อาสาสมัครยูเครนกลุ่มหนึ่งดัดแปลงรถปอร์เช่ Cayenne SUV 3.0 เป็นยานยนต์ทหาร สำหรับมอบให้แก่หนึ่งในบรรดาผู้บัญชาการกองทัพที่กำลังรับหน้าที่เป็นผู้นำในการสู้รบสกัดการรุกรานของรัสเซีย
ผู้บริจาคจากเยอรมนี ได้มอบรถหรูคันดังกล่าว มูลค่าอย่างน้อย 70,000 ดอลลาร์ (ราว 2.3 ล้านบาท) ให้แก่ทีมงาน Car4Ukraine ในเดือนมีนาคม ซึ่งมันมีความแตกต่างอย่างมากจากยานยนต์ปกติทั่วไปที่พวกเขาดัดแปลงมันเป็นรถกระบะสงคราม สำหรับมอบให้ทหารยูเครนนำไปสู้รบต่อกรกับกองทัพพญาหมีขาว
"ทีมงานของเราได้รับปอร์เช่คันนี้มา มันเป็นงานท้าทายอย่างมากในการหาหนทางที่ดีที่สุดที่จะใช้งานรถหรูคันนี้" โรมาน ฮาปาชีโล ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Car4Ukraine กล่าว
ปกติแล้วทีมงานจะเสริมความเข้มแข็งแก่รถกระบะพลเรือนที่ได้รับบริจาคมาด้วยแผ่นเหล็กเพื่อหุ้มเกราะรถยนต์ และติดตั้งปืนกลหรือจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา ไม่ว่าจะเป็นเจฟลิน NLAW และสตินเจอร์ บริเวณท้ายกระบะ
Thanks to our partners Give Care who unite people of Germany 🇩🇪 and The Netherlands 🇳🇱 donating us different cars and even #Porsche
In Ukraine we don’t just wait for #Leopards and #F16. We create our own vehicles ready to assist in the war.
Learn more: https://t.co/1BpBVGCQvu https://t.co/DYE8gPmbJS pic.twitter.com/Liuykp3WAT— car4ukraine.com (@carforukraine) April 26, 2023
แต่สำหรับรถปอร์เช่แล้ว มันเป็นโครงงานที่ต่างออกไป เวลานี้มันถูกดัดแปลงเป็นยานยนต์ทหารไฮเทค ติดตั้งกล้องเวอร์ชันกลางคืนและระบบอินเทอร์เน็ตสตาร์ลิง
นอกจากนี้ รถปอร์เช่คันนี้ยังถูกดัดแปลงให้สามารถขับฝ่าภูมิประเทศต่างๆ ในขณะที่เวอร์ชันพลเรือนของรถรุ่นนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 273 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาไม่ถึง 5 วินาที
รายงานข่าวระบุว่า เวลานี้มันถูกส่งไปแนวหน้าร่วมกับกองพลยานยนต์ที่ 24 ซึ่งเป็นกองพลเก่าแก่ที่สุดภายในกองกำลังทหารราบของยูเครน ขณะที่พบเห็นกองพลนี้ถูกส่งเข้าร่วมในศึกสมรภูมินองเลือดรอบเมืองบัคมุต ทางตะวันออกของยูเครน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
รถปอร์เช่คันดังกล่าวเป็นหนึ่งในรถยนต์ 244 คัน ที่ทาง Car4Ukraine ทำการดัดแปลงแล้วส่งมอบให้กองทุนยูเครน โดยรถยนต์รุ่นที่เป็นที่ชื่้นชอบที่สุดในสงคราม เช่น โตโยต้า ไฮลักซ์ และโตโยต้า ทุนดรา มิตซูบิชิ L200 ฟอร์ด เรนเจอร์ นิสสัน นาวาร่า และนิสสัน คิงแค็บ อีซูซุ ดีแมคซ์ มาสด้า BT-50 และมาสด้า B2500 รวมไปถึงจี๊ป กลาดิเอเตอร์
(ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์)