น้ำมันขึ้นคลายกังวล ศก.สหรัฐฯ ทองบวก-หุ้นมะกันปิดแคบ จับตาข้อมูลเงินเฟ้อ

ราคาน้ำมันขยับขึ้น 2% ในวันจันทร์ (8 พ.ค.) ความกังวลลดน้อยลงเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะดิ่งสู่ภาวะถดถอย ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ และทองคำปรับขึ้น นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อที่จะมีการเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ข้อมูลการจ้างงานอันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน ช่วยให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นราว 4% เมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) และปัจจัยนี้เองยังเป็นแรงผลักดันตลาดต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ (8 พ.ค.) แม้ว่าการเข้มแข็งของตลาดแรงงาน อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าเดิม

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (8 พ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ หลังจากขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันซื้อขายก่อนหน้านี้ นักลงทุนเบนเป้าความสนใจสู่รายงานเงินเฟ้ออันสำคัญที่จะเผยแพร่ออกมาในช่วงกลางสัปดาห์

ดาวโจนส์ ลดลง 55.69 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,618.69 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.87 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,138.12 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 21.50 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,256.92 จุด

เกือบตลอดทั้งวัน วอลล์สตรีทแกว่งตัวอย่างผันผวน ท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของไทสันฟู้ดส์และคาทาเลนท์ รวมถึงการฟื้นตัวช่วงสั้นๆ ของหุ้นบรรดาธนาคารระดับภูมิภาคทั้งหลาย

ในสัปดาห์นี้ ไฟจะส่องสว่างไปที่ตัวเลขเงินเฟ้ออันสำคัญของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (10 พ.ค.) ซึ่งคาดหมายว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) น่าจะดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนเมษายน หลังจากปรับขึ้น 0.1% ในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์และข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสัปดาห์นี้เช่นกัน

ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนประเมินว่าวงจรคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของเฟด ในนั้นรวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบล่าสุดอีก 0.25% ในสัปดาห์ที่แล้วสามารถช่วยฉุดรั้งเงินเฟ้อได้หรือไม่

ปัจจัยดังกล่าวนี้เองผลักให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ในวันจันทร์ (8 พ.ค.) ปิดในแดนบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,033.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา : รอยเตอร์)