xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ คุยโว! เล่นงานภาคพลังงานเห็นผล รัสเซียมีรายได้จากการขายน้ำมันลดลงฮวบฮาบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายได้จากน้ำมันของรัสเซียลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซีย ในฐานะบทลงโทษต่อกรณีรุกรานยูเครน จากการเปิดเผยของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (18 พ.ค.) อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของมอสโก เพิ่งออกมาระบุหนึ่งวันก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศหดตัวน้อยกว่าคาดและน่าจะกลับสู่การเติบโตในปีนี้ แม้ถูกคว่ำบาตรไปแล้วหลายรอบ

"แม้ในเบื้องต้น ตลาดมีความเคลือบแคลงในวงกว้างเกี่ยวกับข้อจำกัดเพดานราคา แต่เวลานี้ผู้เล่นในตลาดและนักวิเคราะห์ทางภูมิรัฐศาสตร์ยอมรับแล้วว่า มาตรการเพดานราคาประสบความสำเร็จทั้ง 2 เป้าหมาย" รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ พร้อมเผยว่า ข้อจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กำหนดโดยจี7 สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ทำให้รายได้จากน้ำมันลดลงอย่างมาก จากที่มีสัดส่วนสูงสุดถึง 35% ของงบประมาณโดยรวมของรัสเซีย ก่อนทำสงคราม เหลือเพียง 23% ในปีนี้

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อ้างข้อมูลของกระทรวงการคลังของรัสเซีย ระบุว่า รายได้จากน้ำมันของรัฐบาลกลางรัสเซียลดลงถึง 40% ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

รายได้ที่ลดลงเกิดขึ้นแม้ว่าโดยรวมแล้ว รัสเซียส่งออกน้ำมันไปประเทศต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในปีที่แล้ว ในนั้นรวมไปถึงอินเดีย

เชื่อว่ารายงานดังกล่าวจะสร้างความยินดีปรีดาแก่บรรดาผู้นำจี7 ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างจัดประชุมซัมมิตในญี่ปุ่น คาดหมายว่าพวกเขาจะพิจารณาออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซียต่อกรณีทำสงครามในยูเครน และหาทางบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรปัจจุบันให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันนั้น ทาง สำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซีย (รอสสแตท) เปิดเผยเมื่อวันพุธ (17 พ.ค.) ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของรัสเซียหดตัวเพียง 1.9% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 น้อยกว่าที่คาดหมายไว้อย่างมาก และอยู่บนเส้นทางที่จะกลับมาเติบโตในปีนี้

เศรษฐกิจของรัสเซียถูกฉุดจากมาตรการคว่ำบาตรหลายระลอกของตะวันตก ที่กำหนดเล่นงานพวกเขาต่อกรณีรุกรานยูเครน ในนั้นรวมถึงมาตรการแบนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรัสเซียของสหภาพยุโรป นอกเหนือจากข้อกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซีย

แคปิตอล อีโคโนมิกส์ สถาบันวิจัยอิสระที่มีสำนักงานในลอนดอน ระบุว่า มันเป็นการหดตัวน้อยกว่าที่คาดหมาย ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของรัสเซียเริ่มจะดีขึ้นแล้วและการเติบโตเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

สถาบันวิจัยแห่งนี้บอกว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและกระตุ้นยอดขายปลีก "เราคิดว่าเศรษฐกิจของรัสเซียโดยรวมอยู่บนเส้นทางของจีดีพีเติบโตเป็นบวกในปี 2023" ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจรัสเซียหดตัว 2.1%

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ข้อมูลของทบวงพลังงานสากล (ไอเออี) บ่งชี้ว่ามาตรการคว่ำบาตรได้ส่งผลกระทบพอประมาณกับเศรษฐกิจของรัสเซีย

ทบวงพลังงานสากล (ไออีเอ) เคยระบุในรายงานเมื่อเดือนมีนาคม ว่า แม้ปริมาณการส่งออกน้ำมันของรัสเซียแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครน แต่รายได้จากน้ำมันลดลงถึง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

รายได้จากน้ำมันที่ลดลงส่งผลกระทบต่อตัวเลขขาดดุลงบประมาณ ซึ่งแตะระดับ 3.4 ล้านล้านรูเบิล (42,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน ซึ่งมากกว่าเป้าหมายขาดดุลงบประมาณ 2.9 ล้านล้านรูเบิลเป็นอย่างมาก

กะทรวงการคลังรัสเซียระบุว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากรายได้ทางพลังงานที่ลดลง (-52%) และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (+26%) ส่วนหนึ่งจากการรุกรานยูเครน

กระนั้นในวันพุธ (17พ.ค.) ทางรอสสแตท ระบุว่า ภาคก่อสร้างและเกษตรกรรมสามารถยืนหยัดได้เป็นอย่างดีในช่วงไตรมาสแรก

พวกผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ด้วยวิถีนี้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณอาจแตะระดับ 3% ถึง 4% ของจีดีพี เหนือกว่าระดับเป้าหมายที่วางเอาไว้ 2% อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อนั้นลดลงจากระดับ 3.5% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2.3% ในเดือนเมษายน

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น