก”
“ในทางเทคนิคแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดประตูเครื่องบินขณะเคลื่อนตัวในอากาศครับ”
ผู้เชี่ยวชาญโทมัสบอกด้วยว่า ขณะแลนดิ้งเครื่องแอร์บัส 321 ณ ความเร็ว 172 ไมล์ต่อชั่วโมง จะมีลมต้านด้านนอกลำเรือ
“มันน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ประตูจะเปิดออกไปได้ และยิ่งเป็นการเปิดแบบต้านกับกระแสลมด้านนอกเครื่องด้วยแล้ว ต้องบอกว่าในทางเทคนิคนั้นเป็นไปไม่ได้ครับ แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว” เจฟฟรีย์ โทมัส กล่าวกับซีเอ็นเอ็น
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมแห่งเกาหลีใต้ได้ส่งผู้ควบคุมดูแลความปลอดภัยการบินไปยังที่เกิดเหตุเพื่อเช็กว่ามีความผิดปกติใดๆ ในส่วนของตัวอากาศยานหรือไม่ จึงทำให้ผู้โดยสารสามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ขณะตัวเครื่องเคลื่อนที่ในอากาศ
ส่วนเอเชียนา แอร์ไลน์สแจ้งซีเอ็นเอ็นว่า
“เครื่องบินถูกตั้งระบบอัตโนมัติให้ปรับความดันในห้องโดยสารตามระดับความสูงขณะทำการบิน ขณะที่เครื่องอยู่สูงขึ้นไปในอากาศมันจะเปิดประตูไม่ได้เลย แต่สำหรับเวลาที่เครื่องอยู่ในอัลติจูดล่างๆ ใกล้ๆ พื้นดิน ประตูจะอยู่ในโหมดที่เปิดได้”
วิกฤตการณ์แห่งประตูฉุกเฉินเปิดออกขณะเครื่องบินเคลื่อนตัวกลางอากาศ ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์การบินของเกาหลีใต้ เดลิเมลออนไลน์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทีมกำกับดูแลความปลอดภัยการบินของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ว่า เท่าที่มีการบันทึกประวัติศาสตร์การบินของเกาหลี วิกฤตการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น
ประวัติศาสตร์การบินของเกาหลีใต้มีภูมิหลังด้านความปลอดภัยที่เข้มแข็งมาก บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวอย่างนั้น
ในเวลาเดียวกัน เดลิเมลออนไลน์ให้ข้อมูลของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลนส์ ว่า เอเชียน่าซึ่งตั้งกิจการในปี 1988 และเป็นคู่แข่งกับ โคเรียนแอร์ สายการบินแห่งชาติ ได้ประสบวิกฤตการณ์ครั้งร้ายแรงในเดือนกรกฎาคม 2013 โดยเครื่องโบอิ้ง 777 กระแทกพสุธาขณะนักบินทำการลงจอดที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และมีการระเบิดตลอดจนมีเพลิงไหม้ ส่งผลเป็นการเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 182 รายซึ่งเป็นเคสสาหัส 49 ราย ขณะที่จำนวนผู้ที่ปลอดภัยอยู่ที่ 122 ราย
สำหรับ 4 รายที่บาดเจ็บสาหัสคือพนักงานต้อนรับ ซึ่งขณะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทั้งสี่รายนั่งประจำเก้าอี้สำหรับพนักงานต้อนรับโดยคาดเข็มขัดนิรภัยครบถ้วน แต่เนื่องจากจุดแห่งอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ส่วนหางของลำ และเป็นการหักหลุดจากตัวเครื่อง เก้าอี้ของทั้งสี่รายนี้กระเด็นออกจากเครื่องไปตกคาอยู่บนรันเวย์
ส่วนกรณีประตูเครื่องบินเปิดผางกลางอากาศเคยมีเกิดขึ้นกับเครื่องบินแอนโตนอฟ An-26 ของรัสเซีย เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา (2023) ที่เมืองมาแกนย่านไซบีเรียตะวันออก โดยประตูท้ายลำเรือกระเด้งเปิด หลังเครื่องบินทะยานขึ้นไปครู่เดียว ผู้โดยสารทั้ง 25 รายปลอดภัยดี แต่บรรดาสัมภาระและหมวก คือ ถูกอากาศภายนอกเครื่องดูดปลิวหวือหายไปในเวิ้งฟ้าอุณหภูมิ (-)41 องศาเซลเซียส และนักบินนำเครื่องกลับลงจอดทันที
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น เดลิเมล์ออนไลน์ เดอะการ์เดียน เอพี ยอนฮัป)